อ่อนเป็นแป้ง!!!อัยการสั่งไม่ฟ้อง"บรรยิน"กับพวกคดีปลอมเอกสารโอนหุ้น"เสี่ยชูวงษ์"300 ล้านบาท(รายละเอียด)

อัยการสั่งไม่ฟ้องบรรยินกับพวกคดีปลอมเอกสารโอนหุ้นเสี่ยชูวงษ์300 ล้านบาท

วันที่ 29 ส.ค.59 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนแจ้งวัฒนะ นายเสกสรร เสนาชู ทนายความของ น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล หรือน้ำตาล อดีตพริตตี้สาว ผู้ต้องหาที่ 2 ร่วมกับ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ ผู้ต้องหาที่ 1 ในคดีร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างชื่อดัง มูลค่า 300 ล้านบาท เดินทางไปยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมถึง ร.ต.ต.พงษ์นิวัฒน์ ยุทธภัณฑ์บริภาร อัยการสูงสุด เพื่อขอทราบคำสั่งฟ้องหรือไม่ฟ้องของอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ที่รับผิดชอบสำนวนในคดีดังกล่าว โดย ร.ท.สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด และนายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เป็นผู้รับหนังสือแทน
      
นายเสกสรร ทนายความ น.ส.กัญฐณา กล่าวว่า ตนได้ทราบข่าวจากสื่อมวลชนว่าอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องในคดีดังกล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา จึงเดินทางไปยื่นคำร้องที่สำนักงานอัยการกรุงเทพใต้เพื่อขอทราบคำสั่ง แต่ได้รับแจ้งจากพนักงานอัยการว่าได้ส่งสำนวนมาที่อัยการสูงสุดตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งช่วงเวลาที่ผ่านมาอัยการเจ้าของสำนวนยังไม่เคยแจ้งให้ผู้ต้องหาไปรับทราบคำสั่งคดี ดังนั้นวันนี้จึงขอทราบรายละเอียดคำสั่งไม่ฟ้องดังกล่าว พร้อมทั้งขอให้อัยการสูงสุดส่งสำนวนคดีไปถึง ผบ.ตร.เพื่อพิจารณาตามประมวลวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 145 ต่อไป โดยที่ผ่านมาทางครอบครัวของนายชูวงษ์ ผู้เสียหาย ได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมทั้งอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ และอัยการสูงสุด ทั้งนี้ยืนยันว่าลูกความตนได้รับโอนมาโดยสุจริต ไม่มีนิติกรรมอำพราง

ด้าน ร.ท.สมนึก โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่าอัยการสูงสุดได้เรียกสำนวนคดีดังกล่าวมาตรวจสอบ แต่ไม่ทราบว่าสำนวนมาถึงหรือยัง โดยอัยการสูงสุดได้มอบให้รองอัยการสูงสุดพิจารณา สำนวนของอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ หากพิจารณาแล้วมีความเห็นตามนั้นก็ต้องส่งสำนวนไปให้ ผบ.ตร.พิจารณาทำความเห็นมาตามขั้นตอนประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 145 ถ้า ผบ.ตร.เห็นแย้งให้ฟ้องคดีก็จะต้องส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดเป็นผู้ชี้ขาด หรือถ้ารองอัยการสูงสุดมีความเห็นให้ฟ้องก็จะนำตัวผู้ต้องหายื่นฟ้องศาล คดีนี้จึงยังไม่จบขั้นตอน อยู่ระหว่างการกลั่นกรอง ในกระบวนการเช่นนี้ถือเป็นเรื่องปกติ ก็ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ แต่คิดว่าคงใช้เวลาไม่นาน
    

ด้านนายประยุทธ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่าอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้ 3 เจ้าของสำนวนมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง แต่รองอธิบดีอัยการมีความเห็นแย้งให้ฟ้อง และเมื่อสำนวนส่งมาถึงอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้พิจารณาแล้วก็สั่งไม่ฟ้อง ซึ่งฝ่ายผู้เสียหายก็ได้ยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด จึงต้องรอให้รองอัยการสูงสุดที่ได้รับมอบหมายดังกล่าวพิจารณาและมีความเห็นก่อน
“ยืนยันว่าอัยการมีอิสระในการใช้ดุลพินิจ ซึ่งรองอธิบดี และอธิบดีอัยการฯ ยังมีความเห็นต่างกันอยู่”