มามุงกันเร็ว!!! ฉายาตำรวจปี59 ผบ.ตร."สุภาพบุรุษโล่เงิน" ศานิตย์ "น.1บึ่งทุกที่" อัศวิน ยังติดโผฉายา"ผู้ว่าส้มหล่น"(รายละเอียด)

มามุงกันเร็ว!!! ฉายาตำรวจปี59 ผบ.ตร."สุภาพบุรุษโล่เงิน" ศานิตย์ "น.1บึ่งทุกที่" อัศวิน ยังติดโผฉายา"ผู้ว่าส้มหล่น"(รายละเอียด)

สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยฉายาตำรวจประจำปี 2559 โดยทางสมาคมฯ ได้ประชุมกับผู้สื่อข่าวซึ่งเป็นตัวแทนจากสื่อมวลชนจากสังกัดต่าง ๆ มีการเสนอชื่อนายตำรวจและคัดเหลือ 11 นาย ดังนี้


1.พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  ฉายา “สุภาพบุรุษโล่เงิน” จากการทำงานในรอบปีที่ผ่านได้ เดินเครื่องเต็มสูบในการขับเคลื่อนการปฏิรูป การบริการประชาชน ทำให้คดีอาชญากรรมลดลง และองค์กรมีความสามัคคีขึ้น ล่าสุดได้สั่งการให้ตำรวจทั่วประเทศ ลงไปช่วยเหลือชาวนา บรรเทาความเดือดร้อน โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ไม่ติดราชการ และไม่ให้งานปกติเสียหาย ออกไปช่วยเกี่ยวข้าวในลักษณะจิตอาสา ขณะเดียวกัน เพื่อเพิ่มช่องทางขายข้าวให้ชาวนา สามารถนำข้าวไปวางขายที่สถานีตำรวจทุกแห่งทั่วประเทศ จนได้รับคำชมจากประชาชนว่าเป็นสุภาพบุรุษ


2.พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ  ฉายา“นายพลน้ำดี” ดูแลงานป้องกันและปราบปราม พร้อมลุยงานป้องกันทรัพยากรธรรมชาติ จากผลงานที่ผ่านมาไม่ว่าจะจับกุมคดีงาช้าง จับกุมคดีตัดไม้ทำลายป่า จนเป็นที่ยอมรับของประชาชน และเป็นตำรวจที่ทำงานผ่านมาโดยไม่มีประวัติด่างพร้อย

3.พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ฉายา “ผู้ว่าส้มหล่น” จากที่ผ่านมา เป็นรองผู้ว่าฯกทม.ได้มุ่งเน้นที่จะให้กรุงเทพฯ อยู่อย่างสุขสงบ ไม่ว่าจะเป็นการจัดระเบียบสังคม หรืองานบริการด้านต่างๆการทำงานของ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง จึงเป็นที่โดดเด่นในสายตาของประชาชน ภายหลัง หม่อมหลวงสุขุมพันธ์ได้ถูกพักราชการ นายกรัฐมนตรีจึงได้ใช้ ม.44 แต่งตั้งให้ เป็นผู้ว่ากรุงเทพมหานคร โดยไม่ต้องมีการเลือกตั้งเหมือนผู้ว่าอื่นที่ผ่านมา

 

 

4.พล.ต.ท.ดร.สุวีระ ทรงเมตตา รักษาราชการแทน (สบ10) ฉายา “นายพล วันสต๊อบเซอร์วิส” ที่ผ่านมา พล.ต.ท.ดร.สุวีระ จับกุมคดีสำคัญ จนเป็นที่ไว้วางใจของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ จึงตั้งให้เป็นหัวหน้าคณะทำงาน ในการปฏิรูป การให้บริการประชาชนในสถานีตำรวจทั่วประเทศ ให้เสร็จสิ้น ณ จุดเดียว ด้วยการจัดทีมบูรณาการ รับแจ้งความอย่างรวดเร็ว และดูแลบริการประชาชนอย่างญาติมิตร ทั้งออกตรวจสถานที่เกิดเหตุ และติดตามจับกุมคนร้ายได้อย่างโดนใจประชาชนสมกับเป็นตำรวจยุคใหม่


5.พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผู้บัญชาการสอบสวนกลาง  ฉายา “หมอเฉพาะทาง” เนื่องจากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่รับผิดชอบครอบคลุมเกือบทุกด้าน มีความเชี่ยวชาญเฉพาะตัว เหมือนกับหมอที่เชี่ยวชาญเฉพาะโรค ถ้าเกิดคดีสำคัญในท้องที่ต่างๆ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง  ก็มีกำลังและหน่วยงานที่มีความสามารถและเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ เช่น กองปราบ บก.ปอท. บก.ปทส. จะลงไปไปแก้ไขปัญหาจนสามารถปิดคดีได้ อย่างโดนใจประชาชน จนเป็นที่ยอมรับของสื่อมวลชนและประชาชน

6.พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง  ฉายา “มือปราบอินเตอร์” หลังจากเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ก็นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาตรวจสอบประวัติอาชญากรข้ามชาติที่หลบหนี เข้ามาอยู่ในเมืองไทย จนนำไปสู่การจับกุมคนร้ายชาวต่างชาติเป็นจำนวนมากที่สุดในรอบ 5 ปี ที่ผ่านมา

7.พล.ต.ท.ศานิตย์ ถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ฉายา “น.1 บึ่งทุกที่” ส่วนใหญ่ประชาชนและสื่อมวลชนจะเห็นการทำงานของ พล.ต.ท.ศานิตย์ อย่างขยันขันแข็ง โดยไม่สนใจว่าจะเป็นคดีเล็กหรือคดีใหญ่ ขอให้เป็นเรื่องที่ประชาชนเดือนร้อน จะลงไปกำกับดูแลคดี และบริการประชาชน ด้วยตัวเองทุกครั้ง


8.พล.ต.ต.ดร.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ฉายา “นายพลอกหัก” เนื่องจากที่ผ่านมามีการเสนอชื่อเข้าชิง ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ และเป็นที่ยอมรับของ สมาคมโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ทุกคนจึงคาดการณ์ว่า จะได้เป็น ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ แต่ผลการแต่งตั้งออกมากลับไม่มีชื่อของ พล.ต.ต.ดร.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ เป็น ผู้บัญชาการ ซึ่งเจ้าตัวคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม เหมือนโดนปล้นเก้าอี้ จึงทำหนังสือร้องสื่อมวลชนขอความเป็นธรรม ชี้การแต่งตั้งไม่ชอบด้วยกฎหมาย


9.พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้กำกับการปฏฺิบัติการพิเศษ ฉายา “มือปราบสายธรรมะ” เนื่องด้วย พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ เป็นหัวหน้าหน่วยคอมมานโด ที่ดูแข็งแกร่งน่าเกรงขาม และปราบปราม กลุ่มมาเฟีย และผู้มีอิทธิพล จนเป็นที่หวาดกลัวของคนร้าย แต่อีกด้านเมื่อว่างเว้นภารกิจมักจะพาผู้ใต้บังคับบัญชาเข้าวัดปฏิบัติธรรม ช่วยเหลืองานการกุศลไม่ขาดสาย ทั้งมอบทุนการศึกษา มอบจักรยานให้เด็กนักเรียนในถิ่นธุรกันดารและสร้างบ้านให้กับคนจน ถือว่าเป็นนายตำรวจตัวอย่างดังคำกล่าวที่ว่า งานบุญไม่ขาด งานราษฎร์ไม่เคยทิ้ง

10.พ.ต.อ.เติมเผ่า สิริภูบาล ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลสุทธิสาร ฉายา “ผู้กำกับปวดหาย” ตั้งแต่เข้ามาประจำการในตำแหน่ง ผู้กำกับในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล  เริ่มจากสน.ทุ่งสองห้อง ก็เกิดคดีการตรวจยึดรถหรูจำนวนกว่า 200 คัน และตามมาด้วยพนักงานสอบสวนที่ทำคดีเกิดแรงกดดันตัดสินใจยิงตัวคาแฟลตตำรวจ ก่อนจะย้ายมาดำรงตำแหน่ง ผกก.สน.สุทธิสาร ของเก่ายังไม่เคลียร์ แต่ก็ยังไม่วายเกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้นมาอีก ผู้ใต้บังคับบัญชาไปทำร้ายร่างกายนักพนันจนเสียชีวิต ไม่ว่าจะย้ายไปที่ไหนงานก็เข้าทุกที่ จนต้องกินยาแก้ปวดหาย

11.ด.ต.มานะ จอกโคกสูง ผู้บังคับหมู่งานจราจร โครงการพระราชดำริ  กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจราจร  ฉายา “หมอตำแยสายแว้น” เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีหน้าที่อำนวยความสะดวกการจราจรในพื้นที่ กทม. ประกอบหน่วยงานในสังกัดได้มีการจัดอบรมการทำคลอดฉุกเฉิน ซึ่งเมื่อมีเหตุหญิงท้องแก่ใกล้คลอดระหว่างนำส่งโรงพยาบาล แต่ประสบปัญหาการจราจรติดขัด จนทำให้ ด.ต.มานะ และตำรวจในสังกัด ต้องบึ่งรถจักรยานยนต์คู่กาย ไปทำคลอดกลางถนนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 100 ราย จนเป็นที่ยอมรับของประชาชน

 

 

 

รายงานโดย นาตยา เอนกธนะเศรษฐ์   สำนักข่าวทีนิวส์

ที่มา          สมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรมแห่งประเทศไทย