เช็คด่วนเลย !!! รัฐบาลเตรียมออกกฎหมายจัดระเบียบรถเพิ่ม ...รับรองงานนี้ ใครผิดกฎเจอดี   (รายละเอียด)

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมีแนวคิดออกมาตรา 44 เพื่อจัดระเบียบวินัยการจราจร เพื่อครอบคลุมทั้งรถยนต์ส่วนบุคคลและรถโดยสารสาธารณะ โดยจะออกก่อนสงกรานต์เพื่อให้เค

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า  รัฐบาลมีแนวคิดออกมาตรา 44 เพื่อจัดระเบียบวินัยการจราจร เพื่อครอบคลุมทั้งรถยนต์ส่วนบุคคลและรถโดยสารสาธารณะ โดยจะออกก่อนสงกรานต์เพื่อให้เคยชินกับกฎระเบียบใหม่ที่เข้มงวดก่อนเข้าช่วงเทศกาลสงกรานต์

 

ขณะเดียวกันจะออกกฎหมายเพิ่มโทษ พวกขับขี่ผิดกฎหมายซ้ำซ้อน และประเภทไม่ยอมชำระเงินค่าปรับจะชะลอการออกใบภาษีรถยนต์

 

เช็คด่วนเลย !!! รัฐบาลเตรียมออกกฎหมายจัดระเบียบรถเพิ่ม ...รับรองงานนี้ ใครผิดกฎเจอดี   (รายละเอียด)

 

เช็คด่วนเลย !!! รัฐบาลเตรียมออกกฎหมายจัดระเบียบรถเพิ่ม ...รับรองงานนี้ ใครผิดกฎเจอดี   (รายละเอียด)

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบกและรองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า การดำเนินการมาตรการลดอุบัติเหตุช่วงปีใหม่ ของ คสช. โดยมุ่งหวังให้ประชาชนให้ความร่วมมือ ระมัดระวังในการเดินทาง แต่ก็ยังคงพบเกิดอุบัติเหตุในบางพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกส่วนจะเพิ่มความเข้มงวดในมาตรการความปลอดภัยของการใช้เส้นทางให้มากขึ้น โดยเฉพาะรถบริการสาธารณะ ด้วยการตั้งจุดตรวจตามเส้นทางและบริเวณสถานีขนส่ง หรือจุดเชื่อมต่อคมนาคม โดยมาตรการดูแลความปลอดภัย “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” เมื่อวันที่ 3 ม.ค. ที่ผ่านมา พบผู้กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ 14,143 ครั้ง ยึดรถ 458 คัน และส่งผู้กระทำความผิดดำเนินคดี 7,370 คน ส่วนรถโดยสารสาธารณะและรถยนต์ส่วนบุคคล พบการกระทำความผิด 10,536 ครั้ง ยึดใบขับขี่ 562 คน ยึดรถยนต์ 132 คัน ส่งดำเนินคดี 3,924 คน

 

ทั้งนี้ ตลอด 6 วัน (29 ธ.ค.59 - 3 ม.ค.60) ยึดรถที่ฝ่าฝืนมาตรการดื่มไม่ขับไว้แล้ว 4,208 คัน (แยกเป็น รถจักรยานยนต์ 2,965 คัน และรถยนต์ 1,243 คัน) และดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดรถจักรยานยนต์ 38,168 คน รถโดยสารสาธารณะรถยนต์ส่วนบุคล 20,889 คน

 

อย่างไรก็ตาม จากสถิติใน 6 วัน เจ้าหน้าที่จะเข้มงวดในมาตรการลดอุบัติเหตุ แต่ยังคงมีผู้ขับขี่บางส่วนที่มีความประมาท ขับขี่ในสภาพที่ไม่พร้อม จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุและเกิดการสูญเสียขึ้น ซึ่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปสู่การพิจารณาแก้ไขร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป

  ที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวให้สัมภาษณ์ว่า ในการเดินทางของประชาชนในปี 2560 พบว่า ประชาชนเดินทางมากกว่าปี 2559 โดยเฉพาะการใช้รถขนส่งสาธารณะ รวมถึงปริมาณการใช้รถยนต์ก็สูงขึ้นเช่นกัน อีกทั้งการใช้มอเตอร์เวย์และทางด่วนการทางพิเศษด้วย ทั้งนี้วันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา ปริมาณการขาเข้า กทม.เพิ่มขึ้น ดังนั้นได้กำชับเรื่องการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่ทยอยเดินทางกลับทุกเส้นทาง โดยจะต้องระบายรถให้เคลื่อนตัวได้ ทั้งเส้นทางภาคอีสาน ภาคเหนือและภาคใต้ มีการเพิ่มช่องทางพิเศษเพื่ออำนวยความสะดวกได้ ซึ่งก็ได้ผล โดยมีเจ้าหน้าตำรวจทางหลวงและแขวงการทางดำเนินการอย่างเต็มที่ ส่วนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นสาเหตุอันดับ 1 มาจากการเมาสุรา แต่ขณะนี้หมดช่วงการเฉลิมฉลองและเป็นช่วงการเดินทางกลับ อันดับ 2 คือเรื่องความเร็ว โดยเฉพาะเส้นทางตรง และอันดับ 3 อุบัติเหตุจากรถจักรยานยนต์

 

 ผู้สื่อข่าวถามว่า การควบคุมดูแลรถตู้โดยสาร เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่จะมี ผู้โดยสารเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก นายอาคม กล่าวว่า ต้องดูหลายส่วนประกอบกัน ทั้งตัวรถ และอุปกรณ์ส่วนพ่วงต่างๆ ต้องได้มาตรฐาน รวมถึงสภาพถนน แต่ที่ผ่านมาก่อนถึงช่วงเทศกาลปีใหม่ทางกระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้มีการปรับปรุงพื้นผิวการจราจรไม่ให้มีหลุมและบ่อ แต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้เกิดซ้ำจุด เพราะส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมผู้ขับรถที่มีหลายสาเหตุ เช่น เมาสุรา อาการเมื่อยล้า และหลับในการควบคุมรถสาธารณะ สามารถควบคุมได้แต่รถส่วนบุคคลต้องควบคุมตนเอง เพราะตามกฎหมาย แรงงานให้คนขับรถทำงาน 8 ชั่วโมง แต่กรณีอุบัติเหตุรถตู้โดยสารที่ จ.ชลบุรีต้องไปดูรอบการทำงานของผู้ขับ ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจากการขับรถเร็วเกินกว่ากำหนด จนรถเบรกไม่อยู่ และความเหนื่อยล้า ส่วนสาเหตุที่เกิดไฟไหม้ตัวรถจะเป็นเพราะรถตู้โดยสารมีติดแก๊สหรือไม่ ขณะนี้อยู่ในระหว่างตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เบื้องต้นพบว่า รถตู้โดยสารคันดังกล่าวเข้าตรวจสอบสภาพรถเมื่อเดือน ก.ย. 59 ที่ผ่านมา ซึ่งได้ผ่านการตรวจสอบและเบื้องต้นก็พบว่า รถตู้คันดังกล่าวถังแก๊สไม่ได้มีปัญหา จึงมองว่าอาจจะเกิดจากระบบ หัวจ่ายน้ำมัน แต่ทั้งนี้ จะต้องรอการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อความชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง

 

ที่ต่างประเทศรถตู้ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อขนส่งคน แต่ใช้เพื่อขนส่งสิ่งของ ดังนั้นเมื่อมีการนำมาประยุกต์ โดยเฉพาะระบบสองระบบ ก็จะต้องเน้นย้ำในเรื่องระบบความปลอดภัย ทั้งตัวรถและอุปกรณ์ส่วนพ่วง ขณะเดียวกันในส่วนของผู้ขับขี่ รถตู้โดยในข้อบังคับของกรมขนส่งทางบกระบุไว้อย่างชัดเจนว่าขับรถ 4 ชั่วโมงต้องพัก 1 ชั่วโมง รวมไปถึงขณะนี้ได้มีการเร่งรัดให้ผู้ประกอบการนำรถตู้ติดจีพีเอส เพื่อให้สามารถตรวจสอบและควบคุมที่ศูนย์ควบคุมได้ รวมไปถึงภายในปี 62 จะผลักดันให้มีการใช้รถตู้โดยสารขนส่งข้ามจังหวัดลดลง เพราะรถตู้โดยสารส่วนใหญ่จะหมดอายุการใช้งาน และจะผลักดันให้ใช้รถโดยสารที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อความปลอดภัย พร้อมกับจะต้องให้ผู้ขับรถโดยสารเข้ารับการอบรมทุก 6 เดือนจากกรมการขนส่งทางบกเพื่อเตือนความจำเรื่องกฎหมายการจราจรและสร้างจิตสำนึกด้วย

 

เรียบเรียงโดย ชนุตรา สำนักข่าวทีนิวส์