เปิด 4 ข้อหา คนขับเรือมรณะพาคณะทัวร์จมดิ่งเจ้าพระยา...พบเรือมีรอยแตก ยาว 7 เมตร (มีคลิป)

นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ในช่วงคืนที่ผ่านมาได้มีการตระเวนค้นหาผู้สูญหายเพิ่มเติม โดยล่องเรือไปตามลำน้ำเจ้าพระยาจากที่เกิดเหตุไปยังเขต อ.บางปะอิน ระ

นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.พระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ในช่วงคืนที่ผ่านมาได้มีการตระเวนค้นหาผู้สูญหายเพิ่มเติม โดยล่องเรือไปตามลำน้ำเจ้าพระยาจากที่เกิดเหตุไปยังเขต อ.บางปะอิน ระยะทางยาวกว่า 10 กม. ซึ่งจากเดิมพบผู้เสียชีวิตแล้ว 25 ราย ได้พบเพิ่มเป็น 27 ราย โดย 2 รายล่าสุดพบเมื่อช่วงเช้ามืดวันเดียวกันนี้ ทราบชื่อว่า น.ส.มนัญญา รัตนะวัน อายุ 25 ปี และด.ช.อภินันท์ แสงคำ อายุ 2 ขวบ ส่วนผู้บาดเจ็บที่ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา มี 9 ราย

เจ้าหน้าที่พบศพที่ 28 ติดอยู่ภายในซากเรือ ทราบชื่อว่า นางทองใบ ขันธรักษ์ อายุ 88 ปี และขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ปิดศูนย์ค้นหาผู้สูญหายแล้ว. ยอดผู้สูญหายเหลือ 1 คน

ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Fatima Khemmanee ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว ก็ได้เผยแพร่คลิปเหตุการณ์ที่บันทึกไว้ได้ในช่วงเวลาวิกฤต เผยให้เห็นภาพของผู้คนที่เริ่มแสดงอาการตื่นตระหนกในขณะที่เรือชน ก่อนจะเกิดเป็นความชุลมุนในชั่วพริบตา ท่ามกลางเสียงร้องและตะโกนของผู้คนที่อยู่บนเรือ

 

อย่างไรก็ตาม แม้จะอยู่ในช่วงเวลาเป็นตายที่แต่ละคนต่างก็มองหาความช่วยเหลือ เราก็ยังได้เห็นภาพน้ำใจของผู้คนที่ยังคงไม่ทิ้งกัน ผู้ที่รอดขึ้นมาบนฝั่งได้แล้วยังพยายามหาทางช่วยเหลือนำคนที่ติดอยู่บนเรือออกมา โดยบ้างก็ว่ายน้ำเข้าไปช่วยกันพยุงตัวคนบนเรือเข้ามาที่ฝั่ง และบ้างก็ช่วยกันหาเชือกยาว ๆ มาโยนไปบนเรือ หวังจะช่วยดึงตัวคนข้ามน้ำมา

ที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีว่า พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหานายวิรัช ชัยศิริกุล อายุ 67 ปี ผู้ควบคุมเรือ 4 ข้อหา

1. กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

2.กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ

3.ควบคุมเรือขณะที่ใบอนุญาตหมดอายุ

4.ควบคุมเรือโดยบรรทุกผู้โดยสารเกินกว่ากำหนด

 

โดยผู้ต้องหาได้รับสารภาพทุกข้อกล่าวหา และพนักงานสอบสวนได้ฝากขังผลัดแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา และศาลไม่ให้ประกันตัว.นำตัวส่งฝากขังที่เรือนจำกลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จนกว่าสำนวนคดีจะแล้วเสร็จ ซึ่งทางคดีอาญานั้นคาดว่าจะต้องใช้เวลาสรุปสำนวนประมาณ 2-3 เดือน เนื่องจากคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก และต้องสอบปากคำทุกปากเพื่อประกอบสำนวน ส่วนจะเอาผิดต่อเจ้าของเรือด้วยหรือไม่นั้น ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมพยาน หลักฐาน

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีเรือท่องเที่ยวสองชั้นขนาดใหญ่ล่มกลางแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณหน้าวัดสนามไชย ต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยาว่า นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม ได้ชี้แจงต่อที่ประชุมถึงสาเหตุของเหตุการณ์เรือล่ม ประการแรก เนื่องจากเรือลำดังกล่าวสามารถรับผู้โดยสารได้จำนวนหนึ่ง แต่ในขณะเกิดเหตุนั้นบรรทุกไปเกือบสองเท่าของจำนวนผู้โดยสารที่จะรับได้อย่างปลอดภัย ซึ่งผู้ที่ควบคุมเรือก็ได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่าจะให้ทำอย่างไรในเมื่อผู้โดยสารเขาจะขึ้นมา

พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า ประการที่สอง ผู้โดยสารเองทั้งที่เห็นแล้วว่าเรือค่อนข้างจะเต็มและแออัด แต่ยังจะใช้บริการ รวมถึงเครื่องชูชีพที่จะใช้ช่วยเหลือเมื่อเกิดอุบัติเหตุก็มีไม่ครบ และประการสุดท้าย ตอม่อจุดที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ ซึ่งติดอยู่กับโป๊ะ โดยเวลาปกติเมื่อน้ำน้อยจะมองเห็น แต่เมื่อน้ำมากก็จะจมใต้น้ำ ทำให้เรือมองไม่เห็น จนเกิดการชนขึ้น อีกทั้งโป๊ะท่าดังกล่าวไม่ใช่ของส่วนราชการ แต่เป็นที่วัดจัดทำขึ้น ทั้งหมดคือสาเหตุหลัก

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการมาว่า ขั้นตอนแรกให้สอบสวนกันว่ามีใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการประมาทเลินเล่อ หรือคิดถึงแต่เรื่องผลกำไรโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย จากนั้นก็ดูในเรื่องของกฎหมายที่เกี่ยวกับการจราจรทางน้ำที่มีอยู่แล้ว แต่ผู้ที่เกี่ยวข้องละเลยไม่ปฏิบัติ ขณะเดียวกันผู้โดยสารเองก็อาจขึ้นเรือโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่าจำนวนนั้นแน่นเกินไป และในส่วนตัวโป๊ะนั้น อาจต้องใช้อำนาจในการตรวจสอบ ซึ่งรวมไปถึงโป๊ะท่าเรืออื่นๆด้วย

นายกฯ ฝากแสดงความเสียใจไปยังญาติผู้สูญเสีย และฝากหน่วยงานเกี่ยวข้องทุกฝ่ายดำเนินการสอบสวน พักใบอนุญาต โดย รมว.คมนาคมชี้แจงว่า ต้องดำเนินการทั้งทางแพ่งกับเจ้าของเรือ และทางอาญากับผู้ควบคุมเรือ นอกจากนี้ยังกำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปกำกับดูแล ตรวจสอบการเดินทาง การขนส่งสาธารณะ ที่ไม่เฉพาะทางเรืออย่างเดียว โดยให้กรณีนี้เป็นอุทาหรณ์ ไม่ให้เกิดขึ้นมาอีก