โนสนโนแคร์!!! “ต้นหอม” เดินหน้าง้อ “ซัน” สุดกำลัง แจงเหตุ “แทค” แซะวงจรอุบาทว์ ยัน ต่างคนต่างอยู่ !!!

แม้จะเป็นคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่แฟนคลับลุ้นกันตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มคบกัน จนตกลงปลงใจประกาศให้สังคมรู้ว่าเป็นแฟนกันแล้ว แต่ก็ไม่วายมีอุปสรรค์เข้ามา แล้วเป็นอุปสรรค์ก้อนใหญ่เลยที่เดียวที่ถึงขั้นทำใก้ทั้งคู่ลดสถานะ และฝ่ายชายโกรธมากถึงขั้นลบรูปคู่ในอินสตาแกรมทิ้ง แต่ฝ่ายหญิงก็ออกมาให้สัมภาษณ์ว่าที่มีปัญหากันเพราะตนผิดเอง และกำลังเดินหน้าง้ออย่างเต็มที่
ล่าสุดเมื่อ วันที่ 12 มี.ค. ที่เซ็นทรัลพลาซา บางนา พิธีกรชื่อดังอย่างสาว ศกุนตลา เทียนไพโรจน์ หรือดีเจต้นหอม ก็ได้ให้สัมภาษณ์อัพเดตถึงความสัมพันธ์ตอนนี้กับหนุ่ม ซัน-ประชากร ปิยะสกุลแก้ว หลังเจ้าตัวเดินหน้าง้อฝ่ายชายเต็มที่ โดยก่อนหน้านี้หนุ่มซันออกอาการงอนและโกรธฝ่ายหญิงที่โกหกทำผิดข้อตกลง แต่ด้วยความพยายามในการตื๊อแบบทุ่มสุดตัวหมดหน้าตักของสาวต้นหอม โดยต้นหอม กล่าวว่า “ความสัมพันธ์ตอนนี้กลับมา 80 เปอร์เซ็นต์แล้ว ถ้าเป็นนักโทษก็มีบทสรุปแล้วว่ารอลงอาญา กลับไปใช้ชีวิตตามเดิมได้แต่อย่าทำผิดซ้ำอีก อะไรที่เขาเคยบอกว่าไม่ชอบก็อย่าทำอีก ก่อนกลับไปหอมขายของไว้เยอะมากว่าจะทำโน่นทำนี่ วันนี้เขาก็เหมือนรอดูว่าสิ่งที่เราพูดทำได้หรือเปล่า อยากดูความตั้งใจจริงของเรา เพราะเขามองว่ามันคืออนาคตถ้าอยากอยู่ตรงนี้จริงๆก็ทำออกมาให้จริงๆ เขาบอกก็อยู่ที่ตัวเอง”

โดยสาวต้นหอมยังกล่าวต่อว่า สาเหตุที่มาของปัญหาคือ เขาโกรธที่หอมโกหก ชีวิตคู่บางคนมองการโกหกเป็นเรื่องที่ซีเรียสมาก แต่หอมมองว่าปล่อยให้มันผ่านไป เรื่องมันไม่มีอะไรแล้วเป็นอดีตแล้วก็โกหกไปเถอะให้มันผ่านๆ แต่เขาบอกว่าไม่ได้ มันเป็นการเริ่มต้นถ้าเกิดต่อไปในอนาคตเขาจะไว้ใจได้ยังไง ณ ตอนนี้คือซื้อความไว้ใจแค่นั้นเอง

และเมื่อนักข่าวถามว่า ข้อตกลงไหนที่เขายอมใจอ่อนกลับมาคบกันอีก สาวต้อนหอมกล่าวว่า “อืม หอมว่าเขาก็คงเบลอๆ เพราะหอมขายของทุกวัน เขาก็ยังไม่มีใคร เวลาอยู่กับหอม ก็สนุกนะ หอมเล่นตลกให้ดูด้วย ตอนแรกหอมก็ไม่ผูกมัดว่าลองอยู่ไปก่อน พออยู่ๆกลับมาสถานภาพเขาก็ยังดูแลหอมเหมือนเดิม แค่กำแพงมันยังลดลงมาไม่หมดร้อยเปอร์เซ็นต์ เขาก็ยังไม่สนิทใจมาก หอมเชื่อว่าทุกอย่างมันต้องใช้เวลา เขาก็รอเวลาพิสูจน์ดูว่าเราเป็นคนรักษาคำพูดได้ไหม”

 

 

และเมื่อถูกถามว่า ความรู้สึกที่เกือบจะสูญเสียผู้ชายคนนี้ไปเป็นยังไง สาวต้นหอมก็เปิดใจเลยว่า “มันเป็นความรู้สึกเสียดายนะ เราตามหาคนที่ใช่มาทั้งชีวิต พอไม่ใช่หอมเป็นคนความอดทนต่ำก็จะเปลี่ยนเดี๋ยวเสียเวลา แต่กับคนนี้หอมมองว่าใช่ หอมก็เทหมดหน้าตักไปแล้ว พอมันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เราเคว้งคว้างไม่รู้จะไปทางไหน เราสู้จนถึงที่สุดก่อน หอมบอกก่อนเลยว่าหอมมีหมอดูข้างกายซึ่งช่วยหอมไว้เยอะมาก ถ้าหอมไม่ดูก่อนวันที่หอมโทรไปขอคืนดีแล้วเขาบอกว่าไม่จะวางสายเลยนะ ใจหอมเสียแล้ว แต่หมอดูบอกว่ารอบนี้ยังไงก็ไม่เลิก หมอบอกว่าโทรไปหลังเย็นๆเขาจะอารมณ์ดี ตอนนี้อยู่ที่หอมเลย เขาขอคำสัญญาจากหอมว่าหอมจะไม่ทำอีก ตอนแรกโทรไปเขาบอกว่าไม่เอาแล้ว แต่หมอดูบอกว่ามันอยู่ที่เรา เราก็ฮึดขึ้นมาอีก และยื้อๆ ยื้อจนเขายอมคุยด้วย ก็ต้องขอบคุณหมอดูคนนี้”

กลัวไหมว่าจะมีเหตุการณ์ครั้งที่สองแล้วรุนแรงกว่าเดิม “หอมยังไม่เห็นข้อผิดพลาดของเขาค่ะ ข้อผิดพลาดทั้งหมดมันอยู่ที่หอม และหอมเชื่อว่าหอมควบคุมได้”

โดยยืนยันว่าหลังจากนี้จะไม่โกหกอีก “หอมจะพูดหมดโดยไม่ต้องถาม เรายื่นข้อเสนอเป็นโปรโมชั่นเลยว่า งั้นจะบอกหมดโดยไม่ต้องถาม หอมไม่มีอะไรต้องปิดบังอยู่แล้ว แต่ถ้าเราโกหกอีก ไม่ต้องรอให้เขาบอกหรอกค่ะว่าอะไรจะเกิดขึ้น รู้โดยสัญชาตญาณ ไม่กล้าทำอีกแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้มันมีจุดๆเดียวที่มุมมองเราต่างกัน หอมรู้สึกว่าเราไม่ต้องพูดทุกเรื่องหรอก เรื่องที่เราไม่อยากพูดเราก็โกหกผ่านไปก็ได้ แต่ในเมื่อวันนี้เขาโอเครับได้ทุกเรื่อง ฉะนั้นคุณอยากถามอะไรก็ถามมา เราตอบได้” เเละเมื่อถูกถามว่า กลัวไหมว่ามันจะไม่เป็นตัวของตัวเอง “มันเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น หอมน่ารักขึ้น เรียบร้อยขึ้นมันก็ดีสำหรับคนที่เป็นแฟนอยู่แล้วค่ะ”

 

 

 

 

 

 

 

นอกจากนี้สาวต้นหอม ยังไม่ขอใส่ใจ สิ่งที่อดีตคนรักอย่าง หนุ่มแทค ภรัณยู โพสต์ข้อความว่า วงจรอุบาทว์ ที่มีคนโยงว่าหมายถึงตนอีกด้วย สาวต้นหอมก็กล่าวว่า
“หอมไม่เข้าใจกับแอ็กชั่นของใครบางคนว่าทำทำไมหรืออะไร หอมว่าถามเขาดีกว่า อย่าถามหอม ห่างกันมานานมาก หอมไม่เคยไปยุ่ง ต่างคนต่างทำงาน ถ้าเขาโพสต์แล้วทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นก็ไม่เป็นไร ซึ่งคนที่หอมแคร์มีแค่คนๆเดียว ซึ่งคนที่หอมเลือกคนนี้เป็นคนที่ดีพอที่หอมยอมทั้งชีวิตเพื่อแลกคนนี้กลับมา ฉะนั้นกับคนอื่นไม่ว่าจะทำอะไร หอมไม่ซีเรียสเลยค่ะ เราไม่มีโอกาสเจอกันและเขาไม่ใช่คนที่มีความหมายในชีวิตเรา อะไรที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา หอมรู้ตัวเองดีว่าหอมเป็นคนที่ดีหรือไม่ดีในวันนั้น หอมไม่เก็บเอามาใส่ใจเลยค่ะ”

 

 

 

 

 ขอบคุณภาพจาก : Instagram djtonhorm
เรียบเรียง : วรรณนิศา ทีนิวส์