เหม็นเบื่อนักการเมืองบางคน !?!? "ไพศาล" เดือด หลังอดีต"รมว."ท่านหนึ่งออกโรงเล่นแง่ ยกข้อกม.แจงหุ้นชินฯไม่ต้องเสียภาษี (รายละเอียด)

เหม็นเบื่อนักการเมืองบางคน !?!? "ไพศาล" เดือด หลังอดีต"รมว."ท่านหนึ่งออกโรงเล่นแง่ ยกข้อกม.แจง หุ้นชินฯไม่ต้องเสียภาษี (รายละเอียด)

เหม็นเบื่อนักการเมืองบางคน !?!? "ไพศาล" เดือด หลังอดีต"รมว."ท่านหนึ่งออกโรงเล่นแง่ ยกข้อกม.แจงหุ้นชินฯไม่ต้องเสียภาษี (รายละเอียด)

บนเฟสบุ๊ค Paisal Puechmongkol ได้แสดงควาไม่พอใจถึงกรณีที่มีนักการเมืองท่านหนึ่งออกมาชี้แจงเรื่องการเรียกเก็บภาษีหุ้นชินคอร์ป ว่าเป็นการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์จึงไม่ต้องเสียภาษี ซึ่งท่านไพศาลได้ระบุข้อความว่า 

 

"เหม็นเบื่อนักการเมืองบางคน ดูถูกคนไทยว่าโง่ ออกมาหลอกอีกแล้ว ว่า เก็บภาษีหุ้นชินไม่ได้ เพราะเป็นการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ได้รับยกเว้นภาษี 
โกหกนะครับ 

เรื่องหุ้นชินนั้นมีการซื้อขาย 2 ระยะกล่าวคือ 

ระยะที่ 1 เป็นการซื้อนอกตลาด เพื่อรวบรวมหุ้นให้ได้จำนวนมากพอที่จะขาย 

ระยะที่2 เมื่อรวบรวมหุ้นได้มากแล้ว ก็มีการขาย และในระยะนี้ก็ขายในตลาดหลักทรัพย์ 

ที่มีปัญหาค่าภาษี ไม่ได้มีปัญหาภาษีในการซื้อขายระยะที่ 2 เพราะเมื่อเป็นการซื้อขายในตลาดก็ได้รับยกเว้นภาษี ที่เป็นปัญหาคือค่าภาษี ในกรณีซื้อขายหุ้นในระยะที่ 1 

ซึ่งศาลฎีกาและศาลภาษีตัดสินตรงกันชัดเจน ว่าเป็นการซื้อขายนอกตลาดหลักทรัพย์ ใครเป็นตัวการใครเป็นตัวแทน ของหุ้นที่ซื้อขายดังกล่าว ดังนั้นตัวการจึงต้องเสียภาษี 

เพราะไม่ได้ซื้อขาย ในตลาดหลักทรัพย์ แต่เป็นการซื้อขายนอกตลาดหลักทรัพย์ 

ขอร้องเถอะครับอย่าโกหกให้ประชาชนสับสนอีกเลย"

โดยเมื่อวานที่ผ่านมา (15 มีนาคม 2560) นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ตามที่ผู้นำในรัฐบาลให้สัมภาษณ์ว่าจะมีการประเมินเรียกเก็บภาษีจาก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ให้กับกลุ่มเทมาเส็ก เมื่อวันที่ 23 ม.ค.2549 นั้น ซึ่งคงหมายถึงหุ้นจำนวน 329.2 ล้านหุ้นนั้น ขณะนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่า จะมีการประเมินภาษีจากเงินได้ส่วนใด จากธุรกรรมตอนใด และจะอาศัยกฎหมายข้อใด ซึ่งในเบื้องต้น เห็นว่า

1.เคยมีคำพิพากษาซึ่งสรุปความตอนหนึ่งได้ว่าหุ้นในชินคอร์ปจำนวนดังกล่าวที่รวมขายให้กลุ่มเทมาเส็กในปี 2549 นั้น นายทักษิณ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ บุคคลอื่นๆ เป็นเพียงผู้ถือหุ้นแทน ไม่ใช่เจ้าของหุ้น

2.การขายหุ้นดังกล่าวให้กลุ่มเทมาเส็กได้ขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ไม่ได้ขายนอกตลาด

3.ตามกฎหมายไทย เงินได้จากการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์นั้น ได้รับยกเว้นภาษีตามกฎกระทรวงฉบับที่ 126 ข้อ 23 ที่ออกตามประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ซึ่งกฎกระทรวงดังกล่าวนี้ ใช้มานานแล้ว และใช้บังคับเป็นการทั่วไปกับทุกคน ไม่มีข้อยกเว้น ดังนั้น การขายหุ้นชินคอร์ปผ่านตลาดหลักทรัพย์ก็อยู่ภายใต้กฎกระทรวงฉบับเดียวกันนี้ ตราบใดที่ไม่มีการแก้ไข และ

4.นอกจากเงินได้จากการขายหุ้นในตลาดจะได้รับยกเว้นภาษีแล้ว เงินได้จากการขายหุ้นชินคอร์ป และเงินปันผลจากหุ้นประมาณ 46,000 ล้านบาทถูกยึดตกเป็นของแผ่นดินไปตั้งแต่ 8 ปีที่แล้ว

นายนพดลกล่าวต่อว่า การขายหุ้นชินคอร์ปเกิดขึ้นมาสิบปีแล้ว ผ่านมาหลายรัฐบาล แม้แต่ท่านรองนายกรัฐมนตรีก็ยังให้สัมภาษณ์ในสื่อต่างๆ ว่า เรื่องนี้ยังไม่แน่ชัดว่าใครผิดใครถูก เพราะกรมสรรพากรระบุอาจดำเนินการไม่ได้ ตนว่าประเด็นในเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องอายุความว่าจะขาดหรือไม่ แต่ประเด็นหลักคือการขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ได้รับยกเว้นภาษีตามกฎหมาย ดังนั้น จึงไม่เข้าใจว่าจะมีการประเมินภาษีบนพื้นฐานข้อกฎหมายใด กรมสรรพากรซึ่งเป็นหน่วยงานจัดเก็บภาษีของประเทศเป็นผู้มีความรู้เรื่องกฎหมายภาษีเป็นอย่างดี ตนหวังว่าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะปฏิบัติหน้าที่โดยชอบและดำเนินการเรื่องนี้ตามกฎหมายและหลักนิติธรรม และยึดหลักความเท่าเทียมเสมอภาคกับทุกคน เชื่อว่า ถ้าทุกฝ่ายทำเช่นนั้น ก็จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับการค้าและการลงทุนในประเทศได้
 

 

 

อ้างอิงข้อมูลจาก เฟสบุ๊ค Paisal Puechmongkol

สินีนุช บรรเจิดธนากุล สำนักข่าวทีนิวส์