งั้นก็อยู่ยาว..."สมบัติ"ฟันธงวิกฤติมาเต็มหลังหมดยุค คสช.(รายละเอียด)

สมบัติฟันธงวิกฤติมาเต็มหลังหมดยุค คสช

วันที่ 8ส.ค.59 นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ อดีตประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมืองสภาปฏิรูปแห่งชาติ กล่าวว่า ร่างรัฐธรรมนูญผ่านประชามติเป็นผลสะท้อนว่าประชาชนนิยมชื่นชอบ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่เข้ามาทำให้บ้านเมืองสงบขึ้นซึ่งดูจากผลโพลสำรวจต่างๆตอบว่าชื่นชอบนายกรัฐมนตรีไม่มีคนพูดถึงรัฐธรรมนูญปราบโกง ก่อนหน้านายกออกมาประกาศชัดเจนว่ารับร่างและคำถามพ่วงทำให้คนที่ชื่นชอบตัวของนายกรัฐมนตรีออกไปสนับสนุนการเรียกว่าปรากฎการณ์ชื่นชอบทางการเมืองกระแสความนิยมตัวบุคคล

นายสมบัติยัง กล่าวอีกว่า สะท้อนว่าขณะนี้ประเทศไทยมีประชาชนส่วนมากชื่นชอบนิยมหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติแต่ไม่ได้ยอมรับทั้งประเทศ มีพื้นที่ภาคอีสาน ภาคเหนือตอนบน คะแนนไม่รับมากกว่า ยืนยันถึงการเป็นฐานที่มั่นของพรรคเพื่อไทยว่ามีมวลชนเหนียวแน่นยังเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ แม้ในขณะที่มีกฎหมายคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติคุมการเคลื่อนไหวอยู่มีข้อจำกัดต่างๆ สะท้อนว่าพร้อมเผชิญหน้าทางการเมืองหลังคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติลงจากอำนาจ เท่ากับว่าเวลาสงบสุขของบ้านเมือง มีแค่ช่วง 17 เดือนนี้ถึงเลือกตั้งปลายปี60 ต่อจากนั้นไม่มีกฎของคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติกลุ่มเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลน่าจะออกมากเพราะในร่างรัฐธรรมนูญนี้ออกแบบให้เป็นรัฐบาลผสม จะเกิดความอ่อนแอเปลี่ยนรัฐบาลได้ง่ายและหากสมาชิกวุฒิสภาแต่งตั้ง 250 คนไม่เอาด้วยในกฎหมายสำคัญแม้ให้สมาชิกวุฒิสภาเลือกนายกรัฐมนตรีคนนอกได้ก็ช่วยอะไรรัฐบาลหน้าไม่ได้ จะเกิดวิกฤติรอบใหม่ และรัฐบาลน่าจะไม่มีเวลาไปแก้ไขบ้านเมืองตามกฏหมายปฏิรูปเหมือนที่ผ่านมาที่มีกฎหมายปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมออกมาตั้งแต่ปี 2518 จนวันนี้เราปฏิรูปที่ดินไม่เสร็จกฎหมายปฏิรูปการศึกษาประกาศใช้ปี 2512 มาถึงวันนี้ 17 ปีการศึกษาล้มเหลวความว่ากฎหมายปฏิรูปแก้ปัญหาประเทศไม่สำเร็จเพราะความสำเร็จขึ้นอยู่กับรัฐบาลหลังการเลือกตั้งจากเข้มแข็งหรือไม่

 

 

"รัฐบาลหน้าจะเหมือนสมัย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่มีพรรคใดมีเสียงข้างมาก พรรคแกนนำได้เสียงไม่ถึงครึ่ง นายกฯ ไม่มีเอกภาพในการบริหารประเทศ แม้มี ส.ว.เลือกนายกฯ คนนอกได้ ก็ก่อวิกฤติได้เร็วขึ้น ถ้าใช้การป้องกันโดยมีพรรคใหญ่ร่วมสนับสนุนด้วย ซึ่งมันยากมากจากสภาพความเป็นจริง ให้ ส.ว.เลือกนายกฯ เพียงเพื่อต้องการปิดโอกาสพรรคเพื่อไทยไม่ให้เป็นนายกฯ
ในช่วง 5 ปี พรรคเพื่อไทย ต้องนำมวลชนออกมาคัดค้าน ส.ว.แต่งตั้ง เหมือนที่เคยทำมาแล้ว ช่วงปี 52-53 และในวันข้างหน้า ไม่มี คสช.มาคุมแล้ว ส.ว.จะปกป้องอะไรได้

"ดูรูปแบบรัฐบาลหลังการเลือกตั้งไม่สงบสุข โอกาสเกิดวิกฤติสูงมาก ไม่ต้องให้โหรทำนาย พูดตามหลักวิชาการจะเห็นว่าบ้านเมืองเสี่ยงมากที่ใช้รัฐธรรมนูญนี้ แก้ไขได้ยาก"