ยึดให้หมด!?!? "สมชาย"ออกโรงร้อง"ปปง." ติดสปีดกระชากหน้ากากไอ้โม่งจำนำข้าว จัดการให้ไวชาวประชารออยู่ (รายละเอียด)

ยึดให้หมด!?!? "สมชาย"ออกโรงร้อง"ปปง." ติดสปีดกระชากหน้ากากไอ้โม่งจำนำข้าว จัดการให้ไวชาวประชารออยู่ (รายละเอียด)

นายสมชาย แสวงการ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟสบุ๊คส่วนตัวชื่อว่า สมชาย แสวงการ ระบุว่าอยากให้ปปง.เร่งจัดการอายัดทรัพย์บรรดาอดีตนักการเมืองและไอ้โม่งที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตจำนำข้าว ฝากให้จัดการให้ไว ชาวประชารออยู่

"ทำไมปปง.แค่อายัดทรัพย์เฉพาะเสี่ยเปี๋ยงกับพวก. อยากเห็นข่าว ปปง.อายัดทรัพย์อดีตนักการเมืองในครม.และไอ้โม่งที่อยู่เบื้องหลังเเละเบื้องหน้าคดีจำนำข้าว. เร็วหน่อยครับ ปปงอย่าช้า. ชาวประชา รอฟังข่าวดีอยู่ครับ"


ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2560 มีรายงานจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ว่า ปปง.ได้ออกคำสั่งคณะกรรมการธุรกรรม ที่ ย.2/2560 ลงวันที่ 16 มกราคม 2560 เรื่องอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำผิดไว้ชั่วคราว (เพิ่มเติม) ภายหลัง ปปง. ที่มี คำสั่งอายัดทรัพย์สินฯชั่วคราว (เพิ่มเติม) ที่ ย.220/2559 เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2559 จำนวน 706 รายการพร้อมดอกผล และคำสั่งที่ ย.222/2559 ลงวันที่ 28 กันยายน 2559 อายัดทรัพยสินฯชั่วคราว จำนวน 662 รายการ พร้อมดอกผล กับรายกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวกับกับทุจริตโครงการจำนำข้าวและการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี) รวมถึงนายอภิชาต จันทรฺสกุลพร หรือ เสี่ยเปี๋ยง นักธุรกิจค้าข้าวรายใหญ่ ในโครงการรับจำนำข้าวยุครัฐบาลพรรคเพื่อไทย

ทั้งนี้ ปปง.ได้ตรวจสอบรายการธุรกรรมหรือข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลดังกล่าว รวมถึงผู้เกี่ยวข้องกับผู้กระทำผิดตามูลฐาน หรือความผิดฟอกเงินในคดีดังกล่าว พบข้อมูลเพิ่มที่เกี่ยวกับการทุจริต โครงการจำนำข้าวและการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ เป็นเจ้าของทรัพย์สิน หรือมีสิทธิครอบครองในทรัพย์สินเพิ่มเติมอีก จำนวน 2 รายการ ประกอบด้วย อสังหาริมทรัพย์ ประเภทที่ดินตามโฉนดที่ดิน ซึ่งตรวจสอบแล้วมีพฤติการณ์แห่งการกระทำอันเป็นมูลฐานตามมาตรา 3 (5) และ(15) แห่งพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542

“เนื่องจากเป็นอสังหาริมทรัพย์ ประเภทที่ดิน ผู้มีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ อาจดำเนินการทางนิติกรรมโอนเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ทางทะเบียนได้ หากมิได้ออกคำสั่งอายัด เมื่อเจ้าของและผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้มีสิทธิในทรัพย์สินดำเนินการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ้อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าว และหากต่อมาศาลได้มีคำสั่งให้ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน สำนักงาน ปปง.อาจไม่สามารถติดตามทรัพย์ดังกล่าวกลับมาคืนได้ จึงเป็นกรณีที่มีเหตุอันเชื่อได้ว่า กลุ่มบุคคลที่เกี่ยวกับการทุจริตโครงการจำนำข้าวและการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ และนายอภิชาต จันทรฺสกุลพร หรือ เสี่ยเปี๋ยง ไปได้ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำผิด และอาจมีการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าว

ทั้งนี้ คณะกรรมการธุรกรรม จึงมีคำสั่งอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำผิดชั่วคราว จำนวน 2 รายการ ประกอบด้วย

1.ที่ดินตามโฉนด เลขที่ 2722 เลขที่ดิน 887 ตำบลบางบำหรุ อำเภอบางพลัด กทม. เนื้อที่ดิน 3 ไร่ 1 งาน 64 5/10 ตารางวา ราคาประเมินประมาณ 341,125,000 บาท ผู้ถืออกรรมสิทธิ บริษัท เจริญ แลนด์ 2012 จำกัด

2. ที่ดินตามโฉนด เลขที่ 13054 เลขที่ดิน 989 ตำบลบางบำหรุ อำเภอบางพลัด กทม. เนื้อที่ดิน 1 ไร่ 3 งาน 67 5/10 ตารางวา ราคาประเมินประมาณ 132,870,000 บาท ผู้ถืออกรรมสิทธิ บริษัท เจริญ แลนด์ 2012 จำกัด

รวมทรัพย์สินที่อายัดจำนวน 2 รายการ ราคาประเมินทั้งสิ้นประมาณ 473,995,000 บาท พร้อมดอกผล มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการธุรกรรมมีมติ กล่าวคืน นับตั้งแต่วันที่ 10 มกราคม 2560- 9 เมษายน 2560

 อายัดทรัพย์สิน 2 ครั้งแรก กว่า 9 พันล้าน 1,300 รายการ

มีรายงานว่า ก่อนหน้านั้น พล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล เลขาธิการฯ ปปง. ได้มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของ บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด เพิ่มเติม อีกจำนวน 706 รายการ รวมมูลค่า 2,810,781,400 บาท (พร้อมดอกผล) มีกำหนดไม่เกิน 90 วัน นับตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย.2559 -20 ธ.ค.2559

โดยทรัพย์สินจำนวน 706 รายการ รวมมูลค่า 2,810,781,400 บาท ที่ถูกปปง.ออกคำสั่งอายัดทรัพย์เพิ่มเติมครั้งนี้ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ที่ดินจำนวน 2 รายการ ส่วนที่เหลือเป็นห้องชุด จำนวน 704 รายการ

ขณะที่ เมื่อวันที่ 28 ก.ย.2559 ปปง.ได้มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของกลุ่มบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด บริษัท สิราลัย จำกัด (ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด) นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ “เสี่ยเปี๋ยง” อดีตพ่อค้าข้าว ผู้ก่อตั้งบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด และบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับนายอภิชาติ จำนวน 662 รายการ เป็นทางการแล้ว

ทั้งนี้พบว่า รายชื่อเจ้าของทรัพย์สินรวมมูลค่าทั้งสิ้น 6,891,365,145.57 บาท ที่ถูก ปปง.ออกคำสั่งอายัดไว้ ประกอบด้วย 1. นายอภิชาต จันทร์สกุลพร 2. นางกิ่งแก้ว ลิมปิสุข 3. น.ส.ธันยพร จันทร์สกุลพร 4. น.ส.สุนีย์ จันทร์สกุลพร 5. นายธนทัต จันทร์สกุลพร 6. บริษัท สยามอินดิก้า 7. บริษัท สิราลัย (ชื่อใหม่ว่า บริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด) 8. น.ส.ศิริกันยา จันทร์สกุลพร โดยบุคคลที่มีนามสกุลเดียวกับนายอภิชาติ ถูกระบุว่าเป็นลูกและญาติพี่น้อง

ทรัพย์สินที่อายัดจำนวน 622 รายการ แยกเป็นเงินฝากในบัญชีธนาคารจำนวน 51 บัญชี มูลค่าประมาณ 921 ล้านบาท และที่ดินใน กทม. ภูเก็ต พังงา พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง จำนวน 611 รายการ มูลค่าประมาณ 5,970 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 662 รายการ รวมมูลค่าทั้งสิ้น 6,891,365,145.57 บาท

เฉพาะบัญชีของนายอภิชาต หรือเสี่ยเปี๋ยง ในครั้งนี้ 4 บัญชี ประมาณ 30 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นบัญชีของ น.ส.ธันยพร จันทร์สกุลพร เครือญาติของเสี่ยเปี๋ยง ผู้บริหารบริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด ประมาณ 100 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังพบว่า ยังมีห้องชุดคอนโดมิเนียมจำนวน 330 ยูนิต ซึ่งหนึ่งในทรัพย์สินดังกล่าว ก็คือ “คอนโดแดน ลิฟวิ่ง” ที่บริษัท ซัคเซซ เอ็นยิเนียริ่ง จำกัด ซึ่งมีนายสุรยุทธ วิไลลักษณ์” นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เป็นกรรมการบริษัท เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการจากบริษัท กีธา พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด ที่ขณะนี้กำลังอยู่ในการก่อสร้างและจำต้องหยุดชะงักเมื่อคอนโดฯ ดังกล่าวอาจถูกยึดไปด้วย อาจจะส่งผลให้ผู้บริหารรายนี้ สูญเงินไปกว่า 60 ล้านบาทในการลงทุนก่อสร้าง

ล่าสุด ปปง.อายัด จำนวน 2 รายการ ราคาประเมินทั้งสิ้นประมาณ 473,995,000 บาท รวมแล้ว ปปง.อายัด 3 ครั้งจำนวน 1,330 รายการ รวมทรัพย์สิน เครือข่ายทุจริตจำนำข้าวจีทูจี ของเสี่ยเปี๋ยง ที่ถูกอายัดแล้วจำนวน 10,176,141,545.57 บาท

 

 

 

อ้างอิงข้อมูลจาก เฟสบุ๊ค สมชาย แสวงการ