รัฐบาล ประกาศ เป็นเจ้าภาพประชุมเอซีดี สะท้อนโลกยอมรับไทย แนะคนไทยต้องเป็นเจ้าบ้านที่ดี อย่าให้เสียชื่อในครั้งนี้

รัฐบาล ประกาศ เป็นเจ้าภาพประชุมเอซีดี สะท้อนโลกยอมรับไทย แนะคนไทยต้องเป็นเจ้าบ้านที่ดี อย่าให้เสียชื่อในครั้งนี้

บิ๊กตู่ เตรียมเปิดประชุมเอซีดี รบ.โว เป็นเจ้าภาพสะท้อนภาพความเชื่อมั่นและยอมรับของต่างชาติ ย้ำไทยพร้อมแสดงบทบาทนำที่สร้างสรรค์หลอมรวมเอเชีย แนะคนไทยเป็นเจ้าบ้านที่ดี

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 9 – 10 ตุลาคมนี้ รัฐบาลไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย ครั้งที่ 2 (ACD Summit) ณกรุงเทพมหานคร ในหัวข้อ “เอเชียหนึ่งเดียว หลากหลายในพลัง” โดยมีประมุขแห่งรัฐ ผู้นำ และผู้แทนระดับสูงของประเทศสมาชิกเอซีดี 34 ประเทศ รวมทั้งไทย ตอบรับการเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ โดยผู้นำเอเชียมีความเชื่อมั่นและยอมรับรัฐบาลไทย พร้อมให้ความร่วมมือเพื่อผลักดันให้เอเชียช่วยสร้างความสมดุลต่อเศรษฐกิจโลก และลดความเหลื่อมล้ำระหว่างประเทศสมาชิกด้วยกัน โดยประมุขและผู้นำที่จะเดินทางมายังไทย เช่น เจ้าผู้ครองรัฐคูเวต ประธานาธิบดีอิหร่าน ประธานาธิบดีศรีลังกา รองประธานาธิบดีจีน นายกรัฐมนตรีบาห์เรน นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย นายกรัฐมนตรีปากีสถาน เป็นต้น

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญต่อการประชุมครั้งนี้อย่างมาก เพราะไทยจะมีโอกาสได้แสดงบทบาทนำที่สร้างสรรค์ในเวทีระหว่างประเทศ ทั้งในฐานะผู้ก่อตั้งและสมาชิกเอซีดี และในฐานะประธานกลุ่ม 77 พร้อมทั้งย้ำว่ารัฐบาลส่งเสริมให้ทุกประเทศหันหน้าสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน และแบ่งปันให้เกิดการพัฒนาไปพร้อม ๆ กัน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ทั้งนี้นายกฯ จะเป็นประธานเปิดการประชุมภาคธุรกิจ ACD Connect Business Forum ในวันที่ 9 ตุลาคม ซึ่งเป็นกิจกรรมคู่ขนานที่ไทยได้ริเริ่มให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมกับเอซีดีมากขึ้น และมีกำหนดพบหารือทวิภาคีกับผู้นำเอเชีย เช่น ประธานาธิบดีศรีลังกา ประธานาธิบดีอิหร่าน นายกฯกัมพูชา นายกฯภูฏาน รอง ประธานาธิบดีจีน รวมทั้งเป็นประธานการประชุมระดับผู้นำเอซีดี ในวันที่ 10 ตุลาคมที่กระทรวงการต่างประเทศ โดยได้ฝากกำชับให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมทั้งด้านการต้อนรับ การจัดประชุม การรักษาความปลอดภัย และการจราจร พร้อมทั้งเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดี เพื่อให้ผู้มาเยือนเกิดความประทับใจ

พล.ท.สรรเสริญ กล่าวว่า ทั้งนี้ รัฐบาลจะผลักดันความร่วมมือที่สำคัญ 6 ด้าน คือ 1) ความเชื่อมโยงระหว่างประเทศ 2) วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และนวัตกรรม 3) การศึกษาและการพัฒนาทรัพยากร 4) ความมั่นคงทางอาหาร พลังงาน และน้ำ 5) วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว 6) การส่งเสริมการพัฒนาที่ทั่วถึง โดยนำเสนอแนวปฏิบัติตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามเป้าหมายของสหประชาชาติ ซึ่งผลสำเร็จจากการประชุมครั้งนี้ จะทำให้ไทยได้รับประโยชน์ในแง่ความเชื่อมั่นที่ประชาคมเอเชียและโลกมีต่อไทย และต่อยอดการพัฒนาร่วมกันในด้านต่าง ๆ เช่น การค้าการลงทุน การเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมขนส่งในภูมิภาค การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการศึกษา การเดินทางไปมาหาสู่ระหว่างกัน และการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว ซึ่งจะส่งผลให้คนไทยในฐานะสมาชิกของเอเชียมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น