เมื่อระบอบทักษิณมิอาจนำพามะกันถึงฝั่ง!!!แถมยังจูนไม่ติดกับ"คสช."จับตา"สหรัฐจะเลือกใคร"เล่นบท"เมื่อไม่ยอมก็อย่าเป็นสุข!?!"

28 ก.ย.59 เพจไทยโพสต์ เปิดเผย บทความวิเคราะห์ของ"เปลว สีเงิน"หรือ โรจน์ งามแม้น นักหนังสือพิมพ์อาวุโส ผู้เขียนบทความวิเคราะห์การเมืองและสังคม
ในประเด็น ตัวเลือกใหม่"ของสหรัฐในไทย

 

 

เมื่อสหรัฐ เป็นสปอนเซอร์ "แดงทั้งแผ่นดิน" ให้ระบอบทักษิณแต่แล้ว.....

"ไปไม่ถึงฝั่ง"!

งั้น..ลองเดากันซิ "หวยตัวไหน" ที่สหรัฐจะ "ทุ่มแทง" เป็นรายต่อไป ด้วยเจตนา

"เมื่อไม่ยอมให้ขี่ ประเทศไทยก็อย่าได้อยู่เป็นสุขกันเลย?"

ขึ้นชื่อว่าการเมือง ไม่ว่าการเมืองภายใน หรือการเมืองระหว่างประเทศ หลักการมีว่า "ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร"

หลักจำแนก "ไหนมิตร-ไหนศัตรู" ก็ง่ายๆ......

ประโยชน์ต้องกัน นั่นคือมิตร, ประโยชน์แตกกัน นั่นคือศัตรู!

"ตถตา" ครับ

คือมันเป็นของมันอย่างนั้น ไม่มีอะไรผิด-อะไรถูก เว้นแต่พวกโง่เขลาทึกทักเป็น "รัก-แค้น" ฝังตัวตายกันไปเอง

สำหรับไทยเรา แต่ละรัฐบาล มักเป็น "วัวเคยขา-ม้าเคยขี่" ของอเมริกัน

แต่พอมาถึงรัฐบาล คสช. "นายกฯ ประยุทธ์"..........

จากรัฐบาล "วัวเคยขา" ในอดีต กลับต้องมาเจอวัวแบบ "โคนนทิ" อย่างนายกฯ ประยุทธ์ ซึ่งเฉพาะแต่ "พระอิศวร" เท่านั้นขี่ได้

คาวบอยอเมริกัน โกรธมากกกก!

เมื่อไม่ยอม ก็ขยี้ทิ้งซะ จากที่เชิด "สัมภเวสีทักษิณ" ให้ปฏิบัติการเปลี่ยนระบอบ-ล้มสถาบัน เป็น "แดงทั้งแผ่นดิน"

จลาจล วินาศกรรม เผาบ้าน-เผาเมือง ฆ่าทหาร สหรัฐยอมรับได้ ขอให้ตะโกนคำว่า "เพื่อประชาธิปไตย" ไว้ก็แล้วกัน

ทำเนียบขาวบอก...จัสมิน สปริง โอเค!?

แต่ปรากฏว่า ทั้งแม่ทัพ-นายกอง และไพร่ราบ-พลเลว ของกองทัพระบอบทักษิณ

รบแล้ว ไปถึง "คุก" ก่อนไปถึง "ฝั่ง" มากต่อมาก

ที่ไม่ถึงคุก แต่ถึง "ตาย" ก่อน ด้วยมีเหตุเป็นไปเอง ก็มากต่อมาก

และที่กำลังเรียงคิวคุกบ้าง ตายบ้าง เสียจริต-เสียคนบ้าง เสียสิ้นศรัทธาจากมวลชนเสื้อแดงบ้าง

อะไรที่ใช้แทนคำว่า "มากต่อมาก" ได้ ก็ใช้คำนั้นเหอะ!

เข้มข้นต่อเนื่องมาเรื่อยๆ เมื่อระบอบทักษิณหมดอำนาจ รัฐบาล คสช.ต่อมา ไม่อ้าขาแบให้สหรัฐเหมือนเดิม

เท่านั่นแหละ โอบามาตั้งข้อหา "เผด็จการ" กับ คสช.ถึงขั้นประจาน ไม่ให้เข้าสหรัฐ-ยุโรป ไม่ค้า-ไม่ขายด้วย

กะเอาถึงตาย ทั้งการเมือง-การเศรษฐกิจ!

พอดีสถานการณ์โลกเปลี่ยน หลายสนามรบที่จักรวรรดิอำนาจสหรัฐ-ยุโรปก่อไฟ หวังยึดครอง กลับถูกฝ่ายตรงข้ามผนึก "พันธมิตรบูรพา" ที่มีจีน-รัสเซีย เป็นตัวนำตีโต้

ในสนามรบ สหรัฐมีแต่แหลก ในสนามโซเชียลมีเดีย สหรัฐก็พังด้านภาพลักษณ์

ซ้ำปัญหาภายใน ทั้งเศรษฐกิจ ทั้งเดโมเครซี สปริง ทั้งสงครามผิว ประดัง-ประเด

จวบถึงวาระ "เปลี่ยนหัว" อินทรี.......

CFR ส่ง "ห่วยมาก" ลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีกับ "ห่วยมากกว่า" แต้มนี้ ใครก็มองออกว่า

องค์การ New World Order ต้องการได้ "ห่วยมาก" ซึ่งมีแนวกระหายสงคราม ขึ้นเป็นหุ่นเชิดในตำแหน่ง "ผู้นำอำนาจโลก"

ก็เพื่อ "สงครามโลก"

เพราะมีแต่สูตรนี้เท่านั้น ที่สหรัฐจะสามารถ set zero ทั้งปัญหาตัวเอง และปัญหาโลกที่ไปก่อระยำคาไว้เปรอะไปหมด!

แต่อเมริกัน "ไม่ได้เกิดมาเพื่อแพ้"

ตราบใดที่สหรัฐยกตำแหน่งศัตรู "คู่ศตวรรษ" ให้กับจีนและรัสเซีย และปักหมุดว่า

จะเสียดุลอำนาจในภาคพื้นแปซิฟิก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไปไม่ได้

ตราบนั้น "กับประเทศไทย"..........

สหรัฐไม่ได้ด้วยเล่ห์ ก็ต้องเอาด้วยมนต์ ไม่ได้ด้วยมนต์ ก็ต้องเอาด้วยคาถา

ถ้าด้วยคาถาก็ยังไม่ได้........

มันก็ต้องปล้ำ "ข่มขืนแล้วฆ่า" สถานเดียว!

เพราะอะไร?

เพราะ "แพ้-ชนะ" เพื่อภูมิภาคนี้ ยุทธภูมิชี้ขาดก็อยู่ที่ไทยนี่แหละ ถ้าไม่ได้ไทยเหมือนยุคสฤษดิ์-ถนอม

สหรัฐก็ยาก "หยิบส้มในเข่ง"

อย่าว่าแต่เข้าครองอำนาจในภูมิภาคนี้เลย แค่รักษาอำนาจที่เคยมี

นั่นก็ยากแล้ว.......!

เพราะโลกใบนี้ ไม่ได้มีแค่ ไอเอ็มเอฟ เวิลด์แบงก์ เป็นเค้กล่อใจ

หากแต่มี AIIB (ธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย) ของจีน และกลุ่มสหภาพเศรษฐกิจยูเรเชีย ของรัสเซีย

เป็นขนมเข่ง เป็นคาเวียร์ ตีประกบ ผูกมัดใจแทนแล้ว!

แล้ว "นิวเคลียร์" ใช่ว่ามีแต่สหรัฐนะ เวลานี้

ของ "เฮียคิม" ที่เกาหลีเหนือ ก็มี!?

เมื่อสหรัฐโยนป้าย "รัฐบาลเผด็จการ-นายกฯ เผด็จการ" ใส่ไทย หวังให้ประชาคมโลก "คว่ำบาตร" นายกฯประยุทธ์

ใช้ข้อหา "ไม่ใช่นายกฯ มาจากเลือกตั้ง" แทนข้อหา "มึงไม่ยอมกู"!

แต่กลับปรากฏถึงกาล โลกเหม็นเบื่อประชาธิปไตยปลอมๆ ส่วนมากมองปัญหาโลกวันนี้ แล้ววิเคราะห์

ที่ฉิบหาย-วายวุ่น แก้ไม่ตกทั้งโลก เหตุมาจากคำว่าประชาธิปไตย

แล้วเขายกไทยเป็นตัวอย่าง "ประชาธิปไตยเก๊-เผด็จการคุณธรรม".......

โกงก็ประชาธิปไตย, กินบ้าน-กินเมืองก็ประชาธิปไตย, เผาบ้าน-เผาเมือง ก็ประชาธิปไตย

อะไรของมันวะ....?

ประชาธิปไตย มีแต่ชาวบ้านอดตายบ้าง ถูกโกงตายบ้าง แต่พวกอ้างประชาธิปไตย กลับรวยฉิบหาย ฟูอึ่ดทึ่ดเป็นหน้าซาลาเปาฝ่ายเดียว

แต่พอ "เผด็จการคุณธรรม" เข้ามาเป็นรัฐบาล ปี-สองปี.......

ชาวบ้านเริ่มงอกงาม คนดีออกเดินตามถนนได้ บ้านเมืองสงบสุข แต่โกงยังไม่หาย หลุบๆ หลบๆ แถม "ค่าโกง" แพงขึ้น เพราะเสี่ยงสูง

ส่วนพวกกเฬวราก พวกอ้างประชาธิปไตยหาแดก ในยุคเผด็จการแท้ๆ กลับปรากฏว่า

มีสิทธิเสรีภาพกวนเมือง ทั้งแหกปากบิดเบือน ทั้งปล่อยข่าวสารเท็จใต้ดิน-บนดิน กระทำเป็นปฏิปักษ์สถาบัน

ไม่ว่าตามถนน ในมหา'ลัย หน้าจอโทรทัศน์ รัฐบาลเผด็จการแค่ฮึ่มๆ แฮ่ๆ แต่ไม่กัด

ทั่วโลกแปลกใจ.........

ยุคประชาธิปไตยระบอบทักษิณ ใครด่ามากๆ ต่อต้านรัฐบาลมากๆ ไม่ตาย ก็หายตัว

แต่ยุคเผด็จการระบอบคุณธรรม ด่ามากๆ ต่อต้านมากๆ ไม่มีใครตาย ไม่มีใครหาย อย่างเก่งถูกใช้กฎหมายแบบ "ดีดไข่" เตือน

ที่จะหนักแทนก็ "นักข่าวทำเนียบฯ"

เพราะนายกฯ ใช้เป็นที่รองรับ "อารมณ์ระบาย" ถามแบบมีสิทธิเสรีภาพ ท่านก็ตอบแบบมีสิทธิเสรีภาพ ไฟแลบพอกัน!

เพราะอย่างนี้ สหรัฐจึงมี "ท่าทีใหม่" กับไทย

ไม่ใช่ปล่อยรัฐบาล คสช.-นายกฯ ประยุทธ์ "สอบผ่าน" ด่านตำรวจโลก

หากแต่ "เปลี่ยนตัว-เปลี่ยนตา" หมาก เดินแต้มใหม่ ส่วนเป้าหมาย มุ่งเหมือนเดิม

ผมจำได้ว่า ที่ "นายเกล็น ที. เดวีส์" ทูตสหรัฐประจำไทย เข้าพบ "พลเอกประวิตรวันก่อนน่ะ ไม่ได้มาเล่นยี่เกเฉยๆ

หากในการประชุมวง ADMM Plus "รัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนและคู่เจรจา" ที่ฮาวาย ซึ่งรองนายกฯ ประวิตรจะไปร่วมประชุมด้วย นั้น

ดูเหมือนระหว่างรัฐมนตรี กห.ไทยกับ กห.สหรัฐ มีการโปรโมตให้เป็น "คู่เจรจา" กันด้วย

กห.คุยกับ กห. คงไม่คุยเรื่องแปลงเพศ หรือเรื่องทศกัณฐ์แคะขนมครกแน่!

แล้วยามนี้ มีเรื่องอะไรน่าคุยกันล่ะ?

ผมก็ไม่ใช่คนธรรพ์ที่จะแปลงเป็นไรซุกขนพญาอินทรีไปแอบฟังเรื่องที่เขาจะคุยกันซะด้วย

เอาเป็นว่า เมื่อสหรัฐ "เปลี่ยนตัวเลือก" จากระบอบทักษิณแล้ว ถ้ายังจูนกับไทยไม่ติด

ท่านว่า "สหรัฐจะเลือกใคร" เพื่อเล่นบท "เมื่อไม่ยอม ก็อย่าอยู่เป็นสุข?"

ก็อย่าลืม.....

ในบ้านเรา ไม่ได้มีแค่ตัวทูตและเจ้าหน้าที่ทูตสหรัฐ หากแต่ยังมีหน่วยมั่นคง หน่วยราชการลับ ฝังตัวอยู่ทั้งกรุงเทพฯ เชียงใหม่ และอีกหลายแห่ง

ก็ "หลายหมื่น" อยู่!

ขนาด 9/11 พุ่งชนตึกเวิลด์เทรด กลางนิวยอร์ก ก็แดงออกมาแล้วสหรัฐ "จัดฉาก" ซะเอง

ไอซิส เกิดขึ้นเป็น "อสูรพันธุ์ใหม่" ทำลายล้างโลก ทำไป-ทำมา บิดร-มารดาผู้ให้กำเนิดอสูรไอซิส ก็คือสหรัฐ

ในอาเซียนขณะนี้ ฟิลิปปินส์ มาเลย์-อินโดฯ ไอซิส "สายพันธุ์อเมิรกัน" เข้าไปแล้ว

กับที่ไทยเรา ยังไม่ถึงขนาดนั้น ในวันนี้

แต่ "พรุ่งนี้" ใครจะรับประกันได้?

ผมก็เพียงให้ "อย่าอยู่ในประมาท" เพราะทุกอย่าง "มันทำได้" เมื่อมันไม่ได้อย่างไจ

และมัน "ทำมาแล้ว" มิใช่หรือ?