ขอคุยหน่อย!!!...จับปูม้า ได้วันละหมื่น ขอบคุณ"ลุงตู่"ยกใหญ่ เพราะอะไร???

สืบเนื่องจาก รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จัดระเบียบเรือประมง ซึ่งปัจจุบันทำให้ชาวประมงสามารถออกทะเลวางอวนจับสัตว์น้ำได้ เช่นเดียวกัน อ่าวชายทะเลบ้านเกาะเตียบ หมู่ 7 ต.ปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซึ่ง

สืบเนื่องจาก รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จัดระเบียบเรือประมง ซึ่งปัจจุบันทำให้ชาวประมงสามารถออกทะเลวางอวนจับสัตว์น้ำได้

เช่นเดียวกัน อ่าวชายทะเลบ้านเกาะเตียบ หมู่ 7 ต.ปากคลอง อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งเป็นหมู่บ้านชุมชนชาวเล มีอาชีพทำประมงด้วยเรือขนาดเล็กที่มีอยู่กว่า 100 ลำ ส่วนใหญ่เป็นเรือหางยาว ออกจับสัตว์น้ำตามฤดูกาลบริเวณชายฝั่ง

ปรากฏว่าขณะนี้ หลังรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จัดระเบียบเรือประมง ผ่านไปกว่า 1 ปี ปัจจุบันทำให้ชาวประมงชายฝั่งบ้านเกาะเตียบ สามารถออกทะเลวางอวนจับปูม้าบริเวณหน้าอ่าวได้เป็นจำนวนมากทุกวัน มีรายได้วันละนับหมื่นบาท นอกจากนี้ ยังตกปลาอินทรีย์ขนาดใหญ่น้ำหนักตัวละ 3-5 กิโลกรัม ได้จำนวนมากด้วย โดยมีพ่อค้าแม่ค้า และนักท่องเที่ยว ไปรอซื้ออาหารทะเลแบบสดๆ กันทุกวัน

นายสมโภชน์ สรวิสัย อายุ 32 ปี และนายสุชาติ เทียนเพชร อายุ 53 ปี ชาวเลบ้านเกาะเตียบ กล่าวว่า ชาวประมงบ้านเกาะเตียบเป็นชุมชนดั้งเดิมที่ยึดอาชีพประมงสืบทอดต่อกันมาแต่โบราณ จับสัตว์น้ำตามฤดูกาล ซึ่งช่วงนี้เป็นฤดูกาลที่มีปูม้าชุกชุม ชาวประมงออกไปวางอวนจับปูม้าได้กันจำนวนมาก เฉลี่ยเรือแต่ละลำจะจับปูม้าได้วันละ 50-100 กิโลกรัม มีแม่ค้ามารับซื้อกิโลกรัมละ 160 บาท ทำให้ชาวประมงมีรายได้กันวันละ 8,000-16,000 บาททีเดียว

 

อย่างไรก็ตาม ในรอบกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ชาวประมงชายฝั่งไม่เคยจับปูม้าได้มากขนาดนี้ เนื่องจากมีเรือพาณิชย์ขนาดใหญ่ โดยเฉพาะอวนลากเข้ามาจับสัตว์น้ำใกล้ชายฝั่ง จนแทบไม่เหลือสัตว์น้ำให้ชาวประมงชายฝั่งได้จับกันเลย นอกจากนั้น เรืออวนลากพวกนี้ยังสร้างความเสียหาย ลากเอาอวนปูของชาวประมงชายฝั่งไปด้วย จนหลายคนต้องหยุดอาชีพนี้ไปเลยก็มี

 

พวกผมฝากขอบคุณ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ใช้โอกาสนี้จัดระเบียบเรือประมงพาณิชย์ผิดกฎหมาย และเอาจริงกับเรือประมงขนาดใหญ่ที่เข้ามาลักลอบจับปลาใกล้ชายฝั่ง ในพื้นที่รัศมีต้องห้ามตามกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมาหน่วยงานเกี่ยวข้องได้ปล่อยปละละเลย และไม่สามารถนำกฎหมายมาบังคับใช้กับเรือประมงเหล่านี้ได้ แต่ปัจจุบันปัญหาดังกล่าวแทบจะไม่มีให้เห็นอีกแล้ว ทำให้มีสัตว์น้ำชุกชุมมากขึ้น หากเปรียบเทียบกับช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ชาวประมงชายฝั่งอยู่อย่างลำบาก สัตว์น้ำแทบไม่มีให้จับมาขายเลี้ยงครอบครัวได้เลย

ย้อนกลับไป หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ได้ออกประกาศ ที่ 24/2558 เล่มที่ 132 ตอนพิเศษ 181 ง เรื่อง การแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม เพิ่มเติม ระบุว่า

 

ตามที่หัวหน้า คสช.โดยความเห็นชอบของ คสช.ได้ออกคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 10/2558 เรื่อง การแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม ลงวันที่ 29 เมษายน 2558 เพื่อจัดตั้งศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายขึ้น โดยให้มีอำนาจหน้าที่ในการบัญชาการการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายในภาพรวม ตลอดจนเสนอแนะในการปรับปรุง แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งพัฒนากฎหมาย กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาการทำการประมงที่ผิดกฎหมายให้เป็นมาตรฐานสากลนั้น

 

บัดนี้ ได้รับรายงานจากศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายว่า ปัจจุบันทรัพยากรสัตว์น้ำในน่านน้ำไทยมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากการทำการประมงที่เกินศักย์การผลิตตามธรรมชาติที่จะทดแทนได้ หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้อยู่ต่อไปโดยไม่มีมาตรการในการจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำที่ดีพอ จะทำให้กิจการประมงของประเทศอยู่ในภาวะวิกฤต และส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นเพื่อให้จำนวนเรือไทยสำหรับการประมงอยู่ในภาวะสมดุลกับทรัพยากรสัตว์น้ำ และมิให้มีการใช้เครื่องมือทำการประมงที่เป็นการทำลายพันธุ์สัตว์น้ำอย่างร้ายแรงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 หัวหน้าคสช.โดยความเห็นชอบของคสช.จึงมีคำสั่งดังต่อไปนี้

 

ข้อ 1 ให้นายทะเบียนเรือตามกฎหมายว่าด้วยเรือไทย งดการจดทะเบียนเรือไทยสำหรับการประมง หรือเรืออื่นตามที่ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายประกาศกำหนดที่จะขอจดทะเบียนเรือใหม่ทุกประเภทและทุกขนาด หรือเปลี่ยนประเภทการใช้เรือจากเรือประเภทอื่นมาเป็นเรือประมง ทั้งนี้จนกว่าจะมีการกำหนดให้มีการจดทะเบียนเรือไทยสำหรับการประมงหรือเรืออื่นเพิ่มเติมได้ตามหลักเกณฑ์ที่ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายประกาศกำหนด

 

ข้อ 2 ห้ามมิให้บุคคลใดใช้หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อใช้ซึ่งเครื่องมือทำการประมง ดังต่อไปนี้

(1) เครื่องมืออวนรุนที่ใช้ประกอบกับเรือยนต์ เว้นแต่การใช้เครื่องมืออวนรุนเคยที่ใช้ประกอบเรือยนต์ทำการประมงตามรูปแบบของเครื่องมือ ขนาดเรือ วิธีการทำการประมง พื้นที่ทำการประมงและเงื่อนไขที่ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายประกาศกำหนด

(2) เครื่องมือโพงพาง รั้วไซมานหรือกั้นซู่รั้วไซมาน เครื่องมือลี่ หรือเครื่องมืออื่นที่มีลักษณะและวิธีการคล้ายคลึงกัน

(3) เครื่องมืออวนล้อมจับที่มีขนาดช่องตาเล็กกว่า 2.5 เซนติเมตร ทำการประมงในเวลากลางคืน

(4) เครื่องมือลอบพับได้หรือไอ้โง่ ที่มีช่องทางเข้าของสัตว์น้ำสลับซ้ายขวาอยู่ทางด้านข้างใช้สำหรับดักสัตว์น้ำ

(5) เครื่องมืออวนลากที่มีช่องตาอวนก้นถุงเล็กกว่า 5 เซนติเมตร

(6) เครื่องมือทำการประมงอื่นตามรูปแบบของเครื่องมือ วิธีการทำการประมง พื้นที่ทำการประมงขนาดของเรือที่ใช้ประกอบการทำการประมง และเงื่อนไขอื่นที่ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายประกาศกำหนด

 

ข้อ 3 เครื่องมือทำการประมง เรือที่ใช้ทำการประมง สัตว์น้ำ และสิ่งอื่นๆ ที่ใช้ในการกระทำความผิดหรือได้มาโดยการกระทำความผิด โดยฝ่าฝืนคำสั่งหรือประกาศที่ออกตามคำสั่งนี้ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจดำเนินการยึดและให้ทรัพย์สินนั้นตกเป็นของแผ่นดิน ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจดำเนินการรื้อถอนหรือทำลายเครื่องมือทำการประมง เรือที่ใช้ทำการประมง สัตว์น้ำ และสิ่งอื่นๆ ที่ตกเป็นของแผ่นดินตามวรรคหนึ่ง เว้นแต่เจ้าของหรือผู้ครอบครองสามารถแสดงหลักฐานได้ว่าทรัพย์สินนั้นมีไว้โดยชอบด้วยกฎหมาย ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ถูกยึด

 

ข้อ 4 ผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งฉบับนี้ หรือประกาศที่ออกตามคำสั่งนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับตั้งแต่หนึ่งแสนบาทถึงห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

ข้อ 5 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับการแต่งตั้งตามประกาศที่ออกตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 10/2558 เรื่อง การแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม ลงวันที่ 29 เมษายน 2558 เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามคำสั่งฉบับนี้ด้วย

 

ข้อ 6 เพื่อประโยชน์ในการจับกุมผู้กระทำความผิดตามคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 10/2558 เรื่อง การแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม ลงวันที่ 29 เมษายน 2558 และคำสั่งนี้ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

 

ข้อ 7 ประกาศของศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมายที่ออกตามคำสั่งนี้ เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้