หมายความว่าอย่างไร !?! "จีน" ส่งทหารเข้าไปใน "ซีเรีย"... ว่ากันว่าสหรัฐและอียูจะโค่นล้ม "อัสซาด" ริบหรี่ลงทุกที

RT news พาดหัวข่าวว่า "จีนจะให้ความช่วยเหลือ เสริมสร้างการฝึกทหารในซีเรีย - เจ้าหน้าที่ระดับสูงในกองทัพจีนกล่าว" (China ‘to provide aid, enhance military training’ in Syria – top army official)

กรุงปักกิ่งและกรุงดามัสกัสได้ตกลงร่วมกันว่า กองทัพจีนจะให้การสนับสนุนความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้กับประเทศซีเรีย กำลังมีการหารือกันเกี่ยวกับการฝึกบุคคลากรของซีเรียโดยครูฝึกชาวจีน เจ้าหน้าระดับสูงจากกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) กล่าว

พล.ร.ต. Guan Youfei ผู้อำนวยการศูนย์สร้างความร่วมมือทางทหารแห่งคณะกรรมาธิการกองทัพกลางของจีนได้เดินทางไปถึงกรุงดามัสกัสเมื่อวันอังคารนี้ เพื่อหารือร่วมมือกับ Jassim al-Freij รมว.กลาโหมของซีเรีย สำนักข่าวซินหัวรายงาน

ระหว่างการเจรจาต่อรองกันนั้น พล.ร.ต. Guan ได้กล่าวว่าความพยายามทางการทูตของจีนสอดคล้องกับการแสวงหาแนวทางการแก้ไขปัญหาทางการเมืองให้กับวิกฤตซีเรีย ขณะนี้กรุงปักกิ่งกำลังแสวงหาการสร้างความสัมพันธ์ทางกองทัพที่ใกล้ชิดกับกรุงดามัสกัส

โดยประเพณีแล้ว กองทัพจีนและซีเรียมีความสัมพันธ์ที่เป็นมิตรต่อกัน และกองทัพจีนก็ต้องการที่จะขยายการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือกับกองทัพของซีเรียเพิ่มขึ้น

Guan และ al-Freij ได้หารือกันเกี่ยวกับการเพิ่มศักยภาพในการฝึกและได้บรรลุฉันทามติร่วมกันเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อซีเรียโดยกองทัพจีน สำนักข่าวซินหัวรายงาน ในครั้งนี้ พล.ร.ต. Guan Youfei ยังได้พบกับนายพลท่านหนึ่งของรัสเซียระหว่างการเดินทางไปเยือนเมืองหลวงของซีเรียด้วย

แม้ว่าจะเป็นสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและพึ่งพาน้ำมันจากตะวันออกกลางก็ตาม ก่อนหน้านี้จีนไม่ค่อยจะเต็มใจนักที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในความขัดแย้งในซีเรีย

กรุงปักกิ่งเลือกที่จะให้ความสำคัญไปที่กิจการภายในและความขัดแย้งเรื่องดินแดนกับเพื่อนบ้านของตัวเองในทะเลจีนใต้มากกว่า

รัสเซียได้เริ่มแคมเปญจ์ทิ้งระเบิดโจมตีทางอากาศใส่กลุ่มก่อการร้ายในซีเรียตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2558 ถึงเดือนมีนาคม 2559 (ยกแรก) รัสเซียยังคงกองทัพของตัวเองบางส่วนไว้ในประเทศซีเรียเพื่อให้การสนับสนุนด้านการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและทางทหารต่อรัฐบาลของประธานาธิบดี Bashar Al-Assad

เมื่อปีที่แล้ว มีรายงานข่าวว่าจีนได้ส่งที่ปรึกษาทางทหารหลายสิบนายเข้าไปในซีเรียเพื่อให้ความช่วยเหลือประเทศซีเรียในการต่อสู้ขบวนการก่อการร้าย

สงครามกลางเมืองของซีเรียเริ่มขึ้นในปี 2011 โดยกลุ่มกบฏฝ่ายค้านต่อต้านรัฐบาลอัสซาด และกลุ่มก่อการร้ายไอซิสและอัลนุสราฟร้อนท์

คำถามก็มีอยู่ว่าทำไมจีนถึงยอมส่งทหารของตัวเองเข้าในซีเรียอย่างเปิดเผยในครั้งนี้ด้วย? ก่อนหน้านี้ปธน.อัสซาดของซีเรียได้ออกมาพูดว่า จะให้รัสเซีย อิหร่าน และจีนเป็นหุ้นส่วนสำคัญในการบูรณะประเทศซีเรียหลังสงครามจบ ซึ่งก็แปลว่า สหรัฐและอียูอดแdก ทำให้สหรัฐ ฝรั่งเศส อังกฤษ และเยอรมันต้องส่งกองทัพของตนเองเข้าไปในซีเรีย อ้างว่าเพื่อสนับสนุนฝ่ายกบฏในการต่อต้านขบวนการก่อการร้าย แต่บ่อยครั้งที่มีการเผยภาพถ่ายและคลิปวีดีโอว่าอาวุธที่สหรัฐและพันธมิตรนำไปให้พวกกบฏซีเรียตกอยู่ในมือของพวกผู้ก่อการร้ายที่อยู่ในพื้นที่เดียวกันกับพวกกบฏซีเรียด้วย

และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา รมว.ต่างประเทศของรัสเซียก็หารือร่วมกันกับรมว.ต่างประเทศของเยอรมันเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในซีเรีย ในช่วงที่รัสเซียและสหรัฐกำลังต่อรองกันในเรื่องเดียวกันนี้ในพื้นที่จังหวัด Aleppo โดยที่รัสเซียได้เริ่มยุทธการเปิดช่องทางการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในจังหวัด Aleppo ส่วนสหรัฐและอียูก็ออกมาแสดงท่าทีว่าตัวเองก็จะส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปให้ประชาชนชาวซีเรีย โดยเฉพาะพวกกบฏที่ถูกกองทัพฝ่ายรัฐบาลซีเรียและรัสเซียปิดล้อมอยู่ในพื้นที่จังหวัด Aleppo เช่นกัน

ในทางปฏิบัตินั้น ทั้งประชาชนและกบฏซีเรียในพื้นที่ปิดล้อมยังสามารถออกมาจากพื้นที่เพื่อจัดหาเสบียงอาหารในพื้นที่ควบคุมของทหารฝ่ายรัฐบาลได้ตามปรกติ แต่ฝ่ายรัฐบาลห้ามการขนอาวุธเข้าไปเพิ่ม มีกบฏซีเรียบางส่วนยอมวางอาวุธและเข้ามอบตัวกับฝ่ายรัฐบาล การสู้รบกันที่ Aleppo ยังคงดุเดือดอย่างต่อเนื่อง เครื่องบินรบของรัสเซียพยายามทิ้งระเบิดใส่เป้าหมายใหญ่ๆ ของพวกผู้ก่อการร้ายซึ่งอาจจะรวมถึงพวกกบฏซีเรียที่ไม่ยอมวางอาวุธด้วย

รัสเซียและเยอรมันได้ตกลงร่วมกันว่าจะยอมให้อียูสนับสนุนความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้กับพวกกบฏในพื้นที่ปิดล้อมในจังหวัด Aleppo โดยการหย่อนจากทางอากาศ (air bridges) และยูเอ็นได้มีมติที่ 2165 ให้มีการตั้งจุดตรวจสองแห่งบริเวณพรมแดนตุรกี-ซีเรีย เกี่ยวกับการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในซีเรีย โดยการอนุญาตของรัฐบาลตุรกี โดยเจ้าหน้าที่ของยูเอ็นจะเฝ้าระวังในส่วนนี้

ถ้าจีนไม่ขยับหรือไม่ออกตัวอย่างเต็มที่ในช่วงนี้ สุดท้ายก็อาจจะถูกเยอรมันและสหรัฐแย่งพุงปลาไปกินก็ได้ และเมื่อจีนยอมส่งทหารและกองทัพของตัวเองเข้าไปในซีเรีย แม้จะให้เหตุผลว่าเพื่อไปฝึกให้กับบุคคลากรทางทหารของฝ่ายรัฐบาลเท่านั้น แต่ในความเป็นจริง อาจจะรวมถึงการสนับสนุนด้านอาวุธและอื่นๆ ด้วย ต้องรอดูต่อไปว่าจะมีเรือรบของจีนไปปรากฏอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนีย หรือมีเครื่องบินรบของจีนไปประจำอยู่ในฐานทัพอากาศซักแห่งของซีเรียด้วยหรือไม่

เมื่อได้จีนเข้าไปช่วยอีกแรง แน่นอนว่ากองกำลังฝ่ายรัฐบาลซีเรียย่อมจะมีความเข้มแข็งมากขึ้น และนั่นก็หมายความว่าโอกาสที่สหรัฐและอียูจะโค่นล้มปธน.อัสซาดก็ริบหรี่ลงทุกทีด้วยเช่นกัน

 

อ้างอิงจาก เพจปอกเปลือกทรราช , FB fisont