พบข้อกังวล !!! ชัดๆ จาก"ธิดา" อัฟเดทอาการล่าสุดหลังเข้าเยี่ยม "จตุพร" (รายละเอียด)

ในวันนี้บรรดาแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. นั้นก็ได้เดินทางไปติดตามถามอาการป่วยนายจตุพรที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์แกนนำนปช. อาทิ ธิดา ถาวรเศรษฐ, นพ.เหวง โตจิราการ, สมหวัง อัสราษี,

ในวันนี้บรรดาแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. นั้นก็ได้เดินทางไปติดตามถามอาการป่วยนายจตุพรที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์แกนนำนปช. อาทิ ธิดา ถาวรเศรษฐ, นพ.เหวง โตจิราการ, สมหวัง อัสราษี, อารี ไกรนรา ได้เดินทางไปถึงโรงพยาบาลราชทัณฑ์เพื่อที่จะติดตามความคืบหน้ากรณีของนายจตุพร พรหมพันธุ์ เรื่องอาการป่วย

โดย ธิดา ได้ให้สัมภาษณ์ ต่อสื่อมวลชนภายหลังเข้าเยี่ยมนายจตุพรว่า อาการเบื้องต้นนั้นก็ดีขึ้นตามลำดับ ถือเป็นความโชคดีของนายจตุพรที่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ทำให้อาการไข้หนาวสั่น นั้นหายขาด อาการติดเชื้อลดลง

นางธิดา ระบุอีกด้วยว่า แต่ก็ยังพบข้อกังวลใหม่ ซึ่งจากการวินิจฉัยของแพทย์พบว่า เม็ดเลือดขาวในร่างกายนั้นต่ำมาก โดยส่วนตัวต้องการให้โรงพยาบาลราชทัณฑ์นั้นตรวจหาสาเหตุของโรคดังกล่าว เพราะอากาศที่จะเกิดขึ้นกับเพศชายนั้นเป็นได้ยาก

ส่วนสาเหตุของการเป็นกรวยไตอักเสบนั้นมาจากอากาศเป็นนิ่วหรือมีอาการบาดเจ็บอะไรบางอย่าง ดังนั้นถ้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์นั้นไม่สามารถที่จะหาสาเหตุได้ก็ขอให้ขอความช่วยเหลือจากโรงพยาบาลภายนอกเรือนจำ
 

พบข้อกังวล !!! ชัดๆ จาก"ธิดา" อัฟเดทอาการล่าสุดหลังเข้าเยี่ยม "จตุพร" (รายละเอียด)

 

พบข้อกังวล !!! ชัดๆ จาก"ธิดา" อัฟเดทอาการล่าสุดหลังเข้าเยี่ยม "จตุพร" (รายละเอียด)
 

ด้าน นายกอบเกียรติ กสิวิวัฒน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยความคืบหน้าอาการป่วยของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ในระหว่างถูกควบคุมตัว เนื่องจากมีอาการไข้และหนาวสั่น เมื่อวันที่ 29 ธันวาคมที่ผ่านมา


เมื่อช่วงเช้า ได้ทำซีทีสแกน นายจตุพร เรียบร้อย ไม่พบความผิดปกติ แต่อย่างใด และตอนนี้อยู่ระหว่างนำตัวกลับไปคุมขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ สำหรับญาติพี่น้อง และกลุ่มนปช.ที่เดินทางมาเยี่ยม นั้นให้ไปรอเยี่ยมได้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ซึ่งจะได้รับความสะดวก ในเรื่องของสถานที่ การเยี่ยมมากกว่าที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์

ทั้งนี้ กรมราชทัณฑ์ออกแถลงการณ์ชี้แจงเกี่ยวกับอาการป่วยของนายจตุพร สรุปว่าเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2559 นายจตุพรมีอาการไข้ หนาวสั่น ปัสสาวะแสบขัด สีขุ่น ทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครจึงได้ส่งตัวมารักษาในทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์ จากการตรวจของแพทย์โดยละเอียด พบว่าเป็นอาการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ จึงได้ให้การรักษาพยาบาลและรักษาตามอาการอย่างใกล้ชิด โดยเมื่อวันที่ 2 มกราคมมีการตรวจทางห้องปฏิบัติการซ้ำอีกครั้ง พบว่าการทำงานของไตกลับมาอยู่ในภาวะปกติและปัสสาวะไม่มีเม็ดเลือดขาวเจือปน อาการไข้ลดลง และอาการทั่วไปดีขึ้นตามลำดับ และวันที่ 3 มกราคม อาการทั่วไปปกติดี ไม่มีไข้ ลุกเดิน ปฏิบัติภารกิจส่วนตัวได้ตามปกติ

 

วันที่ 4 มกราคมใช้เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ตรวจดูว่ามีนิ่วในไตหรือไม่ หากไม่พบอาการผิดปกติจะส่งตัวกลับเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครต่อไป

พบข้อกังวล !!! ชัดๆ จาก"ธิดา" อัฟเดทอาการล่าสุดหลังเข้าเยี่ยม "จตุพร" (รายละเอียด)

พบข้อกังวล !!! ชัดๆ จาก"ธิดา" อัฟเดทอาการล่าสุดหลังเข้าเยี่ยม "จตุพร" (รายละเอียด)

 

 

 

 

พบข้อกังวล !!! ชัดๆ จาก"ธิดา" อัฟเดทอาการล่าสุดหลังเข้าเยี่ยม "จตุพร" (รายละเอียด)

 

พบข้อกังวล !!! ชัดๆ จาก"ธิดา" อัฟเดทอาการล่าสุดหลังเข้าเยี่ยม "จตุพร" (รายละเอียด)

 

พบข้อกังวล !!! ชัดๆ จาก"ธิดา" อัฟเดทอาการล่าสุดหลังเข้าเยี่ยม "จตุพร" (รายละเอียด)

สำหรับอาการป่วยของนายจตุพร  แพทย์ก็ออกมายืนยันแล้วว่า ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่กระแสข่าวในหมู่คนเสื้อแดง นั้นถึงขั้นเอาเหตุการณ์นี้มาปลุกระดมคนเสื้อแดงเพื่อนัดชุมนุมเยี่ยมนายจุพรในวันอีกด้วย

โดยนางสุดสงวน  หรือ อาจารย์ตุ้มของมวลชนคนเสื้อแดง  ได้โพสต์ข้อความที่สื่อนปช.นำมาเผยแพร่ในทวิตเตอร์  ว่า  “ประกาศพี่น้องหัวใจสีแดง  4 มกราคม 2560  เจอกันที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์  เราต้องไปเพื่อเยี่ยมเยียม/ติดตาม/ตรวจสอบว่าคุณจตุพร (หัวหน้าหมู่ทะลวงควัน ประธานนปช.) มีอาการเป็นอย่างไร การไม่ให้ประกันตัวเป็นสิทธิที่ชอบธรรมตามกฎหมาย  ทำให้คนบริสุทธิ์ที่คิดต่างต้องมาป่วยในคุกหรือ ? …. “

ก่อนหน้านั้น ศาลแพ่งได้อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา คดีหมายเลขดำ ลม.1/2557 ที่ผู้อำนวยสำนักการประจำศาลแพ่ง เป็นผู้กล่าวหา นางดารุณี กฤตบุญญาลัย , นางสุดสงวน สุธีสร หรืออาจารย์ตุ้ม อาจารย์ประจำคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และนาย พิชา วิจิตรศิลป์ ทนายความ (เสียชีวิตแล้ว) เป็นผู้ถูกกล่าวหาที่ 1- 3 กรณีประพฤติตนไม่เรียบร้อยบริเวณศาล

 

จากเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2557 นางดารุณี นักธุรกิจไฮโซ แนวร่วม นปช. กับพวก นำมวลชนจำนวนมาก รวมตัวกันที่หน้าอาคารศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษกแล้วมีการอ่านแถลงการณ์ วางพวงหรีด และชูป้ายวิจารณ์การทำหน้าที่ของศาลแพ่ง คดีที่ กปปส. ฟ้องเพิกถอนการออกประกาศ ตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มาผูกติดไว้กับประตูรั้ว โดยศาลแพ่งไต่สวนและตรวจดูภาพที่บันทึกเหตุการณ์แล้วเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2557

โดยศาลฎีกาเห็นว่า ตามที่นางสุดสงวนขอให้ลงโทษสถานเบา และรอการลงโทษนั้น ตามพฤติ การณ์เป็นเรื่องร้ายแรง ไม่มีเหตุรอการลงโทษ และนางสุดสงวนเป็นบุคคลที่มีความรู้ทางกฎหมาย มีตำแหน่งหน้าที่เป็นอาจารย์ประ จำมหาวิทยาลัย ย่อมรู้ดีว่าคำพิ พากษาของศาลย่อมมีทั้งก่อความพอใจและความไม่พอใจแก่คู่ความ ได้ ซึ่งฝ่ายแพ้คดีย่อมมีสิทธิ์อุทธรณ์คำพิพากษาต่อไป การนำคณะบุคคลมากดดันดุลยพินิจของศาล ย่อมเป็นการบ่อนทำลายสถาบันศาล ลิดรอนความเป็นอิสระของตุลาการ ให้เป็นไปตามอารมณ์ของคู่ความ นำไปสู่ความวุ่นวายโกลาหล ไร้ความมั่นคงของประเทศ เป็นการใช้กำลังข่มขู่ คุกคาม เพื่อให้ศาลยอมจำนนตามประสงค์ของฝ่ายตน แสดงถึงความเหิมเกริมไม่หวั่นเกรงกฎ หมาย

ทั้งที่ตนมีความรู้ จึงไม่มีเหตุควรปรานี ที่ศาลอุทธรณ์พิ พากษาให้เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขังแทนนั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา จึงพิพากษากลับ ให้จำคุกนางสุดสงวน เป็นเวลา 1 เดือน ตามคำพิพากษาศาล

 

อ้างอิงจาก เจาะข่าวร้อน ล้วงข่าวลึก

เรียบเรียงโดย ชนุตรา สำนักข่าวทีนิวส์