เริ่มมีพิรุธ !!!  ครอบครัว "เสี่ยชูวงษ์" เห็นแย้งอัยการที่สั่งไม่ฟ้องคดีโอนหุ้นผิดปกติ

เริ่มมีพิรุธ !!! ครอบครัว "เสี่ยชูวงษ์" เห็นแย้งอัยการที่สั่งไม่ฟ้องคดีโอนหุ้นผิดปกติ

สืบเนื่องจากคดีฆาตกรรมอำพราง นายชูวงษ์ แซ่ตั๊งซึ่งตำรวจกองปราบปรามได้รวบรวมพยานหลักฐานจนทราบแรงจูงใจว่า มาจากมูลค่าหุ้นกว่า 300 ล้านบาท ที่มีการถ่ายโอนอย่างผิดปกติ ซึ่งต่อมามีการจับกุม พ.ต.ท.บรรยินกับพวกรวม 4 คน ในข้อหาร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิ์ปลอม ร่วมกันลักทรัพย์ และรับของโจร พร้อมกับแจ้งข้อหาฆ่านายชูวงษ์ โดยเจตนาและไตร่ตรองไว้ก่อน
นายสุทธิ กิตติศุภพร อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ ที่รับผิดชอบสำนวน มีคำสั่งไม่ฟ้องข้อหาที่เกี่ยวกับการโกงหุ้นทั้งหมด เนื่องจากพิจารณาเห็นว่า ลายเซ็นโอนหุ้นเป็นของจริง โดยคำสั่งไม่ฟ้อง ซึ่งคดีนี้มี
-พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรัฐนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
-น.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล
-น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล
-น.ส.ศรีธรา พรหมา มารดาของ น.ส.อุรชา เป็นผู้ต้องหา

ขณะที่ น.ส.วันเพ็ญ ธนธรรมศิริ พี่สาวนายชูวงษ์ กล่าวว่า ได้เห็นสิ่งผิดปกติมาโดยตลอด ซึ่งมีความล่าช้าในการพิจารณา โดยมีกระแสข่าวเป็นระยะๆ ว่า คดีนี้มีผลประโยชน์เป็นวงเงินหลายร้อยล้าน จึงเป็นเดิมพันระหว่างฝ่ายผู้เสียหาย และผู้ต้องหา จนทำให้เกิดขบวนการวิ่งเต้น เพื่อให้ทิศทางของคดีเบี่ยงเบนไป ซึ่งบุคคลที่ถูกเอ่ยถึงว่ามีบทบาทชี้เป็น ชี้ตาย ในคดีนี้มากที่สุด มีอักษรย่อ ฉ. และมีข่าวว่ามีค่าใช้จ่ายมากถึง 20 ล้านบาท
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ภายหลังจากที่มีการยืนยันว่า อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้ มีคำสั่งไม่ฟ้องคดีเพียง 2 วัน นายเสกสรร เสนาชู ซึ่งเป็นทนายความของ น.ส. กัญฐณา ศิวาธนพล อดีตพริตตี้ ผู้ต้องหาที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมกับ พ.ต.ท.บรรยิน ได้เข้ายื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด เพื่อเร่งให้ส่งสำนวนคดีไปถึง ผบ.ตร.โดยเร็ว พร้อมอ้างว่าครอบครัว นายชูวงษ์ ผู้เสียหายได้ยื่นหนังสือทางอัยการทบทวนคำสั่ง เกรงว่าอัยการสูงสุดจะลำบากใจในการสั่งคดี
รายงานแจ้งว่า การสั่งไม่ฟ้องของอัยการในคดีโอนหุ้นของนายชูวงษ์นั้น ฝ่ายญาติของนายชูวงษ์ ได้เตรียมทีมทนายเพื่อดำเนินการฟ้องเองอยู่แล้ว แต่ก็วิตกว่าผลของคดีโอนหุ้น อาจจะส่งมาถึงคดีฆาตกรรมนายชูวงษ์ ที่ขณะนี้ยังอยู่ในกระบวนการของตำรวจกองปราบปราม เนื่องจากประเด็นแรงจูงใจเรื่องหุ้น 300 ล้านได้ถูกตีตกลงไปแล้ว ดังนั้น คดีฆาตกรรม จึงขึ้นอยู่กับพยาน หลักฐานต่างๆ ที่พนักงานสอบสวนกองปราบปราม สามารถเชื่อมโยงไปถึง พ.ต.ท.บรรยิน หรือไม่ ขณะเดียวกัน เมื่ออัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องคดีแล้ว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 145 สำนวนคดี โกงหุ้น มูลค่า 300 ล้านบาท จะถูกส่งกลับไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มีความเห็นแย้ง หรือเห็นคล้อยตามเจ้าพนักงานอัยการ ต่อจากนั้นจึงส่งเรื่องไปยังอัยการสูงสุด เพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ขณะที่ในวันนี้มีความเคลื่อนไหว ของครอบครัวนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เพื่อขอความเป็นธรรมให้มีความเห็นแย้งกับพนักงานอัยการที่มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องในคดีโอนหุ้นมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ที่มีความผิดปกติ

นางวันเพ็ญ ธนธรรมสิริ และ นางศิริรัตน์ แซ่ตั๊ง ภรรยาและพี่สาวนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง อายุ 50 ปี นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ ที่เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำ พร้อม นายเอนก คำชุ่ม ทนายความ เดินทางยื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เพื่อขอความเป็นธรรมให้มีความเห็นแย้งกับพนักงานอัยการที่มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องในคดีโอนหุ้นมูลค่ากว่า 300 ล้านบาท ที่มีความผิดปกติ โดยมี พ.ต.อ.ภาณุพงศ์ ชอบเพื่อน รอง ผบก.กองงบประมาณ ในฐานะนายตำรวจเวรอำนวยการ เป็นผู้รับหนังสือแทน
นางศิริรัตน์ กล่าวว่า คดีนี้พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม ได้รวบรวมพยานหลักฐานอย่างรอบคอบรัดกุม สำนวนหนากว่า 3,000 หน้า ก่อนจะมีความเห็นสั่งฟ้อง พ.ต.ท.บรรยิน กับพวกในข้อหาร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม,ร่วมกันลักทรัพย์ และรับของโจร แต่ปรากฏว่า พนักงานอัยการ โดยอธิบดีอัยการฝ่ายคดีอาญากรุงเทพใต้ ได้มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา

เมื่อวันที่ 26สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งตามขั้นตอนของกฎหมายสำนวนการสอบสวนจะถูกส่งมายัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ ผบ.ตร.พิจารณาว่าจะมีความเห็นตามพนักงานอัยการ หรือ มีความเห็นแย้ง โดยคดีนี้ทางญาติยังไม่เห็นตัวคำสั่งอย่างเป็นทางการของพนักงานอัยการว่าให้เหตุผลอะไรจึงมีคำสั่งไม่ฟ้อง แต่ทราบว่ามีการพิจารณาในรูปคณะกรรมการ โดยอัยการเจ้าของสำนวน อัยการผู้เชี่ยวชาญ รองอธิบดีอัยการ มีความเห็นว่าควรสั่งฟ้อง แต่อัยการฝ่าย และอธิบดีอัยการ กลับมีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ซึ่งเสียงไม่เด็ดขาด และทางญาติมีความมั่นใจ พยานหลักฐานที่ตำรวจรวบรวม จะเพียงพอที่จะสามารถฟ้องคดีต่อศาล จึงมาขอความเป็นธรรมให้พิจารณาสำนวนการสอบสวนอย่างรอบคอบ และมีความเห็นแย้ง เพื่อเปิดโอกาสให้ฝ่ายผู้เสียหาย และผู้ต้องหาได้นำพยานหลักฐานเข้าต่อสู้เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง ขณะเดียวกันการที่ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธในชั้นพนักงานสอบสวน และขอให้การในชั้นศาล แสดงให้เห็นว่าผู้ต้องหาเองก็มีความต้องการที่จะต่อสู้คดีในชั้นศาล ทั้งนี้ทราบว่าภายหลังพนักงานอัยการมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา ปรากฏว่าเมื่อวันที่ 29 ส.ค.ที่ผ่านมา ทนายความของผู้ต้องหาได้ไปยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด เพื่อเร่งรัดให้พนักงานอัยการส่งสำนวนให้ ผบ.ตร.พิจารณาโดยเร็ว ตนจึงได้เดินทางขอความเป็นธรรมกับเพราะเชื่อว่าสำนวนการสอบสวนน่าจะถูกส่งมาถึง ผบ.ตร.แล้ว การรวบรวมพยานหลักฐานของ พนักงานสอบสวน กองปราบปรามละเอียด และน่าเชื่อถือหรือไม่ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดทรัพย์ หรือ ก.ล.ต.ก็มีการตัดสินแล้วว่าการโอนหุ้นมีความผิดปกติ มีการสั่งลงโทษ สั่งปรับ รวมทั้งพักงานผู้ที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกันคดีนี้ศาลก็ได้มีการอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา ซึ่งโดยปกติศาลไม่ได้อนุมัติออกหมายจับใครโดยง่ายหากไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอ นอกจากนี้ ป.ป.ง.ก็มีการยึดทรัพย์ผู้ต้องหา ความหมายคืออะไร หน่วยงานทั้ง 4 หน่วยนี้ มีความน่าเชื่อถือหรือไม่ ทำไมพนักงานอัยการจึงสั่งไม่ฟ้อง ญาติจะมีการร้องขอความเป็นธรรมกับหน่วยงานระดับสูงเพื่อตรวจสอบผู้ที่ใช้อำนาจในการสั่งคดี ยืนยันทางญาติมีความมั่นใจว่าพยานหลักฐานที่มีสามารถเอาผิดผู้ต้องหาได้ และเชื่อว่าผู้ต้องหากระทำผิดจริง นอกจากนี้อยากให้สังคมจับตามองว่าเหตุใดผู้ต้องหาจึงได้ส่งทนายความไปเร่งรัดกับอัยการสูงสุดให้รีบส่งสำนวนให้ผบ.ตร.พิจารณา และอยากให้สังคมจับตามองด้วยว่าคดีนี้มีการแทรกแซงหรือไม่
ทั้งนี้ ไม่ต้องการกดดัน ผบ.ตร.หรือ กระบวนการยุติธรรม เพียงแต่อยากขอความเป็นธรรมในทางคดีเท่านั้น จากนี้ไปทางญาติจะรอให้ ผบ.ตร.พิจารณาสำนวนการสอบสวน แต่เชื่อมั่นว่าหาก ผบ.ตร.ได้เห็นสำนวนการสอบสวนที่ตำรวจกองปราบปรามสรุปมา ท่านน่าจะมีดุลพินิจในทางที่ถูกต้อง ทั้งนี้ ที่ผ่านมาทางครอบครัวต้องขอบคุณตำรวจกองปราบปรามที่มีรวบรวมพยานหลักฐานทำสำนวนการสอบสวนอย่างแน่นหนา

ขณะเดียวกัน พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.ลงมาดูแลการสอบสวนด้วยตนเอง เนื่องจากเห็นว่าเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ส่วนกระแสข่าวมีการใช้เงินกว่า 20 ล้านบาท เพื่อวิ่งเต้นให้ล้มคดีนี้ ตนขอปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเรื่องนี้ หากในที่สุดแล้ว ผบ.ตร.มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องทางญาติก็จะฟ้องคดีต่อศาลเอง เพราะหากพนักงานอัยการ และผบ.ตร. มีความเห็นสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหา ในคดีโอนหุ้น และญาติไม่ฟ้องคดีต่อศาลเอง
เชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อคดีฆาตกรรมนายชูวงษ์ อย่างแน่นอน เพราะคดีฆาตกรรมต้องมีเหตุจูงใจ ซึ่งขณะนี้ทางญาติยังไม่เห็นคำสั่งของพนักงานอัยการว่าให้เหตุผลว่าอย่างไร เหตุใดจึงสั่งไม่ฟ้อง แต่ประเด็นเรื่องลายเซ็น ที่ผู้ต้องหาให้การตลอดว่าลายเซ็นไม่ปลอม และอ้างว่าฝ่ายผู้เสียหายไม่เคยปฏิเสธ ตนอยากจะบอกว่าผู้เสียหายจะปฏิเสธได้อย่างไร เพราะผู้เสียหายชีวิตไปแล้ว ประเด็นนี้น่าจะมีการพิสูจน์ในชั้นศาลว่า การโอนหุ้นเป็นไปตามจุดประสงค์ของผู้ตายหรือไม่ เพราะญาติมีหลักฐานว่าใบโอนหุ้น ทั้ง 2 ใบถูกแก้ไข ทางญาติพร้อมที่จะฟ้องคดีเอง หาก ผบ.ตร.มีความเห็นสั่งไม่ฟ้อง แต่มั่นใจว่าพยานหลักฐานเพียงพอที่จะสั่งฟ้องคดีได้ สำเนาบัตรประชาชนที่แนบกับใบโอนหุ้นถูกแก้ไข จากจำนำหุ้นถูกลบออกทั้งหมดเหลือเพียงลายเซ็นอย่างเดียว ซึ่งคดีปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม จะปลอมบางส่วนหรือปลอมทั้งหมดก็ถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว ด้าน เอนก คำชุ่ม ทนายความ กล่าวถึงความคืบหน้าฆาตกรรม นายชูวงษ์ ว่า คดีมีความคืบหน้าตามลำดับ ในเร็วๆ นี้ คาดว่าพนักงานสอบสวนน่าจะสามารถสรุปสำนวนการสอบสวน และมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหาได้ ซึ่งทางญาติคงไม่สามารถก้าวล่วงการทำงานของพนักงานสอบสวน แต่ทราบว่าคดีนี้มีการวบรวมพยานหลักฐานอย่างรอบคอบรัดกุม ทางญาติมีความเชื่อมั่นว่าจากพยานหลักฐานที่ตำรวจรวบรวม มีน้ำหนักเพียงพอที่จะฟ้องและนำคดีขึ้นสู่ศาลได้ ขณะเดียวกันเชื่อว่า ผบ.ตร.เองจะเอาสำนวนมากตรวจสอบอีกครั้งว่า ความเห็นของอธิบดีอัยการกรุงเทพใต้ที่ความเห็นสั่งไม่ฟ้อง ถูกต้องโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือไม่ ทั้งนี้ ตามขั้นตอนของกฎหมาย หาก ผบ.ตร.มีความเห็นแย้งสำนวนก็จะถูกส่งไปยังอัยการสูงสุดเพื่อชี้ขาดต่อไป