กทม.ประกาศ!!! "พล.ต.อ.อัศวิน" เผยผู้ใช้ "กระทงโฟม" ลดลง 1.6 แสนใบ พร้อมเผย เขตที่มีเศษกระทงมากสุด-น้อยที่สุด

วันที่ 15 พ.ย. พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ได้กล่าวว่าถึง วันลอยกระทง เมื่อวันจันทร์ที่ 14 พ.ย.2559 ว่าสำนักสิ่งแวดล้อม จึงได้เปิดสวนสาธารณะให้ประชาชนพาครอบครัวเข้าไปลอยกระทง จำนวน 30 แห่ง และได้ขอความร่วมมือประชาชนลดใช้กระทงโฟมใช้ลอยกระทง โดยใช้วัสดุธรรมชาติแทน ถึงแม้ว่าในปีนี้ไม่มีการจัดงานใหญ่ๆ แต่ประชาชนยังให้ความสำคัญกับประเพณีลอยกระทง และหันออกมาลอยกระทงที่สวนสาธารณะและริมคลองใกล้บ้านเพิ่มขึ้น

หลังจากคืนวันที่ 14 พ.ย.2559 ที่ผ่านมาสำนักสิ่งแวดล้อมร่วมกับสำนักการระบายน้ำ และสำนักงานเขต ระดมเจ้าหน้าที่จัดเก็บกระทงตามแม่น้ำเจ้าพระยา ลำคลองและบึงภายในสวนสาธารณะต่างๆ ทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ นับและคัดแยกกระทงเสร็จสิ้นในเวลา 04.00 น. ของวันอังคารที่ 15 พ.ย.2559

                        พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ กทม.สามารถจัดเก็บกระทงได้จำนวนทั้งสิ้น 661,935 ใบ เป็นกระทงส่วนใหญ่ทำจากวัสดุธรรมชาติและวัสดุที่ย่อยสลายได้ จำนวน 617,901 ใบ คิดเป็นร้อยละ 93.3 ส่วนกระทงที่ทำจากโฟม จำนวน 44,034 ใบ คิดเป็นร้อยละ 6.7 โดยยอดจัดเก็บกระทงในปี 2559 ลดลงจำนวน 163,676 ใบ จากที่จัดเก็บได้ในปี 2558 จำนวน 825,211 ใบ ลดลงร้อยละ 19.8 ขณะเดียวกันในปี 2559 ได้มีจำนวนกระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติและวัสดุที่ย่อยสลายได้นั้นกลับเพิ่มขึ้นร้อยละ 93.3 จากเดิมร้อยละ 91.4 ในปี 2558 ส่วนกระทงโฟมลดลงจากร้อยละ 8.6 เป็นร้อยละ 6.7 โดยในปี 2558 มีกระทงจากวัสดุธรรมชาติ 754,587 ใบ คิดเป็นร้อยละ 91.4 และกระทงโฟม 71,027 ใบ คิดเป็นร้อยละ 8.6 สำหรับในปี 2559 เขตที่จัดเก็บกระทงมากที่สุดที่เขตลาดกระบัง จำนวน 32,638 ใบ ส่วนเขตที่จัดเก็บกระทงได้น้อยที่สุดที่เขตป้อมปราบศูตรพ่าย จำนวน 65 ใบ

 

พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวต่อว่า

สำหรับกระทงที่จัดเก็บได้ กทม.จะนำไปคัดแยก ก่อนส่งไปพักไว้ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอย 3 แห่ง ประกอบด้วย

-ศูนย์กำจัดมูลฝอยอ่อนนุช

-ศูนย์กำจัดมูลฝอยสายไหม (ท่าแร้ง)

-และศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม

เพื่อนำไปทำลายอย่างถูกสุขลักษณะ โดยกระทงขนมปังจะนำไปเป็นอาหารปลา ส่วนกระทงวัสดุธรรมชาติที่ย่อยสลายได้ส่วนหนึ่งจะนำไปหมักทำปุ๋ย และนำไปฝังกลบ และกระทงโฟมจะนำส่งโรงงานรีไซเคิลแปรรูปเป็นของใช้ต่างๆ ต่อไป

รายงานโดย ภัทราพร สำนักข่าวทีนิวส์

ขอบคุณ คม ชัด ลึก

ภาพ สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์