"ด้วยพระบารมี"!!! "ชาวเลราไวย์"สุดกลั้นน้ำตาหลังศาลยกฟ้องไล่ที่ มีหลักฐาน"ในหลวง ร.๙"เสด็จฯประพาส (รายละเอียด)

"ด้วยพระบารมี"!!! "ชาวเลราไวย์"สุดกลั้นน้ำตาหลังศาลยกฟ้องไล่ที่ มีหลักฐาน"ในหลวง ร.๙"เสด็จฯประพาส (รายละเอียด)

 

ศาลจังหวัดภูเก็ต อ่านคำพิากษาคดีแพ่งฟ้องละเมิดขับไล่ กรณีพิพาทกันเรื่องที่ดินซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยระหว่างชาวเลราไวย์ จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย นายแอ่ว หาดทรายทอง นายวรนันท์ หาดทรายทอง นายบัญชา หาดทรายทอง และนายนิรันดร์ หยังปาน วันนี้ มีเพียงนายนิรันดร์ เดินทางมาฟังคำพิพากษาเพียงคนเดียว

       
ศาลพิจารณาเห็นว่าชาวเลราไวย์เป็นผู้อยู่ในพื้นที่พิพาทก่อนที่มีการยื่นคำขอออกโฉนด และไม่มีการแจ้งว่าได้มีชาวเลราไวย์ อาศัยอยู่ก่อนแล้ว และเจ้าพนักงานที่ดินไม่ทำการสอบสวนสิทธิของชาวเลราไวย์ว่าจะคัดค้านการออกโฉนดที่ดิน และมีพยานหลักฐานภาพถ่ายทางอากาศในอดีตยืนยันว่าชาวเลราไวย์อาศัยอยู่ในพื้นที่พิพาทมาก่อนการแจ้งส.ค.1และการออกโฉนดที่ดินสอดรับกับภาพยนตร์ การเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฏรชาวเลราไวย์เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2502  ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีการบันทึกภาพโดยสำนักพระราชวัง ปรากฏภาพชาวเลราไวย์ มาเฝ้ารับเสด็จจำนวนมาก มีชาวเลราไวย์อยู่ในพื้นที่พิพาทในลักษณะหมู่บ้าน สิ่งที่สำคัญคือต้นมะพร้าวในภาพการเสด็จฯที่มีอายุไม่น้อยกว่า 30 ปี ส่วนใหญ่มีอายุประมาณ 45 ปี ขัดแย้ง กับที่นายทัน มุกดี กล่าวอ้างในสารบบที่ดินเมื่อปี 2508 ว่าเป็นผู้ปลูกมะพร้าวมาประมาณ 10 ปี

 

"ด้วยพระบารมี"!!! "ชาวเลราไวย์"สุดกลั้นน้ำตาหลังศาลยกฟ้องไล่ที่ มีหลักฐาน"ในหลวง ร.๙"เสด็จฯประพาส (รายละเอียด)

 


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ย้อนรอยนาที !! "กลุ่มนายทุน" บุกปิดพื้นที่หาดราไวย์ จากปาก "ชาวเล" แฉเหตุทำร้ายร่างกาย - ใช้กม.ขู่??

นอกจากนี้ ทะเบียนนักเรียนในโรงเรียนวัดสว่างอารมณ์เป็นหลักฐานยืนยันว่ามีชาวเลเข้ามาศึกษาในโรงเรียนดังกล่าวประมาณ 30 คน ก่อนปี 2498 หรือปีที่มีการแจ้งส.ค.1 แสดงให้เห็นว่ามีชาวเลราไวย์ไม่น้อยกว่า 90 คน อยู่ในพื้นที่พิพาทคือเด็กนักเรียน 30 คน รวมทั้งพ่อ และแม่ของเด็กนักเรียนดังกล่าว ประกอบพยานเจ้าหน้าที่ซึ่งได้รวบรวมพยานหลักฐานดังกล่าวถือว่า เป็นพยานคนกลางที่มีน้ำหนักมั่นคงและเชื่อถือได้และยืนยันได้ว่าชาวเลราไวย์คือผู้ที่อยู่อาศัยและมีสิทธิในที่ดินมาก่อนนายทัน มุกดี และการออกเอกสารสิทธิในที่ดินจึงเป็นการออกโดยไม่ชอบด้วยกฏหมาย จึงพิพากษายกฟ้องชาวเลราไวย์

 

"ด้วยพระบารมี"!!! "ชาวเลราไวย์"สุดกลั้นน้ำตาหลังศาลยกฟ้องไล่ที่ มีหลักฐาน"ในหลวง ร.๙"เสด็จฯประพาส (รายละเอียด)

 นายนิรันดร์ กล่าวภายหลังฟังการอ่านคำพิพากษาแล้วเสร็จ ว่า ในการวินิจฉัยนั้นศาลได้พิจารณาในหลายประเด็น โดยเฉพาะภาพการเสด็จประพาสหมู่บ้านชาวเลของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อปี 2502 ซึ่งมีภาพของต้นมะพร้าวปรากฏอยู่ด้วย ซึ่งโจทย์แจ้งว่าต้นมะพร้าวมีอายุ 10 ปี แต่จากการตรวจสอบของผู้เชี่ยวชาญพบว่า ต้นมะพร้าวดังกล่าวมีอายุกว่า 30 ปี จึงเป็นข้อขัดแย้งและข้อพิรุธ ประกอบกับการพิจารณาของศาลพบว่า หลักฐานของโจทก์มีข้อพิรุธหลายอย่าง จึงพิจารณายกฟ้อง เพราะชาวเลเป็นผู้ถือผู้ใช้ประโยชน์ที่ดินซึ่งทางโจทก์ถือหลักฐานโฉนด
         
“รู้สึกดีใจที่มองเห็นว่าวิถีชีวิตและชาติพันธุ์ของชาวเล มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม รวมทั้งยังมีหลักฐานที่เชื่อถือได้ ซึ่งนับตั้งแต่การตัดสินคดี เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2559 ในคดีที่นายจำเริญ มุกดี ทายาทนายทัน มุขดี เจ้าของที่ดินตามโฉนดเลขที่ 8342 ฟ้องขับไล่ นายจรูญ หาดทรายทอง และนางแต๋ว เซ่งบุตร ซึ่งศาลพิจารณายกฟ้อง และในวันนี้ (31ม.ค.) ก่อนที่ชาวบ้านจะมาฟังคำการอ่านคำพิพากษาก็ค่อนข้างกังวล และตื่นเต้นว่า จะยกฟ้องเหมือนคดีก่อนหน้านี้หรือไม่ แต่เมื่อศาลอ่านคำพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากหลักฐานของโจทก์มีข้อพิรุธ ส่วนการเตรียมการหลังจากนี้เนื่องจากเชื่อว่าทางโจทก์จะต้องมีการอุทธรณ์นั้น เนื่องจากเราไม่มีความรู้เรื่องกฎหมาย แต่เชื่อว่าศาลอุทธรณ์ก็จะมีการนำข้อมูลจากศาลชั้นต้นไปพิจารณาร่วมด้วย”

 

 

เรียบเรียงโดย  นาตยา เอนกธนะเศรษฐ์   สำนักข่าวทีนิวส์