เพื่อพ่อของเรา...ลืมดราม่าราคาข้าวไปก่อน! ชาวนาสุรินทร์ มอบข้าวเปลือกหอมมะลิ 10 ตันให้โรงทานสนามหลวง...ได้ฟังแล้วจะทำให้น้ำตาซึม...(อ่านต่อ)

เพื่อพ่อของเรา...ลืมดราม่าราคาข้าวไปก่อน! ชาวนาสุรินทร์ มอบข้าวเปลือกหอมมะลิ 10 ตันให้โรงทานสนามหลวง...ได้ฟังแล้วจะทำให้น้ำตาซึม...

เมื่อวันที่ 2 พ.ย. นายสราวุธ อินทร์แพง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 170 หมู่ 1 บ้านตาอ็อง ต.ตาอ็อง อ.เมือง จ.สุรินทร์  มีจิตเป็นกุศลอันแรงกล้า จะเกี่ยวข้าวเปลือกหอมมะลิอินทรีย์ พันธุ์กข. 15 ที่ปลูกไว้ข้างๆอ่างเก็บน้ำอำปึล ด้านทิศตะวันออกของอ่าง ต.ตาอ็อง จ.สุรินทร์ บนเนื้อที่ 16 ไร่ เป็นนาหว่านและนาดำ อย่างละครึ่ง คาดว่าจะได้ข้าวเปลือกหอมมะลิ 8-10 ตัน หรือมากกว่านั้น โดยมีความตั้งใจจะนำไปบริจาคให้กับโรงทานที่ท้องสนามหลวง เพื่อประกอบอาหารเลี้ยงประชาชนที่มาถวายสักการะพระบรมศพ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยจะเก็บเกี่ยวได้ในวันอาทิตย์ที่ 6 พ.ย. ซึ่งขณะนี้ยังขาดกำลังคนที่จะมาร่วมเก็บเกี่ยวข้าว ตากข้าว โรงสีข้าว และรถบรรทุกที่จะนำข้าวไปยังท้องสนามหลวง เท่านั้น

นายสราวุธ กล่าวว่า ตนปลูกข้าว 16 ไร่ เป็นนาหว่านครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งหนึ่งเป็นนาดำ เป็นข้าวหอมมะลิอินทรีย์ พันธุ์ กข.15 ที่ผ่านมาแต่ละปีตนใช้วิธีหว่านอย่างเดียวได้ผลผลิตประมาณ 8-10 ตัน ปีนี้คาดว่าหน้าจะได้เกินกว่า 10 ตัน เนื่องจากอีกครึ่งหนึ่งเป็นนาดำผลผลิตคงเพิ่มขึ้น ถึงแม้ราคาข้าวในขณะนี้จะถึงกก.ละ 10 กว่าบาท ตามที่รัฐบาลมีมาตรการช่วยเหลือชาวนาออกมา ไม่ว่าจะราคาสูงถึง 20 บาท ตนจะไม่ขาย แต่ตนจะมอบข้าวหอมมะลิที่ทำด้วยน้ำพักน้ำแรงของตน ถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อให้พี่น้องประชาชนที่มาถวายสักการะพระบรมศพได้รับประทานข้าวหอมมะลิ กข.15 ของจังหวัดสุรินทร์ ที่ขึ้นชื่อว่าอร่อยที่สุดในโลกได้รับประทานกัน คาดว่าอีก 3-4 วัน ก็จะเกี่ยวได้แล้ว

ชีวิตผมเกิดมาในรัชกาลที่ 9 จึงอยากจะทำอะไรซักอย่างที่เป็นที่สุดของชีวิต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลให้ในหลวงท่าน คือโอกาสที่จะทำกุศลครั้งยิ่งใหญ่ตรงนี้ไม่มีโอกาสอีกแล้วในชีวิตผม ในสมัยรัชกาลที่ 9 ผมเชื่อในพระราชดำรัสของในหลวง พึ่งพาตัวเอง พึ่งพาสารเคมีให้น้อยที่สุด ถ้าเดินตามรอยของพระองค์ท่าน จะไม่มีพลาดในชีวิตนี้ ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง ใช้ต้นทุนให้น้อยที่สุด นาข้าว 16 ไร่นี้ ผมก็ไม่ได้ลงทุนอะไรมากมาย ใช้สารเคมีน้อยมาก เวลาเกี่ยวข้าวเสร็จก็จะไม่เผาตอซังข้าว จะใช้วิธีไถกลบให้เป็นปุ๋ยอินทรีย์ไปเลย เชื่อว่าข้าวที่ทุกคนจะได้รับประทานจากนาตรงนี้ถือว่าเป็นสุดยอดแล้วของข้าวเกษตรอินทรีย์ นายสราวุธ กล่าว

หากท่านใดต้องการที่จะช่วยเหลือ ด้านกำลังคนที่จะมาร่วมเก็บเกี่ยวข้าว ตากข้าว โรงสีข้าว และรถบรรทุกที่จะนำข้าวไปยังท้องสนามหลวง สามารถติดต่อได้ที่ นายสราวุธ ที่โทร 081-876-2841

 

เรียบเรียงโดย จิรศักดิ์ สำนักข่าวทีนิวส์

ข้อมูลจาก khaosod