ค้นให้ละเอียดยิบ...จนกว่าจะเจอ!!!"ไพบูลย์" มั่นใจ"ธัมมชโย"ยังอยู่ในวัด อย่าด่วนปิดจ๊อบ

นายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลใช้มาตรา 44 ดำเนินการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย เพื่อหาตัวพระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย เพื่อนำมาดำเนินคดีตามหมายจับหลายคดีว่า ทั้งพระธัมมชโย ลูกศิษย์ และพระในวัดพระธรรมกาย ล้วนแต่เชื่อมั่นว่าหากมีคดีขึ้นการหลบอยู่ที่บริเวณวัดพระธรรมกายเป็นสถานที่ปลอดภัยที่สุด เพราะมีพื้นที่กว้างถึง 2,000 กว่าไร่ มีกลุ่มอาคารมากมาย พื้นที่หลายล้านตารางเมตร มีห้องเป็นพันๆ ห้อง เป็นเมืองๆ หนึ่ง

 

ทั้งนี้ เห็นได้จากล่าสุด นายองอาจ ธรรมนิทา โฆษกวัดพระธรรมกาย ซึ่งมีคดีโดนออกหมายจับ สังคมคาดว่าหนีออกนอกประเทศหรือหลบอยู่ต่างจังหวัดไกล แต่ปรากฏว่าเมื่อมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่เมื่อช่วงกลางดึก คืนวันที่ 15 ก.พ.60 ก่อนที่มีจะมีการประกาศใช้ มาตรา 44 ก็พบว่าหลบหนีซ่อนตัวอยู่ในวัดพระธรรมกาย เช่นเดียวกันกับภิกษุในวัดทุกรูปที่มีคดี ก็ไม่มีผู้ใดหลบหนีออกจากวัดพระธรรมกาย จึงมั่นใจว่า พระธัมมชโยในฐานะเป็นผู้สร้างวัดมาด้วยตนเอง และมีอายุสูงวัย ไม่มีพาสปอร์ต จึงยิ่งมั่นใจว่า ปัจจุบันยังคงหลบอยู่ในเขตวัดพระธรรมกาย ไม่จุดใดก็จุดหนึ่ง ในอาคารที่มีที่หลบซ่อนได้มากมาย

 นายไพบูลย์ กล่าวต่อว่า ดังนั้นในการเข้าค้นวัดครั้งสุดท้ายโดยอาศัยอำนาจตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มาตรา 44 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ต้องใช้เวลาค้นหาอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะกี่วัน กี่สัปดาห์ หรือเป็นเดือน ถ้าค้นหายังไม่เจอก็ต้องวางกำลังค้นหาอยู่ในวัดจนกว่าจะเจอ เป็นห่วงว่าถ้าประกาศเร็วไปว่าค้นจนทั่วแล้วพบว่า พระธัมมชโยไม่อยู่ในวัดพระธรรมกาย แล้วเจ้าหน้าที่รัฐถอนกำลังออกมาหมด หากต่อมามีคนออกมาเปิดเผยว่า จริงๆ แล้วพระธัมมชโยยังแอบซ่อนอยู่ในวัด ไม่ได้หลบไปอยู่ที่อื่น ก็จะทำให้การปฏิบัติการอาศัยคำสั่ง คสช.มาตรา 44 ครั้งนี้เสียหาย และกระทบต่อชื่อเสียงของ คสช.รัฐบาล ด้วย จึงขอให้ระมัดระวังอย่ารีบร้อน
 

 

 

 

 

รายงานโดย นาตยา เอนกธนะเศรษฐ์  สำนักข่าวทีนิวส์