นริศรอ้าง!! โรคประสาท-ขี้ลืม เสียบบัตรแทนคนอื่น!!! พร้อมเผย..อดีตส.ส.ฝากบัตรสมาชิกไว้หลายคน (รายละเอียด)

นริศรอ้าง!! โรคประสาท-ขี้ลืม เสียบบัตรแทนคนอื่น!!! พร้อมเผย..อดีตส.ส.ฝากบัตรสมาชิกไว้หลายคน (รายละเอียด)

เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 59 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ครั้งที่ 67/ 2559 โดยมี นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช. ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อดำเนินการกระบวนการถอดถอนนายนริศร ทองธิราช อดีตส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย ออกจากตำแหน่งจาก กรณีใช้บัตรลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ลงคะแนนแทนบุคคลอื่น ตามมาตรา 6 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ประกอบมาตรา 64 แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 ซึ่งเป็นขั้นตอนซักถามของคณะกรรมาธิการซักถาม ทั้งนี้ได้มีการเปิดคลิปบันทึกภาพการเสียบบัตรลงคะแนนของนายนริศร ที่ใช้บัตรลงคะแนนถึง 3 ใบ ในการประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 10 กันยายน และวันที่ 11 กันยายน 2556

โดย น.ส.สุภา ปิยะจิตติ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ตอบคำถามว่า ได้มีการตรวจสอบคลิปทั้งหมดเป็นของจริงไม่มีการตัดต่อ และจากการสอบถามเจ้าหน้าที่สภาฯ พบว่านายนริศร มีบัตรลงคะแนนเพียงใบเดียวไม่มีการออกบัตรสำรอง ดังนั้นแสดงให้เห็นว่านายนริศรใช้บัตรลงคะแนนเกิน 1 ใบ ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ว่าอีก 2 ใบที่เหลือว่าเป็นบัตรของใคร เพื่อจะได้จะดำเนินการต่อไป ส่วนการลงโทษทางคดีอาญานั้นถือว่านายนริศรมีความผิดตามมาตรา 123 และ123/1 ของกฎหมายป.ป.ช. เป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่เพื่อให้คนอื่นได้ประโยชน์ ทั้งนี้ป.ป.ช.ได้ส่งเรื่องไปยังอัยการ เพื่อให้ดำเนินการส่งเรื่องไปยังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองดำเนินการต่อไป โดยบทลงโทษจำคุก 1-10 ปี รวมทั้งจำและปรับด้วย

 

ด้านนายนริศร ได้ยืนยันว่าภาพในคลิปเป็นตนจริง พร้อมยอมรับการฝากบัตรไม่ใช่เฉพาะนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร และนายคมเดช ไชยศิวามงคล อดีต ส.ส.พรรคเพื่อไทย เท่านั้น แต่ยังมีมาฝากอีกหลายคน แต่ยืนยันกดบัตรใบเดียวและเป็นบัตรของตัวเองทั้งนั้น ไม่เคยเสียบบัตรให้ใคร แต่อย่างไรก็ดีตนเป็นโรคประสาทชอบเสียบบัตรของตัวเองหลายใบ ไม่มีของคนอื่นเลย เพราะเป็นขี้ลืม โดยเฉพาะหลังจากผ่าตัดลิ้นหัวใจรั่วเมื่อปี 2554 ทำให้มือยุกยิก อยู่ไม่เป็นสุข ไม่อยู่นิ่ง ทั้งนี้ตนเป็นคนมีเกียรติและศักดิ์ศรีในความเป็นส.ส.จะมารับจ้างคนอื่นเสียบบัตรเพราะอะไร แต่สงสัยว่าคลิปมีการตัดต่อหรือไม่ โดยจะทำเรื่องถึงประธาน สนช.เพื่อขอคลิปไปตรวจสอบเพราะช่างภาพไม่ยอมเปิดเผยชื่อ เป็นบุคคลนิรนามที่จะมาทำลายเกียรติและศักดิ์ศรีขององค์กรนิติบัญญัติ เพราะอย่างกรณีคลิปการกล่าวหานายยุทธพงศ์มีการพิสูจน์แล้วว่ามีการตัดต่อ ทำให้นายยุทธพงศ์ฟ้องดำเนินคดีกับคนเผยแพร่คลิปแล้ว

โดย เอกสิทธิ์ สำนักข่าวทีนิวส์

ขอบคุณข้อมูลจาก แนวหน้า