หน้าไม่อาย!!!"ไพบูลย์"ฉะ"องอาจ"ยกธรรมกายเป็นสถาบันพระพุทธศาสนาเรื่องบิดเบือน ธัมมชโยแค่ภิกษุหนีหมายจับ"(รายละเอียด)

นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) เปิดเผยถึงกรณีนายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์พระเทพญาณมหามุนี แถลงท่าทีและจุดยืน 10 ข้อ ของวัดพระธรรมกาย ว่า เป็นการพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงสำคัญหลายประการ อาทิ ข้อที่ 1 และ 4 ที่อ้างว่าพระธัมมชโย ไม่ได้รับความเป็นธรรม สอดรับกับการยื่นถวายฎีกาของคณะศิษย์ฯ ที่อ้างเหตุผลเดียวกันซึ่งควรจะรู้ระเบียบและกระบวนการขออภัยโทษจากประกาศพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ เนื่องในโอกาสแรกนับแต่ขึ้นทรงราชย์สืบราชสันตติวงศ์ พ.ศ. 2559 แล้ว เพราะถ้าอ่านจะเข้าใจทันทีว่าการขอพระราชทานอภัยโทษ พระธัมมชโยจะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมายก่อน ไม่ใช่พูดเองเออเองอย่างที่โฆษกออกมาแถลงข่าว

นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า กรณีที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ  และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องสนธิกำลังทหารและฝ่ายปกครองรวมกว่า 2,000 นาย เตรียมปฏิบัติการเข้าตรวจค้นภายในวัดพระธรรมกายต่อเนื่องเป็นเวลา 4 วันนั้น ก็ด้วยเหตุผลที่เป็นไปตามสถานการณ์ที่มีการประกาศเชิญชวนระดมมวลชนของวัดพระธรรมกายจำนวนนับหมื่นคน เข้าไปขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ในการจับกุมตัวผู้ต้องหาตามศาล โดยอ้างว่าเป็นการเข้ามาปฏิบัติธรรม ฉะนั้นการที่เจ้าหน้าที่ต้องเตรียมกำลังขนาดนี้ก็เป็นผลมาจากที่พระธัมมชโยต่างหากที่เป็นต้นเหตุของปัญหา เพราะทำตัวมีอิทธิพลอยู่เหนือกฎหมาย ใช้ความงมงายขาดสติของสาวกมาเป็นโล่มนุษย์ ปลุกม็อบต่อต้านกระบวนการยุติธรรม เท่าที่ทราบขณะนี้เหลือคนไม่กี่พันคนแล้ว เนื่องจากศิษย์ส่วนใหญ่มีสติแบบชาวพุทธเห็นว่าพระธัมมชโยควรมอบตัว ซึ่งสอดคล้องกับผลสำรวจของประชาชนส่วนใหญ่ และการกล่าวโอ่ยกพระธัมมชโย และวัดพระธรรมกายเป็นสถาบันพระพุทธศาสนาของประเทศนั้น เป็นเรื่องหนึ่งที่บิดเบือนอย่างน่าไม่อาย ทั้งที่จริงแล้วพระธัมมชโย ก็คือภิกษุที่มีปัญหาหนีหมายจับของศาลยุติธรรม และวัดพระธรรมกายก็เป็นวัดใหญ่แห่งหนึ่ง ที่กำลังให้ที่หลบซ่อนแก่ผู้ต้องหาตามหมายจับเท่านั้น

 

นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า การที่โฆษกอ้างเป็นห้วงเวลาพิเศษ อยู่ระหว่างราชพิธีเกี่ยวกับเบื้องสูงเป็นเหตุเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ดำเนินการตามกฎหมายเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาตามหมายค้นและหมายจับของศาลนั้น เป็นการแอบอ้างเบื้องสูงในเรื่องไม่บังควรอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ นายไพบูลย์ กล่าวถึงการที่เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกาย ระหว่างวันที่ 13-16 ธ.ค. นี้ ว่าเป็นเหตุที่ไม่เจ้าหน้าที่ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายได้แล้ว เพราะถูกสังคมจับตามองทั้งประเทศว่าจะบังคับใช้กฎหมายได้เท่าเทียมหรือไม่ หลังจากปล่อยปละ อะลุ้มอะอล่วยให้แก่พระธัมมชโยอย่างมากแล้ว จนถูกตั้งข้องสงสัยอย่างมากมาย จึงเห็นว่าการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ครั้งนี้จะได้รับการสนับสนุนและกำลังใจจากประชาชนทั้งประเทศ

 

 

 

รายงานโดย  นาตยา  เอนกธนะเศรษฐ์   สำนักข่าวทีนิวส์