มันจะไปเหมือนกันได้อย่างไร !?! "อภิสิทธิ์" มั่นใจเต็มที่ ระบบเลือกตั้งแบบใหม่ ไทยไม่ส่งผลเหมือน "สหรัฐ"

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายระบุว่า การเลือกตั้งในรูปแบบใหม่ อาจจะส่งผลแบบที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ผู้

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวถึงกรณีที่ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมายระบุว่า การเลือกตั้งในรูปแบบใหม่ อาจจะส่งผลแบบที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ผู้ที่ได้รับคะแนนเสียงข้างมากไม่ได้เป็นรัฐบาล โดยกล่าวว่า จริงๆ แล้วระบบการเลือกตั้งแบบใหม่ ส.ส.จะต้องเป็นไปตามสัดส่วนคะแนนที่ลงอยู่แล้ว ปัญหาแบบที่นายวิษณุ กล่าวนั้น คงจะเกิดขึ้นกับระบบการเลือกตั้งแบบเก่าๆ มากกว่าระบบใหม่นี้ ยกเว้นแต่ว่า มีพรรคการเมืองที่ได้เขตเลือกตั้งไปเยอะมาก

อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาพวกตนก็เคยเสนอไปยังกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) มาตั้งแต่แรกแล้วว่าให้มีการแยกคะแนนกันชัดเจนระหว่างการเลือกรัฐบาลและการเลือกตั้ง ส.ส.และให้จำนวน ส.ส.นั้น เป็นตัวกำหนดว่าประชาชนจะได้รัฐบาลตามที่ประชาชนได้เลือกมา แต่ท้ายที่สุด กรธ.ก็ไม่ได้รับข้อเสนอนี้ไป ซึ่ง ณ เวลานี้ก็เลยขั้นตอนที่จะมาแก้ไขเรื่องเหล่านี้แล้ว

ก่อนหน้านี้ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ และแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวกรณี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ยืนยันจะมีเลือกตั้งปี60 แต่อย่าไปไกลขนาดมีรัฐบาลใหม่ในปี 2560 เพราะหลังเลือกตั้งต้องใช้เวลา 2 เดือนก่อนประกาศผล อีกทั้งเป็นการเลือกตั้งแบบใหม่และอาจเกิดกรณีแบบสหรัฐอเมริกา ว่า การเลือกตั้งนั้นหากจะให้ฝ่ายแพ้ยอมรับฝ่ายชนะก็คงจะทำใจได้ยากลำบาก เพราะแม้กระทั่งการแข่งกีฬาบางครั้งก็วุ่นวาย ยกพวกตีกัน แต่เชื่อว่าจะเกิดความสงบเรียบร้อยได้ ถ้าทุกฝ่ายเคารพกฎกติกาและอยู่ภายใต้กฎหมาย รู้แพ้รู้ชนะ ส่วนพวกกองเชียร์ที่แอบหนุนอยู่เบื้องหลัง คอยสร้างความวุ่นวายควรเลิกพฤติกรรมยุแหย่กันได้แล้ว บ้านเมืองจะได้สงบและเดินหน้าประเทศได้

       “ ถึงวันนี้ประชาชนก็น่าจะซึมซับข้อมูล และรู้ว่าอะไรจะเป็นทางเลือกในอนาคตของพวกเขา ประชาธิปไตยหรือปฏิวัติรัฐประหาร ที่จะนำพาประเทศให้ก้าวเดินไปข้างหน้า”

       ทั้งนี้ นายสุรพงษ์ ยังกล่าวอีกว่า ตนเห็นว่าคนไทยมีความเป็นไทยไม่เหมือนอเมริกา ดังนั้นเหตุการณ์หลังเลือกตั้งก็คงไม่วุ่นวายเหมือนที่เกิดกับนายโดนัล ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา และขอฝากไปยังนายวิษณุ ให้รัฐบาลเดินตามโรดแมป ที่ได้วางไว้ รัฐบาลใหม่จะมีขึ้นช้าหรือเร็วไม่ใช่สาระสำคัญเท่ากับความอยู่ดีกินดีของประชาชน ขณะที่การร่างกฎหมายลูกต้องเขียนให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนการเลือกตั้งก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไรให้ชาวบ้านเข้าใจลำบากหรือยุ่งยาก ส่วนยุทธศาสตร์ 20 ปีถ้าจะให้รัฐบาลใหม่เดินตามและใช้วิธีการที่รัฐบาลชุดนี้ทำอยู่คงจะไม่มีใครเดินตามแน่ และยุทธศาสตร์ที่ลอกเลียนแบบก็คงจะไม่มีใครเอาด้วยเช่นกัน