สุดท้ายก็ต้องกลับ!!!ศาลโตเกียว พิพากษายืนเนรเทศเด็กหนุ่มชาวไทยพ้นประเทศเหตุเกิดผิดกฎหมายหลังแม่ยอมเสียสละให้ลูกอยู่ต่อ(รายละเอียด)

สุดท้ายก็ต้องกลับ!!!ศาลโตเกียว พิพากษายืนเนรเทศเด็กหนุ่มชาวไทยพ้นประเทศเหตุเกิดผิดกฎหมายหลังแม่ยอมเสียสละให้ลูกอยู่ต่อ(รายละเอียด)

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียวว่า คณะผู้พิพากษาศาลสูงในกรุงโตเกียวมีคำตัดสินให้นายยูตินัน วัน เด็กหนุ่มชาวไทยวัย 16 ปี สมควรเดินทางออกนอกประเทศ แม้นายยูตินันเกิดที่ญี่ปุ่น แต่ไม่ถือเป็นการเกิดที่ถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากมารดา ของเด็กหนุ่มคือ น.ส.ลันสาร ประภักดี และอดีตสามีของเธอซึ่งเป็นชาวไทยได้ลักลอบเข้ามาอาศัยอยู่ในญี่ปุ่น หมายความว่าไม่มีวีซ่าอย่างถูกต้อง

ทั้งนี้ เดิมทีศาลชั้นต้นยื่นข้อเสนอประนีประนอมให้นายูตินัน ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ที่ โรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่ง และสามารถใช้ชีวิตอยู่ในสังคมญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี อาจได้รับสถานะผู้อาศัยถาวร "เป็นกรณีพิเศษ" หากมารดาของเด็กหนุ่มเดินทางกลับประเทศไทย และนายยูตินันได้รับการอนุเคราะห์จากผู้อุปภัมภ์ที่เหมาะสม ซึ่ง น.ส.ลันสาร ตกลงและยินยอมเดินทางกลับประเทศไทย เมือดเดือนกันยายนที่ผ่านมา เพื่อเพิ่มโอกาสให้ลูกชายได้รับสิทธิ์ในการอาศัยอยู่ที่ญี่ปุ่นอย่างถาวร โดยปัจจุบันนายยูตินันอยู่กับชายชาวญี่ปุ่นคนหนึ่ง ซึ่งให้ความสนับสนุน แก่เขาในทุกด้าน

อย่างไรก็ตาม ศาลสูงกับพิพากษายืนในประเด็นการเนรเทศ เรียกเสียงวิจารณ์จากนายโคอิจิ โคดามะ ทนายความของนายยูตินัน ซึ่งตั้งคำถามว่า เพราะเหตุใดผู้พิพากษาจึงไม่พิจารณาประเด็นที่มารดาชาวไทยของนายยูตินันยินยอมเดินทางกลับประเทศตามเงื่อนไข ของศาลขั้นต้น แต่กลับพิจารณาเพียงหลักฐานที่เป็นเอกสารเท่านั้น กระนั้นนายโคดามะกล่าวว่า นายยูตินัน ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อหรือไม่ ด้านตัวแทนของรัฐบาลซึ่งเป็นโจทก์ไม่ได้เข้ารับฟังการตัดสินแต่อย่างใด

 

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา ศาลกรุงโตเกียว พิพากษามีคำสั่งให้เนรเทศชาวไทย 2 ราย ได้แก่ นายยูตินัน วัน  และ น.ส.ลันสาร ประภักดี มารดา ให้ออกจากประเทศญี่ปุ่น หลังจากแอบลักลอบอาศัยอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นอย่างผิดกฎหมายมานานกว่า 20 ปี แต่ทั้งนี้ทางศาลได้เสนอแนวทางพิเศษให้ยูตินันอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นต่อได้ หากทางแม่ยินยอมกลับไทยแต่โดยดี

 โดยศาลระบุเหตุผลว่า แม้ตามกฎหมายแล้ว จะต้องเนรเทศให้ออกนอกประเทศไปทั้งคู่แม่-ลูก แต่เห็นว่า นายยูตินันกำลังศึกษาอยู่ระดับมัธยม และปรับตัวเข้ากับสังคมญี่ปุ่นได้มาก จึงเสนอเงื่อนไขพิเศษให้ดังกล่าว

น.ส.ลันสาร ผู้เป็นแม่ตัดสินใจยอมเลือกที่จะกลับประเทศไทยอย่างถาวร เพื่อให้ลูกชายได้อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นต่อได้ แม้ว่าจะต้องแยกกันก็ตาม โดยเมื่อช่วงเดือนกันยายนที่ผ่านมา หลังจากคำตัดสินศาลออกมา 2 เดือน ก็ถึงกำหนดวันเดินทางกลับของลันสาร  นายยูตินันได้ไปส่งแม่ที่สนามบินนาริตะ กรุงโตเกียว เขาได้โผเข้ากอดอำลาแม่บังเกิดเกล้า ก่อนจะค่อย ๆ ยืนมองแม่เดินไปผ่านเข้าไปทางผู้โดยสารขาออกประเทศ

 “ฉันไม่เคยคิดว่าจะต้องกลับประเทศเลย แต่เราแพ้คดีในชั้นศาล ไม่อยากเชื่อเลยว่าเหตุการณ์จะกลายมาเป็นเช่นนี้” ลันสาร กล่าวหลังอำลาลูกชายที่สนามบิน

 

 

 

 

สำหรับทั้งสองแม่-ลูกคู่นี้ อาศัยอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นอย่างผิดกฎหมาย โดยน.ส.ลันสาร ลักลอบอยู่ในประเทศญี่ปุ่น พร้อมกับอดีตสามีที่เป็นชาวไทยเช่นเดียวกัน แต่หลังจากทั้งสองมีลูกด้วยกันคือ นายยูตินัน ก็แยกทางกันไปตั้งแต่เขายังเด็ก หลังจากเกิดมา ยูตินัน ก็เติบโตและใช้ชีวิตลักลอบอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นกับแม่เรื่อยมา ตัวเขาเองไม่เคยกลับประเทศไทยเลยทั้งชีวิต เมื่อแม่ต้องมากลับประเทศบ้านเกิดอย่างถาวรในครั้งนี้ ทำให้เขาต้องอยู่ตามลำพังโดยไม่มีครอบครัว

 โดยหลังจากน.ส.ลันสาร ผู้เป็นแม่เดินทางกลับประเทศไทยแล้ว รัฐบาลจะจัดหาครอบครัวอุปถัมป์มาดูแลนายยูตินันให้ ซึ่งระหว่างรอการดำเนินการจัดการนั้น ขณะนี้นายยูตินัน ได้อาศัยอยู่กับชายชาวญี่ปุ่นรายหนึ่ง ที่ให้การสนับสนุนครอบครัวของเขามาโดยตลอด