ไร้วี่แวว!!!...เครือข่ายพุทธต้านพรบ.สงฆ์ "พระเมธีฯ" ได้ทีขอให้ยุติ ซะงั้น!

ไร้วี่แวว!!!...เครือข่ายพุทธต้านพรบ.สงฆ์ "พระเมธีฯ" ได้ทีขอให้ยุติ ซะงั้น!

เป็นประเด็นร้อนแห่งวันกันเลยทีเดียว สำหรับ พรบ.คณะสงฆ์ หลังจากที่ รัฐสภา-สนช.เริ่มถกพรบ.สงฆ์ และในที่สุดแล้ว สภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ให้ความเห็นชอบ และมีมติ 3 วาระ แก้ไขพรบสงฆ์ ในมาตรา7 ตัดวรรค2-3 ออก กลับไปเช่นพรบเดิมในอดีต. โดยให้ใช้ความต่อไปนี้คือ
มาตรา7 พระมหากษัตริย์ทรงสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์หนึ่ง และให้นายกรัฐมนตรีลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ

ไร้วี่แวว!!!...เครือข่ายพุทธต้านพรบ.สงฆ์ "พระเมธีฯ" ได้ทีขอให้ยุติ ซะงั้น!

ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าคุณประสารได้ออกมาประกาศถึงเรื่องดังกล่าวนี้ว่า
84 สนช.เข้าชื่อเสนอแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์

จากการที่ น.พ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกวิป สนช. ได้แถลงต่อสื่อมวลชนว่า บัดนี้ สนช.ได้เข้าชื่อกันแล้วจำนวน 84 ท่าน เพื่อเสนอแก้ไขพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติม 2535 ในมาตราที่ 7 ว่าด้วยการเสนอนามสมเด็จพระราชาคณะ ขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงสถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราช นั้น โดยในเรื่องนี้จะมีการประชุมกันในวันที่ 29 ธันวาคม

ในรายละเอียด โฆษกวิป สนช.อธิบายพอสรุปความได้ ดังนี้

1. ให้เป็นเรื่องของพระราชอำนาจ
2. เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งเรื่องการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชที่ผ่านมา
3. ตัดอำนาจของมหาเถรสมาคมออกไป

ในเรื่องดังกล่าว อาตมามีความเห็นแย้ง ดังนี้

1. พ.ร.บ. คณะสงฆ์ในปัจจุบัน ในมาตรา 7 เขียนไว้ว่า "พระมหากษัตริย์ทรงสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์หนึ่ง" ขอถาม ประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว สนช. โฆษกวิป สนช. และสมาชิก สนช.ที่ลงชื่อทั้ง 84 ท่าน ว่า ความหมายตามความใน พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ในปัจจุบันนี้ อำนาจการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชในปัจจุบันเป็นของพระองค์ท่านหรือไม่ เป็นหรือไม่เป็น ตามความหมายและเจตนารมณ์ในมาตรานี้ ท่านจะตอบว่าอย่างไร

2. เพื่อแก้ไขความขัดแย้งนั้น ถามท่านว่า ที่ผ่านมาใครขัดแย้งกับใคร ใครรูปไหนขัดแย้งกับใครในคณะสงฆ์หรือในฝ่ายบ้านเมือง ใครขัดแย้งกันในเรื่องนี้ บอกมาให้ชัดเจน ยกตัวอย่างให้เห็นเป็นรูปธรรมเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ อย่าพูดอะไรลอยๆ แล้วที่ทำแบบนี้มันจะลดความขัดแย้งได้จริงหรือไม่

ในข้อเท็จจริงความขัดแย้งเรื่องการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชนั้นไม่เคยมีปรากฎมาก่อน ไม่เคยปรากฎมาก่อนในประวัติศาสตร์ของคณะสงฆ์ไทย เพราะพระราชอำนาจนั้นเป็นของพระมหากษัตริย์มาโดยตลอด ไม่มีใครก้าวล่วง แต่ขั้นตอนการเสนอตามกฎหมายนั้นให้เป็นของมหาเถรสมาคม (มส.) และรัฐบาล วันนี้ที่เห็นว่ามีความขัดแย้ง ก็เพราะมีกลุ่มคนบางกลุ่ม บางพวก และฝ่ายกุมอำนาจรัฐจับมือกันเข้ามาก้าวก่าย วุ่นวายในกิจการภายในของคณะสงฆ์จนทำให้เกิดมีความขัดแย้งกันขึ้น แล้วชี้มือให้สังคมเห็นว่า เป็นไงคณะสงฆ์มีความขัดแย้งกัน โดยเฉพาะปมการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ฉันจะเข้าไปแก้ปัญหาให้นะ ปัญหาทั้งปวงก็จะยุติ

จึงมีการเซ็ตเรื่อง เซ็ตคน เซ็ตปัญหาทั้งหลายทั้งปวงให้เกิดขึ้นแล้วก็โยนบาปมาให้คณะสงฆ์ตัวเองก็จะเป็นอัศวินม้าขาวเข้ามาแก้ปัญหา

ส่วนในเรื่องที่ว่า เพื่อลดความขัดแย้งที่ผ่านมานั้นท่านประธานคณะกรรมาธิการฯ โฆษกฯ และสมาชิก สนช.ที่ร่วมลงชื่อทั้งหลาย ท่านจะเชื่ออย่างนั้นจริงๆหรือ วันนี้ท่านทั้งหลายที่กล่าวมา ท่านจะซื่อหรือแกล้งซื่อกันแน่ เพราะวิธีที่ท่านกำลังคิดและร่วมกันทำอยู่ในขณะนี้มีแต่จะนำพาความขัดแย้งวุ่นวายสับสนมาสู่คณะสงฆ์และสังคมไทย

3. เพื่อตัดอำนาจมหาเถรสมาคมออกไป เรื่องนี้ไม่มีปัญหาใดๆ เพราะ มส. ท่านก็ไม่ได้หวงอำนาจใดๆ ของท่านอยู่แล้ว ถ้าหากว่าสิ่งเหล่านั้นจะเป็นไปเพื่อความบริสุทธิ์ ยุติธรรม เรียบร้อย ดีงาม ถูกต้องและชอบธรรม ในเรื่องนี้จึงขอให้ถามใจของท่านเองก็แล้วกัน ถามใจตัวเองให้ดีว่าที่ท่านทำอยู่นี้ ทำเพื่ออะไร บริสุทธิ์ใจจริงหรือไม่ ซึ่งถ้าท่าน สนช.จะอ้างกันแบบนี้ ในปัจจุบันนี้ความขัดแย้งเรื่องการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีก็มีสูงมากขึ้นทุกวันๆ ซึ่งการแก้ไขปัญหาก็ไม่เห็นมีใครเสนอให้ใช้วิธีการตัดอำนาจขั้นตอนการเสนอรายชื่อนายกรัฐมนตรีออกจากอำนาจของสภาฯ เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง อย่างที่นำมาอ้างกันเลย

ท่านประธานคณะกรรมาธิการฯ โฆษกฯ และท่านสมาชิก สนช.ทั้ง 84 ท่าน ถ้าท่านคิดว่าการแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้เป็นสิ่งที่ถูกต้อง แก้ปัญหาได้ตรงจุด ท่านกำลังคิดผิดอย่างมหันต์ คิดผิดจริงๆ อาตมาจึงขอเตือนท่านด้วยความปรารถนาดี แต่ถ้าท่านคิดว่า เรื่องนี้เป็นอำนาจอันชอบธรรมของท่าน ท่านจะเดินหน้าในเรื่องนี้แน่นอน ถ้าเช่นนั้น อาตมา องค์กรพุทธ และพระสงฆ์ทั่วประเทศก็จะเดินหน้าในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน ไม่มีทางเลือกอื่น และขอฝากเรื่องนี้ไปถึงรัฐมนตรี ออมสิน ชีวะพฤกษ์และคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลทุกท่านด้วย

#เจ้าคุณประสาร
28 ธันวาคม 2559

ไร้วี่แวว!!!...เครือข่ายพุทธต้านพรบ.สงฆ์ "พระเมธีฯ" ได้ทีขอให้ยุติ ซะงั้น!

ขณะในวันนี้ พระเมธีธรรมาจารย์ หรือ เจ้าคุณประสาร ก็ได้ออกมากล่าวถึงมาตรา 7 ล่าสุด โพสต์ขอยุตินี้ว่า

แถลงการณ์จากเลขาธิการศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย
จากการที่อาตมา องค์กรพุทธ พระสงฆ์ได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็น แสดงออก คัดค้าน ไม่เห็นด้วยโดยความบริสุทธิ์ใจจากการที่สมาชิก สนช.ได้เสนอแก้ไข พระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ในมาตราที่ 7 ความละเอียดทราบแล้วนั้น
บัดนี้อาตมา องค์กรพุทธและพระสงฆ์ทั้งปวงขอยืนยันว่า เราไม่เห็นด้วย ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับสมาชิก สนช. ที่ได้ดำเนินในครั้งนี้ แต่พวกเราขอยืนยันว่าพวกเราเห็นด้วยอย่างยิ่งในเรื่องการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชนั้นจะต้องเป็นพระราชอำนาจ และพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ฉบับเดิมก่อนมีการแก้ใขในครั้งนี้ การสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชก็คงเป็นพระราชอำนาจ เช่นกัน
ดังนั้นอาตมา องค์กรพุทธ และพระสงฆ์ทั้งปวงเพียงแต่ไม่เห็นด้วยในหลักการเรื่องการเสนอนามสมเด็จพระราชาคณะที่ไม่คงที่ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเท่านั้นเอง ส่วนพระราชอำนาจนั้นต้องคงไว้เช่นเดิม ไม่มีใครจะก้าวล่วงได้
วันนี้ อาตมา องค์กรพุทธและพระสงฆ์ทั้งปวงจะไม่ไปยื่นหนังสือคัดค้านที่นายกรัฐมนตรีหรือประธาน สนช. แน่นอน เพราะไม่มีประโยชน์ใดๆ และก็จะไม่จัดแถลงข่าวในเรื่องนี้ด้วย เพราะกฎหมายได้ผ่าน 3 วาระไปแล้ว
ได้แต่แสดงความไม่เห็นด้วย เสียใจ และฝากไปถึงคณะสงฆ์เครือข่ายประเทศด้วยว่าขอให้ยุติการออกมาร่วมกันเจริญพระพุทธมนต์หลังปีใหม่แล้วนั้นและฝากเป็นข้อคิดสำหรับคณะสงฆ์ด้วยว่า วันข้างหน้าเราจะอยู่กันอย่างไร
วันนี้ อาตมาพูด แถลงได้แต่เพียงเท่านี้
ท้ายนี้อาตมาขอย้ำว่า การสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชจะต้องเป็นพระราชอำนาจเท่านั้น
พระเมธีธรรมาจารย์ กล่าว

และจากที่ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบแล้วไม่ได้พบความเคลื่อนไหวใดๆ อีก นอกเสียจากเวลาต่อมา พระเมธีธรรมาจารย์ หรือเจ้าคุณประสาร ก็ได้โพสต์ต่ออีกว่า เรียน คณะสงฆ์ สาธุชน สื่อมวลชน ทุกท่าน วันนี้ เวลานี้ อาตมาพูดได้แต่เพียงตามที่ได้แถลงการณ์ไปแล้วเท่านั้น พูดได้เท่านั้นจริงๆ

 

 

 

ภัทราพร สำนักข่าวทีนิวส์