มาเสนอหรือมาช่วยใคร!?!..."จตุพร"ถกปรองดองขนเอกสาร 16หน้า เข้ากลาโหม ไม่พูดเรื่องนิรโทษ-อภัยโทษ แต่ขอให้ยกเลิกคำสั่งคสช.ทุกฉบับ??(รายละเอียด)

เพจเฟซบุ๊ก Jatuporn Prompan - จตุพร พรหมพันธุ์  ของนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้เผยถึงกรนี นายจตุพร และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขานปช. เดินทางไปยังกระทรวงกลาโหม เพื่อร่วมถกเวทีปรองดอง พร้อมนำเอกสารเพื่อยื่นขอเสนอจากทางเสื้อแดง จำนวน 16 หน้า 

เมื่อวันที่ 15 มี.ค.60 ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ในชุดคณะกรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง พร้อมคณะอนุกรรมการได้เชิญกลุ่มการเมืองเข้าเสนอแนะความคิดเห็นเพื่อสร้างความปรองดอง คือ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) โดยจะให้ข้อคิดเห็นตามกรอบ 10 ประเด็นที่คณะอนุกรรมการกำหนด

 

โดยบนเพจเฟซบุ๊ก  Jatuporn Prompan - จตุพร พรหมพันธุ์ ระบุเอาไว้ว่า...

"จตุพร ยัน! ไม่มีเสนอเรื่องนิรโทษ-อภัยโทษต่ออนุกรรมการรับฟังความเห็นฯกระทรวงกลาโหม

ด้านณัฐวุฒิชี้เสนอยกเลิกคำสั่ง ที่เกิดจากรัฐประหารทุกครั้ง ทุกฉบับ และมาตรา 44 เกรง เป็นอุปสรรคต่อปรองดอง"

___________________________________

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช. เปิดเผยภายหลังเข้าร่วมให้ข้อคิดเห็นการสร้างความสามัคคีปรองดอง ต่อคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพื่อเตรียมการสร้างความสามัคคีปรองดอง ที่กระทรวงกลาโหมในวันนี้ว่า "มั่นใจว่ากระบวนการปรองดองของป.ย.ป.จะประสบความสำเร็จ เพราะเห็นความตั้งใจของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ที่อัญเชิญพระกระแสรับสั่งของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ต้องการให้แก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้วยความสุขุม รอบคอบ

ขณะเดียวกัน เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งทางกลุ่มนปช.เห็นด้วยกับรัฐบาลโดยไม่มีการพูดถึงหรือเสนอประเด็นของเรื่องการนิรโทษกรรมและการอภัยโทษ ซึ่งเห็นว่าหากจะมีการพิจารณาในเรื่องดังกล่าวควรจะเป็นพระราชอำนาจไม่ใช่อำนาจของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม การพูดคุยหารือแนวทางปรองดองในครั้งนี้ เป็นการนำเสนอฝ่ายเดียว ไม่มีข้อโต้แย้งจากคณะอนุกรรมการแต่อย่างใด

สำหรับการเข้าหารือกับคณะอนุกรรมการในครั้งนี้ กลุ่มนปช.นำเสนอความคิดเห็น แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ คำตอบสำหรับกรอบคำถาม 10 ข้อและมุมมองเรื่องการสร้างความปรองดอง โดยยึดโยงกับข้อเท็จจริงที่ผ่านมา ภายใต้หลักการความปรองดองจะเกิดได้ด้วยการสร้างประชาธิปไตย และจัดทำเอกสารข้อเสนอแนะแนวทางปรองดองเสนอต่อคณะอนุกรรมการฯ"

ส่วนนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมปประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือนปช. กล่าวว่า

"บรรยากาศการพูดคุยเป็นไปด้วยดี นปช.ได้ตอบทุกคำถามของคณะอนุกรรมการ ซึ่งการเข้าพูดคุยในวันนี้ไม่ใช่เพราะนปช.เป็นสาเหตุหนึ่งของความขัดแย้ง แต่นปช.ถือเป็นกลุ่มการเมืองหนึ่งที่ได้รับผลจากความขัดแย้ง จึงเดินทางมาและพร้อมให้ความร่วมมือกับฝ่ายรัฐ

สำหรับการเสนอความเห็นเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดองกลุ่มนปช.นั้น เห็นว่าทุกคนควรยอมรับความจริงและแสดงเจตนาอย่างบริสุทธิ์ เพื่อร่วมกันฝ่าวิกฤตความขัดแย้งนี้ไปให้ได้

อย่างไรก็ตาม ได้เรียกร้องหลักนิติธรรมโดยขอให้ทุกฝ่ายเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่มีการเลือกปฏิบัติ ในส่วนของแกนนำนปช.ก็จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมถึงที่สุด รวมถึงไม่มีหลักประกันจากเงื่อนไขที่จะก่อให้เกิดความขัดแย้งในอนาคต เนื่องจากเห็นว่าประเทศไทยจำเป็นต้องมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มาจากอำนาจอธิปไตยของประชาชนเมื่อกระบวนการปรองดองสำเร็จลุล่วงแล้ว

นอกจากนี้ ยังมี ข้อเสนอขอให้ยกเลิกประกาศระเบียบและคำสั่งต่างๆของคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือคสช.ทุกฉบับ รวมถึงมาตรา 44 ด้วย เพราะอาจจะเป็นอุปสรรคต่อการสร้างความสามัคคีปรองดอง ซึ่งรัฐบาลและทุกกลุ่มทุกฝ่ายจะต้องสร้างความไว้วางใจต่อกัน

ทั้งนี้ ยืนยันว่าข้อเสนอทั้งหมดไม่ใช่การกดดันรัฐบาลเพื่อให้ปฏิบัติตาม เพราะเชื่อว่าเป็นไปไม่ได้ที่ข้อเสนอจะได้รับการตอบสนองตามความต้องการทั้งหมด และไม่มีฝ่ายใดที่จะต้องสูญเสียทั้งหมดเช่นกัน"

 

บรรยากาศภายในห้องรับรอง และห้องประชุมที่กระทรวงกลาโหม ในการถกเรื่องการปรองดอง ที่วันนี้เป็นคิวของ นปช. กับ คณะกรรมการบริหารราชการแผ่นดิน ตามกรอบการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.)

ในวานนี้ (15 มีนาคม 2560)

 

-----------------------------------------------------------

ภาพ-ข้อมูล FB: Jatuporn Prompan - จตุพร พรหมพันธุ์ 

ภัทราพร วโรภาสพิมาน สำนักข่าวทีนิวส์