ตั้งใจยิงขีปนาวุธลงทะเล !?!? ชัดทุกคำตอบเกาหลีเหนือซ้อมยิง จะถล่มฐานทัพสหรัฐฯ ในญี่ปุ่นหรือไม่ (มีคลิป)

รัฐบาลเกาหลีเหนือแถลงว่า การยิงขีปนาวุธ 4 ลูกลงทะเลมีวัตถุประสงค์เพื่อซ้อมโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ในญี่ปุ่น ขณะที่เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้ออกมาประณามพฤติกรรมก้าวร้าวของโสมแดง
       
จรวด 4 ลูกที่เกาหลีเหนือยิงออกไปทางชายฝั่งตะวันออกของประเทศนั้น มีอยู่ 3 ลูกที่ลอยเข้าไปตกภายในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ (EEZ) 200 ไมล์ทะเลของญี่ปุ่น ซึ่งเรื่องนี้นับเป็นการท้าทายว่าประธานาธิบดี โดนัลด์ทรัมป์ของสหรัฐฯ จะมีมาตรการตอบโต้อย่างไรเพื่อแสดงการปกป้องแก่พันธมิตรอย่างญี่ปุ่น

โดยทางด้านนายโดนัลด์ทรัมป์ ได้โทรศัพท์หารือกับนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น โดยผู้นำทั้งสองเห็นตรงกันว่า เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่าภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือได้ ยกระดับขึ้นไปอีกขึ้นหนึ่ง

อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ได้แถลงประณามการยิงขีปนาวุธชุดใหญ่ของเกาหลีเหนือ และเรียกร้องให้เกาหลีเหนืองดเว้นจากการกระทำยั่วยุการกระทำเช่นนี้ถือว่าละเมิดมติของคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น ทั้งยังบั่นทอนสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอย่างร้ายแรง
คณะผู้นำเกาหลีเหนือหยุดกระทำการใดๆ ที่จะยั่วยุให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก และขอให้ปฏิบัติตามพันธกรณีที่มีต่อนานาชาติ
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้เรียกประชุมฉุกเฉินในวันที่ 8 มีนาคม หลังจากสหรัฐฯ และ ญี่ปุ่นขอให้มีการหารือบทลงโทษเกาหลีเหนือ
       
ยูเอ็นได้มีมติสั่งห้ามไม่ให้เกาหลีเหนือใช้เทคโนโลยีขีปนาวุธทุกรูปแบบ ซึ่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็น นิกกีเฮร์ลีย์ ก็ยืนยันผ่านทวิตเตอร์ว่า ทั่วโลกไม่ยินยอมให้เกาหลีเหนือมุ่งหน้าสู่หนทางแห่งการทำลายล้างต่อไป  แต่อย่างไรก็ตาม มติคว่ำบาตรทั้ง 6 ครั้งที่ถูกประกาศนับตั้งแต่เกาหลีเหนือเริ่มทดสอบนิวเคลียร์ครั้งแรกเมื่อปี 2006 ยังไม่สามารถระงับยับยั้งเกาหลีเหนือจากการสะสมและพัฒนาอาวุธทำลายล้างสูง ซึ่งพวกเขาอ้างว่ามีไว้เพื่อป้องกันตนเอง
ส่วนสำนักข่าวเคซีเอ็นเอของเกาหลีเหนือรายงานว่า ผู้นำ คิม จอง อึน ได้ออกคำสั่งให้กองทัพเริ่มต้นการซ้อมรบ และยังกล่าวชื่นชมหน่วยทหารปืนใหญ่ ฮวาซองซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบการยิงขีปนาวุธ พร้อมกับมองตามเส้นทางของจรวดซึ่งเคลื่อนที่ไปจรวด 4 ลูกซึ่งยิงออกไปพร้อมกันมีความแม่นยำอย่างยิ่ง และดูเหมือนเครื่องบินผาดโผนที่กำลังบินพร้อมกันไปเป็นหมู่    หน่วยงานของกองทัพที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้รับมอบหมายให้จำลองการโจมตีฐานทัพของกองกำลังนักล่าอาณานิคมสหรัฐฯ ในญี่ปุ่น เมื่อเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้น
เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ คนหนึ่งให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า สิ่งที่เกาหลีเหนือนำมายิงทดสอบนี้ เป็นแค่จรวดสกั๊ดซึ่งถูกเพิ่มพิสัยเดินทางให้ไกลขึ้น และได้ยิงออกไปถึง 5 ลูก ทว่าลูกหนึ่งไปตก ณ ที่ไหนสักแห่งบนคาบสมุทรเกาหลีสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ได้เริ่มต้นการซ้อมรบประจำปีไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นกิจกรรมที่สร้างความโกรธให้กับเกาหลีเหนือ อย่างยิ่ง       
ผู้นำคิม จอง อึน สั่งให้กองทัพเฝ้าระวังอย่างสูงสุด เนื่องจากสถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจ และอาจเกิดสงครามขึ้นได้ทุกเมื่อ และขอให้ทหารทุกหน่วยพร้อมยิงทำลายล้างพวกศัตรู ทันทีที่ได้รับคำสั่งหนังสือพิมพ์ โรดอง ซินมุน ของเกาหลีเหนือได้ลงภาพคิม จอง อึน จ้องมองขีปนาวุธพุ่งทะยานสู่ท้องฟ้า และภาพที่มีสีหน้ายิ้มย่องผ่องใสและปรบมือร่วมกับเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ

นับเป็นครั้งที่ 2 แล้วที่จรวดของเกาหลีเหนือรุกล้ำเข้าไปตกในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น ซึ่งหมายถึงอาณาเขต 200 ไมล์ทะเลจากชายฝั่งที่ญี่ปุ่นมีสิทธิ์ในการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ โดยครั้งแรกนั้นเกิดขึ้นเมื่อเดือน ส.ค. ปี 2016
       การยั่วยุครั้งล่าสุดยังเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ จะเดินทางเยือน จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้
       
       ชอย กัง นักวิเคราะห์จากสถาบันอาซานเพื่อยุทธศาสตร์ศึกษาในกรุงโซล ระบุว่า เกาหลีเหนือตั้งใจยิงขีปนาวุธในครั้งนี้เพื่อเตือนญี่ปุ่นพวกเขากำลังจะบอกว่า เป้าหมายไม่ใช่แค่บนคาบสมุทรเกาหลีอีกต่อไป แต่อาจจะขยายไปถึงญี่ปุ่นเมื่อใดก็ได้ หรือแม้กระทั่งสหรัฐฯ ด้วย
โดนัลด์ทรัมป์ เคยพูดถึงเกาหลีเหนือว่าเป็น ปัญหาใหญ่และรับปากว่าจะจัดการเรื่องนี้ อย่างเด็ดขาดขณะที่โฆษกทำเนียบขาว ฌอนสไปเซอร์ ให้สัมภาษณ์ว่า รัฐบาลจะมีมาตรการ เพิ่มศักยภาพในการสกัดกั้นขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ
       
       หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สรายงานเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ว่า รัฐบาลประธานาธิบดี บารัค โอบามา เคยสั่งให้มีการโจมตีทางไซเบอร์ เพื่อพยายามทำลายจรวดของเกาหลีเหนือตั้งแต่ก่อนยิง หรือระหว่างที่เคลื่อนออกจากฐานยิง
       
ขณะที่สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ ได้ทำข้อตกลงจัดส่งระบบป้องกันขีปนาวุธในบรรยากาศชั้นสูง (THAAD) เข้าไปยังเกาหลีใต้ สร้างความไม่พอใจต่อจีนซึ่งเป็นพันธมิตรทางการทูตของเกาหลีเหนือ และเป็นพลังสำคัญที่อาจจะช่วยโน้มน้าวให้เกาหลีเหนือเปลี่ยนนโยบายได้
       
       อย่างไรก็ดี จีนเองก็รู้สึก ว่าขณะนี้ เกาหลีเหนือดื้อรั้นพัฒนานิวเคลียร์และขีปนาวุธไม่หยุดหย่อน และเมื่อเดือนที่แล้วก็ได้งดนำเข้าถ่านหินจากเกาหลีเหนือไปจนถึงสิ้นปีนี้