โคตรเสียดสีเลย!!!..before&after หลังเจ นี่มันคืออะไรกัน(รายละเอียด)

โคตรเสียดสีเลย!!!..before&after หลังเจ นี่มันคืออะไรกัน(รายละเอียด)

เทศกาลกินเจ ที่เพิ่งพ้นไป เมื่อวันที่ 1 -9 ตุลาคม 59 ถือว่าเป็นเทศกาลที่คนไทยส่วนใหญ่ให้ความสนใจและนิยมทานเจ เนื่องจากเชื่อว่าจะเป็นการทำบุญ เพราะละเว้นจากการฆ่าสัตว์ และส่วนหนึ่งยังเชื่อว่าจะเป็นผลดีต่อสุขภาพเพราะจะเป็นล้างพิษในร่างกายอีกด้วย    

แต่ในโลกออนไลน์ ที่เพจ " FuckGhostฟักโกสต์ : สมาคมต่อต้านสิ่งงมงาย"   มีการเผยแพร่   ภาพเสียดสีการทานอาหาร ในระหว่างเทศกาลกินเจ และ หลังจากออกเจแล้ว
 

โคตรเสียดสีเลย!!!..before&after หลังเจ นี่มันคืออะไรกัน(รายละเอียด)

 

 

(อ่านข่าวก่อนหน้า >>>http://panyayan.tnews.co.th/contents/205932/ปิดประตูสวรรค์ เทศกาลกินเจ)

สมเด็จพระสังฆราช เคยปรารถเรื่องการกินเจกับพระราชินีว่าคนไทย "เข้าใจผิด" อยู่มาก

การกินเจ (ตั้งใจไม่กินเนื้อสัตว์) จริงๆไม่ได้บุญอธิบาย คือ เราไม่กินข้าวขาหมู แล้วคิด(จินตนาการ) ว่า หมูจะไม่ถูกฆ่า เปรียบได้กับเรานั่งอยู่บ้านเฉยๆแล้วคิด(จินตนาการ) ว่า เราไปช่วยสอนหนังสือคนอนาถา บุญที่เราไปสอนหนังสือคนอนาถานั้น ไม่มี ไม่เกิด เพราะเรา นึกๆคิดๆไปเองไม่ได้ทำ ไม่ได้กระทำจริง ถ้าอยากได้บุญ เราต้องช่วยชีวิตสัตว์ มี ๒ ข้อ คือ

๑.ช่วยชีวิตมันโดยการไถ่ชีวิต ซื้อสัตว์ที่กำลังถูกฆ่านำมาปล่อย

๒.เมตตาสัตว์ไม่ทำร้ายมัน อย่างนี้เป็นบุญ

แต่การกินเจ บุญไม่เกิด เพราะเราไม่ได้ลงมือกระทำจริง(ช่วยชีวิตสัตว์) เป็นเพียงแต่คิดไปเอง

พระเทวทัตเคย มาเสนอให้ชาวพุทธไม่กินเนื้อสัตว์พระพุทธเจ้าปฏิเสธ พร้อมให้เหตุผลว่า

๑. เนื้อสัตว์ไม่ใช่ของเหม็น อกุศลกรรมต่างหากที่เป็นของเหม็น

๒. พระต้อง ควรเป็นผู้เลี้ยงง่าย

๓. อนุญาตในการกินเนื้อสัตว์ที่ -ไม่เห็น -ไม่รู้ -ไม่ใช่เนื้อที่ฆ่าโดยเฉพาะให้ตน

๔. อาหารเป็นแค่ของเลี้ยงกายไม่ให้ตาย อย่าสนใจมาก

การรับประทานอาหารมังสวิรัติเป็นบุญหรือไม่ ?

การที่จะวินิจฉัยว่าการกระทำอะไร เป็นบุญหรือไม่เป็นบุญนั้น ต้องอาศัยกับหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่ว่าด้วย บุญกิริยาวัตถุ ๑๐ อย่าง คือ

๑. ทานมัย บุญสำเร็จด้วยการบริจาคทาน

๒. สีลมัย บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล

๓. ภาวนามัย บุญสำเร็จด้วยการเจริญภาวนา

๔. อปจายนมัย บุญสำเร็จด้วยประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่

๕. เวยยาวัจจมัย บุญสำเร็จด้วยการช่วยเหลือขวนขวายในกิจการงานต่างๆ

๖. ปัตติทานมัย บุญสำเร็จด้วยการให้ส่วนบุญ

๗. ปัตตานุโมทนามัย บุญสำเร็จด้วยการอนุโมทนาส่วนบุญ

๘. ธัมมัสสวนมัย บุญสำเร็จด้วยการฟังธรรม

๙. ธัมมเทสนามัย บุญสำเร็จด้วยการแสดงธรรม

๑๐.ทิฏฐุชุกัมม์ การทำความคิดเห็นของตนให้ตรง

เมื่อเทียบเคียงกับบุญกิริยาวัตถุ ๑๐ วิธี แล้ว ไม่พบว่าการรับประทานอาหารมังสวิรัติ คือ รับประทานแต่พืชผักเป็นวิธีทำบุญข้อใดเลย จึงไม่นับว่าเป็นวิธีทำบุญในพระพุทธศาสนา ลองคิดดูว่าถ้าการกินพืช เช่น ผัก หญ้า ได้บุญ แล้วสัตว์ที่กินพืชเป็นอาหาร เช่น วัว ควาย แพะ แกะ ก็ต้องได้บุญมากกว่ามนุษย์ เพราะสัตว์พวกนี้กินพืชตลอดชีวิตไม่กินเนื้อสัตว์เลย

 

 

 

 

(อ่านข่าวก่อนหน้า >>>http://panyayan.tnews.co.th/contents/206421/ข้อควรรู้ "การถือศีลกินเจ" สำหรับมือใหม่)

 

การกินเนื้อสัตว์ บาป หรือ ไม่ ?

การที่จะวินิจฉัยว่าบาปหรือไม่บาปนั้น ต้องพิจารณาว่า การกินเนื้อสัตว์ที่ตายแล้ว เป็นการผิดศีลข้อปาณาติบาต หรือไม่ ศีลข้อปาณาติบาต คือ งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ นั้นจะผิดศีลก็ต่อเมื่อประกอบด้วย องค์ ๕ คือ

๑. ปาโณ สัตว์มีชีวิต

๒. ปาณสญฺญิตา รู้ว่าสัตว์มีชีวิต

๓. วธกจิตฺตํ จิตคิดจะฆ่า

๔. อุปกฺกโม พยายามที่จะฆ่า

๕. เตนมรณํ สัตว์ตายด้วยความพยายามนั้น

เมื่อครบองค์ประกอบทั้ง ๕ ข้อ จึงถือว่าเป็นการฆ่าสัตว์ ผิดศีลข้อที่ ๑ เป็นบาป แต่ถ้าไม่ได้ลงมือฆ่าเอง และไม่ได้ใช้ให้ผู้อื่นฆ่า ก็ไม่เป็นบาป ตัวอย่าง เราไปจ่ายตลาด ซื้อกุ้งแห้ง ปลาดุกย่าง ปลาทู เนื้อหมู ฯลฯ เราได้มีส่วนร่วมในการฆ่าสัตว์เหล่านั้นหรือไม่ สัตว์เหล่านั้นย่อมตายก่อนที่เราจะไปซื้อมาเป็นอาหาร ถึงเราจะซื้อหรือไม่ซื้อ สัตว์เหล่านั้นก็ตายอยู่แล้ว เราไม่ได้มีส่วนทำให้ตาย

มีพุทธภาษิตบทหนึ่งว่า“นตฺถิปาปํอกุพฺพโต”แปลได้ความว่า“บาป ไม่มีแก่ผู้ไม่ทำ”

การกินผักก็อาจจะต้องฆ่าสัตว์ทางอ้อมไปด้วยเช่นกัน เพราะต้องไถดิน ใส่ปุ๋ย ใช้ยากำจัดแมลง อาจทำให้แมลงต่างๆ ไส้เดือนตายได้ ถ้าแบบนี้บาปก็คงไม่ต้องทำสัมมาอาชีพกันเลย

หลวงปู่แหวนท่านบอกว่า"ไอ้วัวควายกินหญ้าอยู่ตั้งนาน ไม่เห็นเป็นพระอรหันต์ซักตัว"

 

 

(อ่านข่าวก่อนหน้า >>>http://panyayan.tnews.co.th/contents/206953/"กินเจไม่ได้บุญอย่างที่คิด...กินเนื้อก็ไม่บาปอย่างที่เข้าใจ"