อย่าลืมแรด!!! ร่วมอนุรักษ์และต่อต้านการล่านอแรด เนื่องใน "วันแรดโลก"

วันแรดโลก วันที่ 22 กันยายน ร่วมรณรงค์ต่อต้านการล่าเอานอแรด และตระหนักถึงความสำคัญของประชากรแรดที่กำลังลดจำนวนลงอย่างน่าเป็นห่วง

 เชื่อเลยว่าคุณไม่เคยรู้เลนว่า "แรด" ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดใหญ่ หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นสัตว์บกที่มีขนาดใหญ่ที่สุดรองจากช้างนั้นกำลังจะสูญพันธุ์ลงไปทุกที ด้วยเหตุนี้ในวันที่ 22 กันยายนของทุกปี ซึ่งเป็น วันอนุรักษ์แรดโลก (World Rhino Day) จึงได้ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นการตอกย้ำและเพิ่มความตระหนักถึงการลดลงของจำนวนประชากรแรดทั่วโลก จนใกล้กำลังจะสูญพันธุ์ลงอย่างน่าเสียดายในขณะนี้ จึงได้หยิบยกความสำคัญของวันนี้มาให้ทุกคนรู้จักไปพร้อม ๆ กัน

วันแรดโลก ก่อตั้งได้อย่างไร

             โดยจุดเริ่มต้นของวันแรดโลก ถือกำเนิดขึ้น ในปี 2553 โดยองค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล (World Wide Fund for Nature-WWF) แห่งแอฟริกาใต้ จากการริเริ่มของผู้หญิง 2 คน คือ ลิซ่า เจน แคมป์เบล และซิงห์ ที่มีความต้องการเหมือนกันในการก่อตั้งวันแรดโลกขึ้นมา เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับแรด ทั้ง 5 สายพันธุ์ และผลักดันจนสามารถเกิดเป็นวันแรดโลกได้สำเร็จ จนกลายเป็นที่ยอมรับของทั่วโลกและองค์กรต่าง ๆ ที่หันมาร่วมกันอนุรักษ์แรด 5 สายพันธุ์ ได้แก่
 
           1. แรดขาว (Ceratotherium simum) เป็นแรดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก พบในทวีปแอฟริกา

           2. แรดดำ (Diceros bicornis) เป็นแรดที่มีความใหญ่รองมาจากแรดขาว พบในทวีปแอฟริกาเช่นกัน
          
           3. แรดอินเดีย (Rhinoceros unicornis) พบในภูมิภาคเอเชียใต้ จัดเป็นแรดที่มีเพียงนอเดียว มีลักษณะเด่นคือ ผิวหนังหนาและมีรอยย่นเห็นได้ชัดเจน

           4. แรดชวา (Rhinoceros sondaicus) พบในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีลักษณะคล้ายคลึงกับแรดอินเดีย เป็นแรดชนิดที่หายากที่สุดในโลก และได้รับการจัดอันดับว่าเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนมชนิดที่หายากที่สุดในโลกอีกด้วย

           5. กระซู่ หรือแรด 2 นอ หรือ แรดสุมาตรา, แรดขน (Dicerorhinus sumatrensis) มีลักษณะเด่นที่สุดคือมี 2 นอ นอหน้าใหญ่กว่านอหลัง จัดเป็นสัตว์ตระกูลแรดที่มีขนาดเล็กที่สุด พบในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่นกัน มีลักษณะเด่นคือ มีขนปกคลุมทั้งลำตัว เป็นแรดที่หายากมากอีกชนิดหนึ่ง
 
           ทั้งนี้การกำหนดให้วันที่ 22 กันยายนของทุกปี เป็นวันอนุรักษ์แรดโลก พร้อมกันนี้การจัดตั้งวันแรดโลก ยังเป็นอีกหนึ่งหนทางเพิ่มความตระหนักถึงการลดจำนวนลงของประชากรแรดทั่วโลก จนเกือบจะกลายมาเป็นสัตว์สูญพันธุ์ในปัจจุบัน

อย่าลืมแรด!!! ร่วมอนุรักษ์และต่อต้านการล่านอแรด เนื่องใน "วันแรดโลก"

 

 

วิกฤตการณ์ใกล้สูญพันธุ์ของแรด

           ในปัจจุบัน แรดกลายมาเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์เข้าไปทุกขณะ โดยสาเหตุสำคัญที่ทำให้แรดใกล้สูญพันธุ์นั้นเกิดจากการตัดไม้ทำลายป่าที่ทำลายที่อยู่อาศัยของแรด และอีกสาเหตุหลักที่สำคัญคือการล่าของมนุษย์ ที่ต้องการนำนอแรดไปขายแปรรูปเป็นเครื่องประดับต่าง ๆ รวมถึงการนำนอแรดไปปรุงเป็นยา ตามความเชื่อของชาวจีนว่านอแรดสามารถรักษาโรคได้บางโรค ทั้งที่จริงแล้วส่วนประกอบทางเคมีของนอแรดนั้นไม่ต่างอะไรไปกับเส้นผมของคนเลย ซึ่งการสำรวจการลับลอบฆ่าแรดในแอฟริกาใต้ พบว่า 7 ปีที่ผ่านมา มีการลักลอบฆ่าแรดเพื่อเอานอเพิ่มสูงขึ้นกว่า 9,300 ตัว จาก 13 ตัวในปี 2550 เพิ่มขึ้นเป็น 1,215 ตัวในปี 2557
 
           จากวิกฤตการณ์ใกล้สูญพันธุ์ของแรด ส่งผลให้ก่อนหน้านี้มีข่าวการปกป้องสัตว์สายพันธุ์นี้อย่างจริงจัง  อย่างเช่นกรณีของ เจ้าซูดาน แรดขาวเหนือ (northern white rhino) เพศผู้ วัย 42 ปี ที่คาดว่าน่าจะเป็นแรดขาวเหนือตัวผู้ตัวสุดท้ายของโลก ในวัยชรา ที่มีความหวังในการผสมพันธุ์กับตัวเมียริบหรี่เพราะอสุจิอ่อนแอ แม้จะพยายามผสมพันธุ์กันมาหลายครั้งก็ประสบความล้มเหลว ส่งผลให้ทางศูนย์อนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าต้องออกมาตรการปกป้องคุ้มครองแบบถึงที่สุด โดยให้เจ้าหน้าที่ถือปืนคอยปกป้องดูแลมัน 24 ชั่วโมง เพราะเกรงว่าหากคลาดสายตา เจ้าซูดานอาจจะตกเป็นเหยื่อของนักล่าสัตว์ได้ ซึ่งนั่นอาจหมายถึงการสูญสิ้นของสายพันธุ์แรดขาวเหนือเลยทีเดียว

 

อย่าลืมแรด!!! ร่วมอนุรักษ์และต่อต้านการล่านอแรด เนื่องใน "วันแรดโลก"

 

อย่าลืมแรด!!! ร่วมอนุรักษ์และต่อต้านการล่านอแรด เนื่องใน "วันแรดโลก"

 

 

การหายไปของแรดในเอเชีย

           สำหรับการลักลอบฆ่าแรดเพื่อเอานอนั้น พบว่าตลาดที่มีการค้าขายใหญ่ที่สุดในเอเชียคือประเทศเวียดนาม รวมทั้งพบว่า แรดชวาตัวสุดท้ายของเวียดนามถูกพบเป็นซากเมื่อเดือนเมษายน 2553
 
           อย่างไรก็กตามประเทศไทยนั้น ในอดีตสามารถพบสัตว์ตระกูลแรดในประเทศไทยได้  2 ชนิด คือ แรดชวาและกระซู่ ซึ่งเป็นสัตว์สงวนบัญชีหมายเลข 1 ของไซเตส แต่ปัจจุบันไม่มีใครพบสิ่งมีชีวิตทั้งสองชนิดนี้ตามธรรมชาติของผืนป่าไทยอีกแล้ว โดยเฉพาะแรดชวาได้หายไปจากประเทศไทยอย่างสิ้นเชิง ส่วนกระซู่ แม้จะยังมีรายงานว่าพบเพียงร่องรอยบ้าง แต่ก็ยังไม่มีใครพบตัวเป็น ๆ แต่อย่างใด

จากวิกฤตการณ์การใกล้สูญพันธุ์ของประชากร ทาง WWF จึงขอเชิญชวนทุกคนร่วมกันช่วยอนุรักษ์ประชากรแรด รวมทั้งช่วยกันต่อต้านค่านิยมการนำนอแรดมาทำเครื่องประดับและความเชื่อผิด ๆ ที่เชื่อว่านอแรดสามารถนำมาปรุงยา และเพื่อไม่ให้สายพันธุ์แรดหมดไปจากโลก

 

อย่าลืมแรด!!! ร่วมอนุรักษ์และต่อต้านการล่านอแรด เนื่องใน "วันแรดโลก"

 

อย่าลืมแรด!!! ร่วมอนุรักษ์และต่อต้านการล่านอแรด เนื่องใน "วันแรดโลก"

 

อย่าลืมแรด!!! ร่วมอนุรักษ์และต่อต้านการล่านอแรด เนื่องใน "วันแรดโลก"

 

อย่าลืมแรด!!! ร่วมอนุรักษ์และต่อต้านการล่านอแรด เนื่องใน "วันแรดโลก"

 

อย่าลืมแรด!!! ร่วมอนุรักษ์และต่อต้านการล่านอแรด เนื่องใน "วันแรดโลก"

 

อย่าลืมแรด!!! ร่วมอนุรักษ์และต่อต้านการล่านอแรด เนื่องใน "วันแรดโลก"

 

อย่าลืมแรด!!! ร่วมอนุรักษ์และต่อต้านการล่านอแรด เนื่องใน "วันแรดโลก"

 

อย่าลืมแรด!!! ร่วมอนุรักษ์และต่อต้านการล่านอแรด เนื่องใน "วันแรดโลก"

 

ขอบคุณข้อมูล-ภาพจาก : wwf.or.th, worldrhinoday, เฟซบุ๊ก wwfthailand , เฟซบุ๊ก GreenwaveFanpage