วิวาทะเดือดพล่าน !! สมศักดิ์ VS ชูพงศ์ ใส่กันยับในโลกออนไลน์ จนนำมาซึ่งความจริงกองกำลังติดอาวุธคนเสื้อแดง !! (มีคลิป+รายละอียด)

สมศักดิ์VSชูพงศ์ ใส่กันยับในโลกออนไลน์

นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อดีตอาจารย์คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และผู้ต้องหาหลบหนีคดี มาตรา 112 กับนายชูพงศ์ ถี่ถ้วน นักเคลื่อนไหวฮาร์ดคอร์ฝ่ายเสื้อแดง และเป็นสมาชิกกลุ่มแดงสยาม ได้ออกมาวิวาทะกันผ่านอินเตอร์เน็ตอย่างดุเดือด  ที่มาที่ไปการต่อสู้กันในครั้งนี้ของทั้งคู่จริงๆแล้วเกิดมาจากความพยายามที่จะนำเสนอแนวทางการต่อสู้ของฝ่ายคนเสื้อแดง เพื่อต่อต้านคสช.และสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่เนื่องจากทั้งคู่คิดและนำเสนอวิธีการที่แตกต่างกัน จึงลงเอยกันด้วยการถกเถียง แต่ทว่าการถกเถียงนั้นไม่ได้เกิดขึ้นแบบธรรมดา เนื่องจาก มันได้กลายเป็นการแฉให้เห็นว่าภายในแนวคิดและวิธีการการต่อสู้ของคนเสื้อแดงนั้น มีการใช้ความรุนแรง โดยกองกำลังติดอาวุธจริง

ปติดตามรายละเอียดจากรายการ เจาะข่าวร้อน ล้วงข่าวลึก

 

 

 

 

นายสมศักดิ์ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Somsak Jeamteerasakul เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ระบุว่า  รายการ “สด” ตอนนี้ทาง “วิทยุใต้ดิน” (ช่อง “ไฟเย็น” ด้วยนะ) โฆษกเซเลบใต้ดินชื่อดังสองคนกำลังด่าผม หาว่าผมโรคจิต       ผมก็ยิ้มๆ นะ ไม่ว่าอะไร สิ่งที่น่าสนใจคือ คนที่ไม่มีความสามารถในการถกเถียงที่ตัวประเด็น  ซึ่งประเด็นที่ผมวิจารณ์พวกเขา เรื่องยุให้คนไปฆ่า คสช.4-5 คนตอนนี้เลย เป็นอะไรที่พวกเขาผิดแน่ๆ และพูดแบบไม่รับผิดชอบแน่ๆ
แต่คนเหล่านี้ยังคง “ดัง” ในแวดวงเสื้อแดงขนาดนี้ มันสะท้อนวัฒนธรรมอะไรที่ผมว่าน่าห่วงอยู่ คือ ถ้าในขบวนเสื้อแดง รวมถึงพวกใต้ดิน ที่อ้างว่ากำลังสู้เพื่อ “ประชาธิปไตย” ไม่มีความสามารถจะปรับตัวในทางที่ดีขึ้นกันเองขนาดนี้ มันสะท้อนอะไร?”
นายสมศักดิ์ยังกล่าวแสดงความคิดเห็นต่อผู้ที่มาตอบคอมเมนต์อีกว่า ประเด็นก็คือทำไมกลุ่มคนเสื้อแดงทั้งขบวนมองในแง่ภาพรวมจึงไม่สามารถปรับปรุงกันเองภายในได้ โดยเฉพาะข้อเสนอของนายชูพงศ์ เป็นข้อเสนอที่ไม่รับผิดชอบเอามากๆ ผิดมากๆ ด้วย ทำไมไม่มีการออกมาวิจารณ์กันเองในหมู่พวกทำคลิป  ถามจริงๆ นะ คุณว่าทำตามที่นายชูพงศ์ว่า ฆ่าพวกมัน (คณะรักษาความสงบแห่งชาติ) ตอนนี้เลย 4-5 คน แล้วจะเปลี่ยนระบอบตามที่นายชูพงศ์อ้างได้หรือ คุณเห็นชอบด้วยกับข้อเสนอนายชูพงศ์ ถามจริงๆ จะทำเองไหม แล้วตัวนายชูพงศ์เองพร้อมจะกลับมาในประเทศทำเองไหม ถ้าไม่ นี่ไม่เรียกว่าเป็นการพูดแบบไม่รับผิดชอบหรือ ในอดีตทีผ่านๆ มา สองปีนี้แหละ เวลามีคนพยายามจะทำอะไรแบบบ้าระห่ำทำนองที่นายชูพงศ์เสนอล่าสุดนี้ ผลคืออะไร นอกจากโดนกวาดเข้าคุกเป็นแถบๆ      
 

เรียกว่าเปิดประเด็นอย่างดุเดือดเลยทีเดียวสำหรับนายสมศักดิ์ แต่ที่น่าสนใจก็คือการแฉว่านายชูพงศ์มีการปลุกระดมผ่านสื่อคนเสื้อแดง เพื่อให้มีการสังหารคนในคสช.นั้น ก็น่าที่จะเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่า ในกลุ่มคนเสื้อแดงมีวิธีคิดที่รุนแรง ถึงขั้นการฆ่าล้างกันจริง
ทั้งนี้ นายชูพงศ์ ร่วมกับนายสุรชัย แซ่ด่าน จัดรายการผ่านยูทิวบ์ตอบโต้นายสมศักดิ์ ด้วยถ้อยคำรุนแรงว่า “โลกนี้สำเร็จได้เพราะนักวิชาการหรือ หลงตัวเองมากเกินไปแล้ว นายสมศักดิ์ ยิ่งกว่าศัตรูอีก บิดเบือนสารพัด ในข้อเขียนแปลเจตนารมณ์ผิด แล้วมาอ้างว่าไม่มีข้อมูล  ที่ผ่านมา 10 ปี ระหว่างที่ผมกับมันทำ ใครมีข้อมูลมากกว่ากัน    ความคับแค้นใจถึงลอบสังหาร เป็นเพราะอะไร มีเหตุมีผลอะไร บอกว่าคนที่ไปฆ่าไปแกงกันไอ้พวกนี้มันใช้ไม่ได้ โดยเฉพาะฝ่ายถูกกระทำ ถ้าประชาชนฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตยถูกกระทำ ลุกขึ้นต่อสู้ไปยิงกับมัน ไอ้คนพวกนี้ผิดอย่างนั้นหรือ แล้วไอ้ยิง มาฆ่าฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตย ไม่ผิดใช่ไหมล่ะ ในโลกนี้ ที่ใช้คำว่าโลกสวย ผมไม่ใช่นักวิชาการ นักประวัติศาสตร์ อเมริกากว่าจะได้ประชาธิปไตย มีการต่อสู้ ล้มตายกันไหม อเมริกาฝ่ายเหนือ ฝ่ายใต้ สงครามกี่เดือนกี่ปี
นายสมศักดิ์จำไว้ คุณยิ่งกว่าศัตรูอีก รู้จักกูน้อยไป แล้วเจอกัน จำเอาไว้ ไม่เคยที่จะอะไรใคร นายสมศักดิ์หลงตัวเองมากเกินไป คิดว่าลึก โลกกว้างเหลือเกิน อยากจะเก่งอะไรก็ตามสบาย แต่มึงกับกูยิ่งกว่าศัตรูอีก ในบ้านหลังหนึ่งมีตั้งแต่พ่อบ้านยันคนทำความสะอาด ในโรงงานตั้งแต่เจ้าของโรงงานยันคนงาน ยาม วันนี้เป็นนักวิชาการที่ดีคนเดียว ไม่เห็นชมใครว่าดีเลย จ้องแต่จะจับผิดคนโน้นคนนี้นิดๆ หน่อย บิดเบือน เขาผิดคืบบอกเป็นวา
เสื้อแดงเป็นพวกที่ถูกกระทำ ได้รับแต่ความรุนแรง เวลาเหลืออด ถูกปิดตายทางออกทางสันติวิธี พอจะสู้ทางความรุนแรง มาบอกพวกนี้ผิด แล้วทหารกี่ยุคที่ฆ่ามา กลับไม่ประณาม มึงกับกูยิ่งกว่าศัตรู ไม่ให้ไปเครดิต เป็นยิ่งกว่าศัตรู ขอประกาศไม่ให้อภัยด้วย ใช้วาทะ ฐานะนักวิชาการมาเขียน มาบิดเบือน”

 

นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล : วิเคราะห์สถานการณ์ ในวันคืนสุดท้ายก่อนการนองเลือดใหญ่ลงวันที่ 28 เมษายน 2553 เวลา 20.52น.
"ขณะนี้การใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมที่ราชประสงค์ของรัฐบาล และการตัดสินใจที่จะ "ชน" กับการสลายการชุมนุม ของทักษิณและแกนนำ นปช. รวมทั้งความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะใช้ยุทธวิธี "คนชุดดำ" ที่เป็น "อาวุธลับ" ของพวกเขา แทบจะกล่าวได้เลยว่า ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้แน่นอนแล้ว"
นายสมศักดิ์เริ่มวิเคราะห์ถึงการมีอยู่ของกองกำลังติดอาวุธว่าน่าจะอยู่ฝ่ายเดียวกันกับนปช.และนาย เพราะต้องการใช้วิธีการต่อสู้ที่นายสมศักดิ์เรียกว่า “ชน” และเป็นการชนที่ไม่สนใจความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น นายสมศักดิ์บอกว่า “ซีกทักษิณและแกนนำฮาร์ดไลน์ นปช. โดยเฉพาะ จตุพรตัดสินใจ "ชน" เพราะสำหรับพวกเขาแล้ว การ "ชน" อย่างมาก ก็ "เสมอตัว" ไม่เสียมากกว่าที่เป็นอยู่ พวกเขาไม่ได้เอาเรื่องชีวิตคนที่อาจจะเสียเพิ่มขึ้นมาเป็นประเด็นสำคัญในการคำนวณอยู่แล้ว" จนในที่สุดนายสมศักดิ์ก็ยอมรับว่า คนชุดดำเป็นเครื่องมือของนายและนปช."กำลัง "คนชุดดำ" เป็นของซีกทักษิณ-แกนนำฮาร์ดไลน์ นปช. ค่อนข้างแน่นอน ไม่เพียงดูจากการที่คนเหล่านี้ โจมตีเฉพาะทหารรัฐบาล" "การโยนระเบิดสถานที่ต่างๆ คงเป็นฝีมือของคนกลุ่มนี้ เพื่อทำให้สถานการณ์เสียเสถียรภาพมากขึ้น การยิงผู้ชุมนุมสีลม ก็น่าจะเป็นฝีมือคนกลุ่มนี้ ไม่น่าจะใช่ฝีมือซีกรัฐบาล" ในแง่แกนนำ นปช.หลายคน ก็เช่นกัน การ "ชน" นั้น อย่างแย่สุดสำหรับพวกเขาก็ "เสมอตัว" "ถึงตรงนี้จึงชัดยิ่งกว่าชัดว่าแผนร้ายของนายทักษิณ คือการตัดสินใจชนรัฐบาลด้วยกองกำลังติดอาวุธ เพื่อทำให้เกิดความสูญเสียขึ้น แม้ว่าการจัดการภายในของแกนนำนปช.นั้น จะมีบางส่วนที่เห็นต่างแต่ก็ไม่อาจต้านทานความดันทุรังของพ.ต.ท.ทักษิณและแกนนำฮาร์คอได้"

นายสมศักดิ์บอกอีกว่า ในบรรดา แกนนำ นปช. คนอย่าง จรัล คงพยายาม ดึงให้ไปสู่ทิศทาง "หาทางลง"