ส่องไส้มหาเถรสมาคม!!! "ไพศาล" สับละเอียดยิบความพิลึกพิลั่นในการสึก"ธัมมชโย"....ฝากประชาชนสอดส่องให้ดีอย่าให้เกิดกรณีโจรอุ้มโจร

ส่องไส้มหาเถรสมาคม!!! "ไพศาล" สับละเอียดยิบความพิลึกพิลั่นในการสึก"ธัมมชโย"....ฝากประชาชนสอดส่องให้ดีอย่าให้เกิดกรณีโจรอุ้มโจร

ส่องไส้มหาเถรสมาคม!!! "ไพศาล" สับละเอียดยิบความพิลึกพิลั่นในการสึก"ธัมมชโย"....ฝากประชาชนสอดส่องให้ดีอย่าให้เกิดกรณีโจรอุ้มโจร

ในวันนี้(11 มีนาคม 2560) นายไพศาล พืชมงคล ได้ออกมาวิเคราะห์ผ่านเฟสบุ๊ค Paisal Puechmongkol ถึงการประชุมมหาเถรสมาคมที่ผ่านมาเมื่อวานนี้ว่า

"ส่องไส้มหาเถรสมาคม!
โดย สิริอัญญา 
วันเสาร์ที่ 11 มีนาคม 2560
ช่วงนี้จะมีกรณีที่มหาเถรสมาคมจะพิจารณาเรื่องการสึกธัมมชโย ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลก เพราะว่าถ้าหากธัมมชโยยังคงเป็นพระอยู่ก็มิได้มีสมณศักดิ์ใด ๆ เพราะมีพระราชโองการให้ถอดสมณศักดิ์เสียทั้งสิ้นแล้ว และก็มิได้เป็นเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายด้วย

ดังนั้นแค่เจ้าอาวาสหรือเจ้าคณะตำบลหรือเจ้าคณะอำเภอหรือเจ้าคณะจังหวัดหรือเจ้าหน้าที่ที่กำกับการปฏิบัติตามหมายของศาลก็สามารถเอาผ้าเหลืองออกจากตัวธัมมชโยหรือสึกเสียก็ได้ ซึ่งการปฏิบัติอย่างนี้กระทำกันมานานแล้วเป็นปกติทั่วประเทศ

แล้วไฉนเล่าจึงต้องพิจารณาเรื่องนี้ในมหาเถรสมาคม จึงทำให้เกิดความห่วงใยว่าอาจจะมีพวกที่มีเถยจิตคิดอุ้มชูบำรุงธัมมชโยให้ย่ำยีพระศาสนาต่อไปช่วยเหลือเกื้อกูลให้ธัมมชโยดำรงฐานะที่เป็นพระ โดยการอาศัยเสียงข้างมากในมหาเถรสมาคมตัดสินเรื่องนี้

ดังนั้นประชาชนชาวไทยทั้งประเทศจึงต้องจับตาดูให้ดี ระมัดระวังสอดส่องอย่าให้เกิดกรณีโจรอุ้มโจรขึ้นได้ หรือถ้ามีใครพยายามจะกระทำเช่นนั้นก็ต้องทำให้ละอายต่อบาป หรือสาปส่งกันไป

ทำไมถึงมีความห่วงใยเช่นนั้นเล่า? ก็เพราะมีกรณีที่ทำให้ประชาชนไม่วางใจกรรมการมหาเถรสมาคมจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีพฤติกรรมอุ้มชูและรับอามิสจากผู้ประพฤติผิดพระธรรมวินัย กระทั่งมีข่าวเล่าขานเกี่ยวกับการซื้อขายตำแหน่งสงฆ์ไม่ขาดระยะ เหตุนี้จึงห้ามความห่วงใยและความกังวลใจของคนไม่ได้
ก็ต้องมาดูกันว่าภายในมหาเถรสมาคมนั้นเป็นอย่างไร?

ประการแรก ในมหาเถรสมาคมนั้นมีกรรมการสองประเภท คือกรรมการโดยตำแหน่ง ซึ่งมาจากสมเด็จพระราชาคณะทุกรูป และกรรมการที่มหาเถรสมาคมแต่งตั้งอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมานั้นเสียงข้างมากว่ากันว่าเกื้อหนุนลัทธิธรรมกาย ดังนั้นจึงมีการแต่งตั้งบรรดาบริษัทบริวารที่เอื้อเฟื้อต่อลัทธิธรรมกายเข้ามาเป็นกรรมการมหาเถรสมาคม กระทั่งบางรูปบังอาจถึงขนาดสร้างความแตกแยกระหว่างศาสนาอย่างเป็นล่ำเป็นสันเพื่อให้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นในประเทศ ดังที่เห็นประจักษ์กันอยู่แล้ว

ประการที่สอง ในมหาเถรสมาคมมีกรรมการ 20 รูป ซึ่งมีธรรมเนียมจัดสรรจำนวนที่มาจากมหานิกาย 10 รูป และมาจากธรรมยุติกนิกายอีก 10 รูป แต่ปรากฏว่ามีการกระทำที่พิลึกพิลั่น จึงทำให้คะแนนเสียงผิดเพี้ยนไปในทางเกื้อกูลต่อลัทธิธรรมกาย

ดังตัวอย่างเมื่อครั้งสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก องค์ที่ 19 แห่งรัตนโกสินทร์ทรงมีพระบัญชาในฐานะที่ทรงเป็นสกลมหาสังฆปริณายกว่า ธัมมชโยต้องอาบัติปาราชิกร้ายแรง ต้องสึกออกจากความเป็นภิกษุ การที่ยังครองผ้าเหลืองอยู่ก็เหมือนกับโจรที่เอาผ้าเหลืองมาห่มเท่านั้น ต้องดำเนินการโดยเด็ดขาด ซึ่งพระบัญชานี้ต้องถือเป็นที่สุดที่จะต้องนำไปสู่การปฏิบัติอย่างเด็ดขาด

ปรากฏว่าผู้มีอำนาจในสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติซึ่งรู้กันอยู่ว่าเป็นลิ่วล้อของลัทธิธรรมกายก็ดี และมหาเถรสมาคมก็ดีไม่ยอมทำหน้าที่ ไม่ปฏิบัติตามพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราช และอุ้มชูธัมมชโยให้ครองผ้าเหลืองมาจนกระทั่งทุกวันนี้

มิหนำซ้ำ ยังสมคบกันแต่งตั้งธัมมชโยซึ่งต้องอาบัติปาราชิกและต้องสึกตามพระบัญชาและมีฐานะเพียงฆราวาสคนหนึ่งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายอีก
เท่านั้นยังไม่หนำแก่ใจ ยังสมคบกันนำเสนอต่อรัฐบาลให้นำความกราบบังคมทูลขอรับพระราชทานสมณศักดิ์ชั้นเทพให้แก่ธัมมชโยซ้ำเข้าไปอีก! ซึ่งธัมมชโยอ้างว่าป่วยหนัก ไม่ไปเข้าเฝ้าฯ รับพระราชทาน แต่แค่รุ่งอีกสองวันสมเด็จช่วงก็อัญเชิญสัญญาบัตรพัดยศอันได้รับพระราชทานนั้นไปมอบให้ธัมมชโยถึงวัด
ผู้ต้องอาบัติปาราชิกและมีฐานะเป็นฆราวาสจะเป็นเจ้าอาวาสไม่ได้ และไม่สามารถดำรงสมณศักดิ์ใด ๆ ได้อีก แต่ยังบังอาจกระทำกันถึงปานนั้น

สื่อมวลชนรายงานว่า ในจำนวนกรรมการมหาเถรสมาคม 20 รูปนั้น มีถึง 11 รูป เคยลงมติว่าธัมมชโยไม่เป็นปาราชิก ล้มล้างพระบัญชาสมเด็จพระสังฆราชอย่างหน้าตาเฉย ซึ่งถ้าหากมีการตรวจสอบไต่สวนในฐานะที่เป็นเจ้าพนักงานกระทำผิดตามกฎหมายก็ไม่แน่ว่าอาจจะมีความผิดที่ถึงขั้นต้องสึกและติดคุกติดตะรางหลายสิบปีก็ได้

ใครเป็นใครใน 11 รูปนี้ สื่อมวลชนได้รายงานข่าวมาตลอด ซึ่งบัดนี้ 2 ใน 11 รูปนั้นตายไปแล้ว และ 1 ใน 2 ตำแหน่งที่ว่างลงก็มีพระราชโองการให้สถาปนาท่านเจ้าคุณประยุทธ์ (ปยุตฺโต) ขึ้นเป็นที่สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ และบัดนี้ตำแหน่งสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ก็ว่างลงอีกตำแหน่งหนึ่งเพราะได้รับพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯสถาปนาขึ้นเป็นที่สมเด็จพระสังฆราชแล้ว

ดังนั้นองค์ประกอบภายในมหาเถรสมาคมจึงยังมีพวกที่เกื้อกูลและมีประโยชน์ร่วมกันกับธัมมชโยอยู่หลายรูป เหตุนี้จึงมีเหตุอันสมควรที่คนทั้งหลายจะได้ห่วงใย

เพราะว่าการลงมติกันนั้น ถ้าหากไม่ตั้งอยู่ในธรรมก็ไม่ต่างอะไรกับเหล่าโจรที่สามารถลงมติว่าการไปปล้นนั้นเป็นสิ่งที่ต้องกระทำก็ได้ ดังที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว
ทว่าดูไปแล้วอะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดไปเลยก็ดี เพราะจะได้รู้เช่นเห็นชาติกันว่าสถานการณ์บ้านเมืองมาถึงเพียงนี้แล้ว ผิดชอบชั่วดีหากไม่เป็นที่รู้ซึ้งแก่ใจก็อาจเป็นทางให้มีการชำระสะสางความโสโครกครั้งใหญ่ในบ้านเมืองก็ได้

ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ต้องกล่าวว่านั่นเป็นเพราะธรรมะจัดสรรด้วย! "

 

โดยเมื่อวานที่ผ่านมา(10 มีนาคม 2560) การประชุมมหาเถรสมาคมมีวาระจร เอาผิดทางธรรมวินัย แก่ “พระไชยบูลย์ สุทธิพล” หรือ “พระธัมมชโย” อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายหลังจากที่มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ถอดถอน พระเทพญาณมหามุนี ออกจากสมณศักดิ์ ตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค. เพราะเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีร่วมกันฟอกเงิน สมคบกันฟอกเงิน รับของโจร และอีกหลายคดี

หลังสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เสนอให้มหาเถรสมาคมดำเนินการทางพระธรรมวินัย ซึ่งในการประชุมวันนี้ ได้นำเรื่องนี้เสนอเข้าที่ประชุมมหาเถรสมาคมเป็นวาระจร เพราะไม่ได้บรรจุไว้ในระเบียบวาระ แต่ได้นำเข้ามาพิจารณาเป็นพิเศษในการประชุมคราวนี้ พร้อมกราบทูล สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เพื่อทรงทราบเรื่องการถอดถอนสมณศักดิ์พระธัมมชโยด้วย

และผลการประชุม ที่ประชุมมหาเถรสมาคมรับทราบเรื่องการถอดถอนสมณศักดิ์พระธัมมชโยมอบหมายให้เจ้าคณะใหญ่หนกลาง (สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ วัดพิชยญาติการามวรวิหาร) ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน ทำให้ยังต้องรอลุ้นว่าหากสอบสวนแล้วเห็นว่าผิดจริง เจ้าคณะใหญ่หนกลางวินิจฉัยให้สละสมณเพศไปเลย หรือหากสอบสวนแล้วเห็นว่ามีมูล ก็จะส่งเรื่องให้มหาเถรสมาคมวินิจฉัย มีให้เลือกระหว่าง ให้สละสมณเพศหรือไม่

ส่องไส้มหาเถรสมาคม!!! "ไพศาล" สับละเอียดยิบความพิลึกพิลั่นในการสึก"ธัมมชโย"....ฝากประชาชนสอดส่องให้ดีอย่าให้เกิดกรณีโจรอุ้มโจร

 

 

 

อ้างอิงข้อมูลจาก เฟสบุ๊ค ไพศาล พืชมงคล

...สินีนุช ทีนิวส์...