เด็กหญิง 14 อนาคตไกล หวังได้ใช้ทุนที่สอบชิงจนจบป.ตรี แต่ความหวังเริ่มริบหรี่เมื่อมาป่วยด้วยโรคร้าย!! สุดทรมานแม้จะนอนยังลำบาก

ในวันนี้ 9 ม.ค. 2559 หลังจากมีการส่งต่อในโซเชียลมีเดียกับเรื่องราวของน้องเมย์เด็กหญิงอายุ 14 ปี ป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือที่เรียกกันว่า โรคเอสแอลอี (SLE) โดยแต่ละคนจะมีอาการที่แตกต่างกันไป

ในวันนี้ 9 ม.ค. 2559 หลังจากมีการส่งต่อในโซเชียลมีเดียกับเรื่องราวของน้องเมย์เด็กหญิงอายุ 14 ปี ป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง หรือที่เรียกกันว่า โรคเอสแอลอี (SLE) โดยแต่ละคนจะมีอาการที่แตกต่างกันไป กรณีของน้องเมย์มีแผลพุพองตามร่างกาย ได้รับความทุกข์ทรมานเป็นอย่างมาก และไม่สามารถไปโรงเรียนได้เหมือนปกติ ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 98 ม.3 ต.ห้วยกรด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท พบ ด.ญ.รัตนาวดี น้อยเอี่ยม หรือ น้องเมย์ ร่างกายมีแผลพุพองเต็มตัว ทั้งแขน ขา ขอบตา รวมถึงที่ศีรษะ ร่างกายซูบผอม ผมร่วง คันเพราะพิษของบาดแผล ทำให้ต้องอดทน และเกาในบางครั้ง ทรมานจนน้ำตาไหลออกมาด้วยความเจ็บแผลและคัน ตอนนี้ลุกลามมาจนถึงขอบตาทำให้คันจนบางครั้งต้องเผลอขยี้ตาแล้วทำให้เป็นแผลพุพองขึ้นมา

โดยน้องเมย์เป็นเด็กที่เรียนดี ตั้งใจเรียน ชอบช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ จึงเป็นที่รักของเพื่อนๆ อีกทั้ง ยังได้รับทุนการศึกษาของมูลนิธิอาสาสมัครนานาชาติช่วยงานสังคมสงเคราะห์ จนจบปริญญาตรี แต่เนื่องจากอาการป่วยภูมิแพ้ตัวเองเริ่มเป็นหนักขึ้น ทำให้ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ ต้องหยุดเรียนจนถึงปัจจุบันกว่า 8 เดือนแล้ว ถึงคราวสอบก็ไม่ได้สอบเหมือนเพื่อนๆ น้องเมย์เกรงว่า อาจจะกระทบต่อผลการศึกษาและทุนที่ได้เรียนต่อ

ด้าน นางวรรณา ช้างมาก อายุ 40 ปี กล่าวว่า ตนดูแลน้องเมย์มาตั้งแต่เล็กๆ ด้วยอาชีพรับจ้างในตลาด ค่าแรงวันละ 300 บาท ตั้งแต่พ่อและแม่ของน้องเมย์เลิกรากัน จนตอนนี้น้องเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนห้วยกรดวิทยา ร่างกายก็เป็นปกติดี จนเมื่อช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา เริ่มแรกน้องมีอาการคันตามผิวหนัง ลำตัวตอนนั้นไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลรวมแพทย์ชัยนาท ทางแพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรค "แพ้ภูมิตัวเอง" รักษาได้ 3 วัน หมดค่าใช้จ่ายไป 18,000 บาท ตนเห็นว่าไม่มีเงินรักษาต่อจึงขอหมอออกจากโรงพยาบาล กลับมารักษาต่อที่โรงพยาบาลสรรคบุรี รักษาไม่กี่วันอาการดีขึ้น จึงกลับมาอยู่บ้าน แต่อาการก็กำเริบอีก จึงไปรักษาที่โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร และมีหนังสือส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเด็กที่กรุงเทพฯ เมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2559 แต่ไม่มีเงินค่าเดินทาง จึงไม่ได้ไปรักษา ประกอบกับอาการน้องเมย์แย่ลง มือและเท้าเจ็บเดินไม่ค่อยไหว ตอนนี้ใช้วิธีหาซื้อยามาทาบ้างกินบ้างตามอาการ เมื่ออาการทุเลาไม่นานก็เป็นอีก

เด็กหญิง 14 อนาคตไกล หวังได้ใช้ทุนที่สอบชิงจนจบป.ตรี แต่ความหวังเริ่มริบหรี่เมื่อมาป่วยด้วยโรคร้าย!! สุดทรมานแม้จะนอนยังลำบาก

เด็กหญิง 14 อนาคตไกล หวังได้ใช้ทุนที่สอบชิงจนจบป.ตรี แต่ความหวังเริ่มริบหรี่เมื่อมาป่วยด้วยโรคร้าย!! สุดทรมานแม้จะนอนยังลำบาก

นางวรรณากล่าวทั้งน้ำตาว่าตนเองรู้สึกตื้นตันใจ และขอบใจผู้ใจบุญทุกท่านที่ได้บริจาคเงินเข้ามาช่วยเหลือน้องเมย์ ไม่คิดว่าจะได้รับการช่วยเหลือมากมายขนาดนี้ จนตอนนี้มีหน่วยงานรับน้องเมย์ไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเด็กแล้ว โดยนัดหมายว่าจะมารับน้องเมย์ในช่วงบ่ายของวันนี้ ตนเองรักน้องเมย์เสมือนลูกในไส้ อยากให้น้องหายเพราะน้องอยากไปโรงเรียน อยากไปเจอเพื่อนๆ อยากเรียนต่อ ม.ปลาย เหมือนคนอื่นๆ" นางวรรณา กล่าว

หากผู้ใดต้องการช่วยเหลือน้องเมย์ สามารถบริจาคเงินได้ที่บัญชีของป้าน้องเมย์ ชื่อบัญชี นางวรรณา ช้างมาก ธนาคารออมสิน สาขาสรรคบุรี เลขที่บัญชี 0200050972หรือโทรมาให้กำลังใจได้ที่โทรศัพท์หมายเลข 061-594-0857

เด็กหญิง 14 อนาคตไกล หวังได้ใช้ทุนที่สอบชิงจนจบป.ตรี แต่ความหวังเริ่มริบหรี่เมื่อมาป่วยด้วยโรคร้าย!! สุดทรมานแม้จะนอนยังลำบาก

 

 

เรียบเรียงโดย : สุกันยา ทีนิวส์