ริ่มแล้วตอกเสาเข็มสุวรรณภูมิเฟส 2 ทอท.ลงนามจ้างอิตาเลียนไทย-กิจการค้าร่วมเอสจี-เอสซีเอส ลุยก่อสร้าง รองรับผู้โดยสาร 60 ล้านคน/ปี

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)หรือ ทอท. กล่าวว่า ในวันที่ 25 สิงหาคม ทอท.ได้ลงนามในสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ปีงบประมาณ 2554 – 2560) ร่วมกับ 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) กิจการค้าร่วม เอส จี แอนด์ อินเตอร์ลิ้งค์ และกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา SCS Consortium โดยมี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เป็นประธานในพิธี

ทั้งนี้การดำเนินโครงการดังกล่าว เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้น 15 ล้านคนต่อปี คือ จากเดิม 45 ล้านคนต่อปี เป็น 60 ล้านคนต่อปี รวมมูลค่าทั้งโครงการอยู่ที่ 62,503.214 ล้านบาท

 

 

สำหรับงานก่อสร้างในโครงการดังกล่าว ทอท.ได้แบ่งเป็น 7 งาน ทั้งนี้ เบื้องต้นได้ทยอยเปิดการประมูลและยื่นซองเสนอราคางานจ้างก่อสร้างแล้ว 3 งาน ได้แก่ 1.งานอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ชั้น B2 ชั้น B1 และชั้น G) ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานโครงสร้างและงานระบบหลัก) ได้ผู้รับจ้าง คือ  บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) โดยมีราคาค่างานจ้างก่อสร้างทั้งสิ้น 12,050,406,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ7) 2.งานจ้างก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค ได้ผู้รับจ้าง คือ กิจการค้าร่วม เอส จี แอนด์ อินเตอร์ลิ้งค์ ซึ่งมีราคาค่างานจ้างก่อสร้างทั้งสิ้น 1,980,000,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7) และ 3.งานจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง ได้ผู้รับจ้าง คือ กลุ่มบริษัทที่ปรึกษา SCS Consortium มีราคาค่าควบคุมงานก่อสร้างทั้งสิ้น 879,989,400 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 7) ซึ่งผลการประมูลราคาทั้ง 3 งาน สามารถประมูลได้ต่ำกว่าราคากลางเป็นเงิน 1,655 ล้านบาท เมื่อรวมกับการปรับลดราคา 7,391 ล้านบาท รวมเป็นเงินที่ต่ำกว่ากรอบงบประมาณ 9,046 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 14.5 โดยในการเปิดซอง ทอท.ได้เชิญสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ และ CoST ส่งผู้แทนเข้าร่วมสังเกตการณ์ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสด้วย

 

 

นายนิตินัย กล่าวว่า ทั้งนี้งานจ้างก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (ชั้น B2 ชั้น B1 และชั้น G) ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 และส่วนต่อเชื่อมอุโมงค์ด้านทิศใต้ (งานโครงสร้างและงานระบบหลัก) (CC1/1) ได้กำหนดเวลาดำเนินการภายใน 780 วัน นับตั้งแต่วันที่กำหนดในหนังสือแจ้งบอกกล่าวให้เริ่มงาน คือ เริ่มดำเนินการในวันที่ 15 กันยายน 2559 ส่วนงานจ้างก่อสร้างระบบสาธารณูปโภค (CC3) ได้กำหนดเวลาดำเนินการภายใน 990 วัน นับตั้งแต่วันที่กำหนดในหนังสือแจ้งบอกกล่าวให้เริ่มงาน คือ เริ่มดำเนินการในวันที่ 15 กันยายน 2559 และงานจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง (CSC) กำหนดเวลาดำเนินการ 39 เดือน ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในวันที่ 1 กันยายน 2559