- 21 ก.ย. 2559
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติม http://headshot.tnews.co.th
วันที่ 21 กันยายน พระพุทธะอิสระ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เกี่ยวกับกรณีที่ พระเมธีธรรมาจารย์ เลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ได้กล่าวถึง 3 สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดวิกฤติพุทธศาสนาในไทย ได้แก่ ไม่ตั้งคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการพิทักษ์ปกป้องกิจการพระพุทธศาสนา 2.ไม่บรรจุพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติในรัฐธรรมนูญ 3.ละเลยในการนำรายชื่อสมเด็จพระราชาคณะขึ้นทูลเกล้าฯ สถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช
โดยพระพุทธะอิสระกล่าวว่า เล่นมุขเดิมอีกแล้วหรือเฮีย มุขเรียกร้องตำแหน่งสังฆราชรถเถื่อน มุขบรรจุพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติในรัฐธรรมนูญ
อ้อ มีเพิ่มมุขใหม่มาอีกมุข คือมุขเรียกร้องให้ตั้งคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการพิทักษ์ปกป้องกิจการพระพุทธศาสนา ไอ้มุขใหม่ข้อนี้นี่ชาวบ้านเขาสงสัยว่าไอ้ที่เฮียออกมาโวยวายว่ารัฐไม่ยอมตั้งกรรมการปฏิรูปพระพุทธศาสนานั้นน่ะ เพราะรัฐเขาไม่ตั้งพวกพ้องของเฮียหรือเปล่า เฮียถึงออกมาโวยวาย
ส่วนมุขเรียกร้องให้บรรจุพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติในรัฐธรรมนูญนั้น ชาวบ้านเขาก็สงสัยเหมือนกันว่าเดี๋ยวนี้ถึงกับต้องออกกฎหมายบังคับให้คนศรัทธาพระไหว้พระแล้วหรือ
แสดงว่าพระธรรมวินัยนี้ไม่สามารถขัดเกลาสันดานผู้ที่บวชเข้ามาให้เป็นที่ศรัทธาของชาวบ้านแล้วหรือ
หรือว่าผู้บวชเข้ามาไม่สามารถปฏิบัติตามพระธรรมวินัยขององค์พระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว จึงต้องหันมายึดรัฐธรรมนูญเป็นสรณะเป็นที่พึ่ง
พระพุทธะอิสระยังกล่าวต่อว่า สองพันปีของพระธรรมวินัยที่ผ่านมา ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านสึกสงครามมาสารพัด ผ่านวิกฤติ ผ่านโอกาส ผ่านสารพัดสถานการณ์มาได้ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ สำเร็จประโยชน์ของผู้ที่เข้าถึงหลักธรรมวินัย หากลงมือปฏิบัติจริงย่อมได้ผลจริง
ด้วยอานุภาพแห่งความบริสุทธิ์บริบูรณ์ของพุทธบริษัททั้ง ๔ ผู้มุ่งมั่นเคร่งครัดปฏิบัติตามหลักพระธรรมคำสั่งสอนของพระบรมศาสดา พระธรรมวินัยนี้จึงรอดพ้นจากภยันอันตรายนาๆ ประการมาได้อย่างองอาจงดงาม
เหตุเพราะภิกษุบริษัททั้ง ๔ ได้พิสูจน์ให้สังคมโลกให้ได้เห็นว่าผู้ที่ปฏิบัติตามหลักธรรมคำสอนจักได้ผล คือ ความสะอาด ฉลาด สว่าง สงบ รอดพ้นจากอันตรายทั้งภายในและอันตรายภายนอก พร้อมทั้งสงบสันติ ปลอดภัย ทั้งโลกนี้และโลกหน้าได้อย่างแท้จริง
สรุปรวมความว่า สองพันกว่าปีมาแล้วที่พระธรรมวินัยนี้อยู่ได้ด้วยศรัทธาอันประกอบด้วยปัญญาและการให้ผลตามการปฏิบัติได้อย่างแท้จริงหาได้อยู่รอดได้ด้วยบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญฉบับใดๆ เลยแต่ถ้าหากสถานการณ์มันเปลี่ยนไป สังคมเปลี่ยนไป ศรัทธาและปัญญาของผู้คนเคารพนับถือพระธรรมวินัยนี้มันบิดเบี้ยวบิดเบือน เป็นเหตุให้หลักการของศาสนาพุทธเสียหายรัฐบาลธรรมนูญฉบับนี้เขาก็เขียนเอาไว้แล้วว่า รัฐต้องมีหน้าที่ให้การอุปถัมภ์คุ้มครองและเผยแผ่หลักธรรมวินัยของศาสนาพุทธนิกายเถรวาท หรือนิกายดั้งเดิมที่มีมาแต่ครั้งทำปฐมสังคายนา ซึ่งมีพระมหากัสสปะและพระอานนท์พุทธอนุชา พระอุปัฏฐากพุทธเจ้าเป็นประธาน แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับความปลอดภัยของพระธรรมวินัย
มาตรการต่อไป ก็มาคิดกันว่าจะออกกฎหมายลูกกันอย่างไร จะวางหลักการกันอย่างไรเพื่อให้พระธรรมวินัย ศาสนทาญาติ ศาสนวัตถุ ปลอดภัยหากพุทธบริษัทไม่ได้จมปรักอยู่ในหลุมแห่งตัณหา ทะยานอยากใหญ่อยากโต อยากมีอำนาจ มีหน้ามีตาหรือยศถาบรรดาศักดิ์ และเรียกร้องเพียงเพื่อความอยู่รอด การกำหนดการคุ้มครองพระธรรมวินัยไว้ในรัฐธรรมนูญ แค่นี้ก็น่าจะพอแล้ว
ยกเว้นพวกที่ต้องการสถานะทางสังคม ต้องการความยอมรับ ต้องการความยิ่งใหญ่ เพื่อเอาไว้ข่มผู้อื่น เช่นนี้แม้รัฐธรรมนูญจะเขียนว่ารัฐต้องให้ความคุ้มครองพระธรรมวินัยหรือพระพุทธศาสนานิกายเถรวาท คงจะไม่เพียงพอสำหรับคนตะกละดอกใช่ไหมเฮียวันนี้เอาแค่นี้ก่อนนะ ตอนต่อไปเฮียลองมาตามดูอนาคตสังฆราชรถเถื่อนของเฮียบ้าง ว่าพระธรรมวินัยปรับโทษไว้อย่างไร
ที่มา : หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)