ผบ.ตร.ยันคดีบึ้ม 7 จว.ใต้คืบกว่า 70% ลั่นเอาผิดทั้งขบวนการ

ผบ.ตร.ยันคดีบึ้ม 7 จว.ใต้คืบ 70% ลั่นเอาผิดทั้งขบวนการ

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แถลงถึงความคืบหน้าเหตุระเบิด 7 จังหวัดภาคใต้ว่า มีการรายงานมาเป็นระยะเนื่องจากเป็นคดีใหญ่ ขอให้ใจเย็นๆ ส่วนแนวทางการสืบสวนของภาพรวมนั้นเป็นไปในทิศทางที่ดีมาก มีความคืบหน้าไปกว่า 70% แล้ว ส่วนความคืบหน้าในการออกหมายจับผู้ต้องหาทราบว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร.ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนอยู่ระหว่างดำเนินการ ทราบว่าขณะนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์อยู่ระหว่างลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ทั้งนี้คิดว่าผู้ต้องหายังหลบหนีอยู่ภายในประเทศ ส่วนจำนวนนั้น ตนขอระบุว่ามีหลายคนดีกว่า

 


ส่วนดีเอ็นเอที่ส่งมาตรวจสอบที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐานกลาง (สพฐ.ตร.) ตรงกับดีเอ็นเอของฐานข้อมูลของศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) หรือไม่นั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ บอกว่า ขณะนี้อยู่ในการดำเนินการเพราะฐานข้อมูลของ ศชต.เยอะมาก ส่วนจะมีการนำไปเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลอื่นหรือไม่นั้น ต้องเปรียบเทียบในส่วนของฐานข้อมูลของ ศชต.ก่อน ถ้าไม่เจอก็ต้องนำไปเปรียบเทียบกับฐานข้อมูลอื่น

รวมถึงเรื่องที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจจะเป็นฝีมือของกลุ่มบีอาร์เอ็นที่เข้ามารับงานในพื้นที่ ผบ.ตร. กล่าวว่า ก็ตั้งกันไป ไม่เป็นไร ไม่ได้ห้ามความคิดใครในการตั้งประเด็นอยู่แล้ว แต่เดี๋ยวข้อเท็จจริงปรากฏก็รู้ว่าเป็นอย่างไร ส่วนการต่อจิกซอว์นั้น ขณะนี้เริ่มชัดเจนขึ้นมาตลอดทุกวัน ซึ่งคณะทำงานชุดใหญ่ก็ลงพื้นที่ทั้งหมดแล้ว ทั้งนครศรีธรรมราช, หาดใหญ่, หัวหิน

ผบ.ตร.กล่าวต่อถึงกรณีแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ว่าตนขอไม่พูดถึงการเมือง

"มิติการเมืองก็ว่ากันไป ผมมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยและบังคับใช้กฎหมาย ทุกคนมีสิทธิ์พูดหมด ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ให้กำลังใจค่อยๆ ทำไป อย่าเอาเวลาเป็นตัวตั้ง และหาความจริงให้ปรากฏว่าอะไรเป็นอะไร ประชาชนจะได้มีความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม" ผบ.ตร.กล่าว

 

 

พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวถึงวันพุธนี้ที่จะเป็นวันครบรอบ 1 ปีเหตุการณ์ระเบิดราชประสงค์ว่า ได้กำชับตำรวจนครบาลอยู่แล้วว่า พื้นที่ใดที่ยังไม่เกิดเหตุอย่าให้มีเหตุเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม การขุดรากถอนโคนทั้งขบวนการก่อเหตุครั้งนี้ ทุกคดีที่ทำตนก็ต้องการแบบนั้นอยู่แล้ว แต่จะได้มากน้อยแค่ไหนขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ก็อยากได้ตัวผู้ก่อเหตุมาลงโทษ แต่ขั้นตอนการทำงานและเวลามันเร่งไม่ได้