ใครคือไอ้ลูกหมา...ที่พล.อ.ประยุทธ์พูดถึง

ในวันนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด โดยช่วงหนึ่งระหว่างพบปะกับข้าราชการ พลเรือน และนักศึกษาที่มาต้อนรับ ได้พูดถึงสถานการ

ในวันนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้เดินทางลงพื้นที่ จ.ร้อยเอ็ด โดยช่วงหนึ่งระหว่างพบปะกับข้าราชการ พลเรือน และนักศึกษาที่มาต้อนรับ ได้พูดถึงสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศเอาไว้อย่างน่าสนใจ

โดยย้ำว่า ณ ขณะนี้ บ้านเมืองยังวิกฤต เพราะฉะนั้นไม่ใช่อะไรๆก็จะต้องประชาธิปไตยหรือประชามติเท่านั้น อย่าคิดแต่เรื่องประชามติ ประชาธิปไตยอย่างเดียวแล้วมันกินได้หรือไม่

ประชาธิปไตยคือความเห็นต่างโดยไม่เอาปืนมาไล่ยิงคน ถามว่าใครยิงคน ทหารยิงหรือ ไปถามไอ้ลูกหมาโน่น ต้องขอโทษนะที่พูดไม่เพราะ วันนี้ขอให้ช่วยกันอย่าไปคิดแต่เรื่องเดิมๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของความขัดแย้งในบ้านเมืองที่ต้องแก้ไขโดยพวกเรา

ขอให้เข้าใจกัน ผมไม่ได้คาดหวังอะไร กฎหมายมันละเว้นไม่ได้ ขอให้ไปบอกเพื่อนๆด้วย จะให้ปล่อยตัวจะปล่อยได้อย่างไร เพราะกฎหมายก็ต้องเป็นกฎหมายทุกอย่างมีขั้นตอนและกระบวนการ"

 

นี่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ได้พูดออกมาอย่างชัดเจนว่ามีกลุ่มการเมืองบางฝ่ายได้จัดตั้งกองกำลังติดอาวุธ มาเล่นงานฝ่ายตรงกันข้าม จนบาดเจ็บ ล้มตาย

เพราะฉะนั้นเพื่อให้เห็นภาพของขบวนการติดอาวุธ ที่พล.อ.ประยุทธ์เรียกว่า ไอ้ลูกหมา สำนักข่าวทีนิวส์และรายการเจาะข่าวร้อน ล้วงข่าวลึก ก็จะได้ยกตัวอย่างให้เห็นชัดๆ โดยเฉพาะในรายที่มีการจับกุมเป็นที่เรียบร้อย

ย้อนหลังกลับไปเมื่อเดือนกันยายน 2557 ตำรวจและทหารสามารถ จับกุม 5 ผู้ต้องหาชายชุดดำ ที่ก่อเหตุใช้อาวุธสงครามยิงใส่เจ้าหน้าที่ทหารและผู้ชุมนุมบริเวณสี่แยกคอกวัว เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2553

และเหตุการณ์ในคืนเดียวกันนั้นเอง ส่งผลให้พล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม ต้องจบชีวิตลงระหว่างการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบให้กับผู้ชุมนุมในบริเวณดังกล่าว

ผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ประกอบด้วย

1.นายกิตติศักดิ์ สุ่มศรี หรืออ้วน อายุ 45 ปี

2.นายปรีชา อยู่เย็น หรือ ไก่เตี้ย อายุ 24 ปี

3.นายรณฤทธิ์ สุริชา หรือนะ อายุ 33 ปี

4.นายชำนาญ ภาคีฉาย หรือ เล็ก อายุ 45 ปี

5.นางปุณิกา ชูศรี หรืออร อายุ 39 ปี

นอกจากนี้ ยังมีผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างการหลบหนีอีก 2 ราย ประกอบด้วย

  1.นายธนเดช เอกอภิวัชร์ หรือ ไก่รถตู้ อายุ 39 ปี

2.นายวัฒนะโชค จีนปุ้ย หรือโบ้ อายุ 23 ปี

 

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าร่วมกันก่อเหตุจริง โดยรู้จักกันที่สถานีวิทยุ เอฟเอ็ม 97.75 ก่อนร่วมกันวางแผนก่อเหตุ ที่บ้านริมน้ำ ถนนรามอินทรา โดยมี นายจักรรินทร์ หรือ เสธไก่ ที่อยู่ระหว่างการหลบหนีเป็นผู้บงการจัดอาวุธ ถัดมาอีก 2 วัน คือวันที่ 10 เมษายน 2553 กลุ่มผู้ต้องหาจึงได้ลงมือก่อเหตุ โดยใช้รถตู้สีขาว เป็นยานพาหนะ โดยนำมาจอดไว้บริเวณถนนตะนาว จากนั้นได้เดินเท้าไปยังสี่แยกคอกวัว และลงมือก่อเหตุ โดยไม่ได้ระบุเป้าหมายว่าจะยิงใคร และไม่ได้รับการฝึกอาวุธมาก่อน ซึ่งขณะเกิดเหตุตำรวจสามารถจับกุม ผู้ต้องหาได้ 1 คน พร้อมอาวุธปืน เอ็ม 79 แต่ผู้ชุมนุมได้เข้ามาช่วยเหลือจนผู้ต้องหาสามารถหลบหนีไปได้ทั้งหมด

พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ในขณะนั้น เปิดเผยว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้มีความเชื่อมโยงกับ น.ส.กริชสุดา คุณะแสน หรือเปิ้ล นักกิจกรรมเสื้อแดงที่ถูกศาลอนุมัติออกหมายจับ

กรณีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดหาอาวุธสงครามให้กับผู้ต้องหาคดีใช้อาวุธสงครามยิงใส่สถานที่ต่างๆ ก่อนหน้านี้ โดยพบหลักฐานเป็น สลิปการโอนเงินจำนวนมากให้กับผู้ต้องหาเหล่านี้

น่าสนใจว่าน.ส.กริชสุดา คนนี้ ถือว่าเป็นคนสนิทของนางมนัญชยา เกตุแก้ว หรือ “เมย์ อียู” ซึ่งเป็นแกนนำแดงภาคตะวันออก ซึ่งมีความสนิทสนมกับนายทักษิณ ชินวัตร

ย้อนไปเมื่อ 28 พฤษภาคม 2557 ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 14 จ.ชลบุรี สนธิกำลังกว่า 50 นาย บุกเข้าไปค้นบ้านของ นางมนัญชยา ปรากฎว่าไปพบหลักฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นใบโอนเงิน บัญชีการแจกจ่ายเงิน และการว่าจ้างบุคคลทำงานที่

 

พร้อมกับภาพถ่ายจำนวนมากที่แสดงให้เห็นถึงความสนิทสนมกับนายทักษิณเป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตามจากการแถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาที่เกี่ยวกับชายชุดดำข้องเมื่อครั้งนั้น มีรายชื่อผู้ต้องหาที่ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ 1 คน คือนายธนเดช เอกอภิวัชร์ หรือ ไก่รถตู้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ตรงกับสำนักข่าวทีนิวส์ได้มีการนำเสนอมาตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมา ซึ่งมีข้อสงสัยว่านายธนเดช

นี่คือภาพจากกล้อง ซีซีทีวี บริเวณแยกสี่กั๊กที่นายธนเดชได้ขับพาชายชุดดำเข้าไปก่อเหตุที่บริเวณ 4 แยกคอกวัว อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อเวลา 20 นาฬิกา 19 นาที

หลังจากมาถึงที่บริเวณ 4 แยกคอกวัว อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยกองกำลังติดอาวุธชายชุดดำก็ได้ลงจากรถตู้และก็ได้ปฎิบัติการก่อเหตุ

โดยหลังจากที่ชายชุดดำนั้นได้ปฏิบัติภารกิจเสร็จก็ได้ขับรถตู้กลับออกมาผ่านทางแยก 4 กั๊ก และกล้อง ซีซีทีวี ก็ได้สามารถบันทึกภาพได้อีกครั้ง ในเวลา 21 นาฬิกา 1 นาที

และนี่ก็คือโฉมหน้าของ นายธนเดช เอกอภิวัชร์ คนขับรถตู้ให้กับกลุ่มชายชุดดำ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่กลุ่มชายชุดดำเรียกว่า ไก่ รถตู้

ซึ่งในเวลาต่อมาแม่ของนายธนเดช ได้เสียชีวิตลงซึ่งในงานศพเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ปี 2553 บรรดาแกนนำ นปช. ก็ได้ส่งพวงรนีดไปร่วมไว้อาลัย ก็คือ ชินวัฒน์  หาบุญพาด จรัล  ดิษฐาอภิชัย พายัพ  ปั้นเกตุ ขวัญชัย  ไพรพนา พ.ต.ท.ไวพจน์  อาภรณ์รัตน์ จักรภพ  เพ็ญแข

และไอ้ลูกหมา ที่ชัดเจนอีกหนึ่งเหตุการณ์ก็คือ กองกำลังชุดดำ  ยิงระเบิดเอ็ม 79 เข้าใส่บิ๊กซีราชดำริ ระหว่างการชุมนุม กปปส.เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปี 2557 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บ 21 คน ซึ่งคดีนี้ถูกศาลตัดสินประหารชีวิต

4 ก.ย.2558 ศาลอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำ อ.3734/2557พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ 4 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง

นายชัชวาล หรือชัช ปราบบำรุง อายุ 45 ปี

นายสมศรี มาฤทธิ์ อายุ 40 ปี

นายสุนทร ผิผ่วนนอก อายุ 49 ปี

และนายทวีชัย วิชาคำ อายุ 39 ปี

 

เป็นจำเลยที่ 1-4 ในความผิดต่อชีวิตฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ทำร้ายร่างกาย , พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 และความผิด ตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548

ตามฟ้องอัยการโจทก์ เมื่อวันที่ 8 ต.ค.2557 บรรยายพฤติการณ์สรุปว่า จำเลยทั้งสี่ กับพวกอีก 3 คนซึ่งหลบหนียังไม่ได้ตัวมาฟ้อง ร่วมกันมีเครื่องยิงลูกกระสุนระเบิด ขนาด 40 มิลลิเมตร แบบเอ็ม 79 ยาว 28 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง , ลูกระเบิดยิงชนิดระเบิดสังหาร (HE) ขนาด 40 มิลลิเมตร

ได้ร่วมกันใช้เครื่องยิงลูกกระสุนระเบิด ซึ่งเมื่อเกิดการระเบิดขึ้นมีรัศมีฉกรรจ์ 5 เมตร จากจุดระเบิด ยิงไปยังกลุ่มประชาชนผู้ชุมนุมทางการเมืองซึ่งใช้ชื่อว่า คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส) ที่มีประชาชนเข้าร่วมชุมนุมจำนวนมาก บริเวณสี่แยกราชประสงค์ต่อเนื่อง มาถึงหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาราชดำริ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.

โดยกระสุนปืนที่จำเลยทั้งสี่กับพวก ยิงไปดังกล่าวตกใส่บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี สาขาราชดำริ ทำให้เกิดระเบิดขึ้นจำนวน 1 ครั้ง สะเก็ดระเบิดได้กระจายถูกร่างกายของผู้เข้าร่วมชุมนุมและประชาชนทั่วไปที่อยู่บริเวณดังกล่าว จนเป็นเหตุให้ให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 3 ราย อีกทั้งมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่อาจประกอบกรณียกิจได้ตามปกติ อีก 9 ราย และมีผู้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ ด้วยจำนวน 12 ราย

ขณะที่การระเบิดดังกล่าว เป็นเหตุให้แผงร้านค้าและรถสามล้อโดยสารหรือรถตุ๊กตุ๊ก เหตุเกิดที่แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร และแขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร ต่อเนื่องเกี่ยวพันกัน จึงขอศาลได้พิจารณาพิพากษาลงโทษจำเลยตามกฎหมาย

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า หลักฐานที่จำเลย นำสืบมา ไม่อาจหักล้างพยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบได้ จึงพิพากษาว่า จำเลยทั้งสี่ มีความผิดตามฟ้อง ให้ประหารชีวิตสถานเดียว

แต่คำให้การของจำเลย เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา จึงลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยทั้งสี่ไว้ตลอดชีวิต และให้จำเลยร่วมกันชดใช้ค่าสินไหมทดแทนผู้บาดเจ็บ 534,700 บาท ด้วย

ตามข้อมูลที่ปรากฏ ชัดเจนว่าเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการไอ้ลูกหมา ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ได้เปรยออกมาว่า แบบนี้นะหรือคือประชาธิปไตยที่คนไทยอยากเห็น เพราะท้ายที่สุดก็จะมีการนำเอาอาวุธมาทำลายล้างกัน จนเป็นเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิตมานักต่อนัก