สงครามจิตวิทยาบังเกิด!!! "ไพศาล" ชี้ฝั่ง"โกตี๋" ประโคมข่าวรัฐจัดฉาก แนะเคลียร์ให้ชัด รู้ไปเลยใครเป็นต่อใครเป็นรอง (รายละเอียด)

แล้วสงครามจิตวิทยาก็เริ่มขึ้น!!! "ไพศาล" ชี้ฝั่ง"โกตี๋" ประโคมข่าวรัฐจัดฉาก แนะเคลียร์ให้ชัด รู้ไปเลยใครเป็นต่อใครเป็นรอง (รายละเอียด)

"ไพศาล พืชมงคล" อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊กถึงกรณีตำรวจเข้าตรวจค้นซึ่งเป็นบ้านพักของเครือข่ายนายวุฒิพงษ์ กชธรรมคุณ  แกนนำเสื้อแดงปทุมธานี ซึ่งพบอาวุธสงครามเป็นจำนวนมาก ว่า

" ได้เวลาที่ต้องประเมินผล ปฏิบัติการสงครามจิตวิทยา กันบ้างแล้ว
รัฐบาลจับกุมอาวุธสงครามร้ายแรงจำนวนมาก พร้อมบุคคลที่เกี่ยวข้องจำนวนหนึ่ง 
และส่วนหนึ่งก็รับสารภาพแล้ว
ในขณะที่อีกฝ่ายหนึ่งเคลื่อนไหว รณรงค์ว่า เป็นเรื่องรัฐบาลจัดฉาก 
ช่วยกันประเมินผลว่า 
ใครเป็นต่อใครเป็นรอง 
ถ้าเรื่องนี้สู้เขาไม่ได้ ใครมีหน้าที่กำกับดูแลรับผิดชอบ ก็ควรต้องถอยออกไปให้คนอื่นมาทำบ้างจะดีกว่า "

สงครามจิตวิทยาบังเกิด!!! "ไพศาล" ชี้ฝั่ง"โกตี๋" ประโคมข่าวรัฐจัดฉาก แนะเคลียร์ให้ชัด รู้ไปเลยใครเป็นต่อใครเป็นรอง (รายละเอียด)

หลังจากเมื่อวันเสาร์ ที่18 มีนาคม 2560 ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.), พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่ตำรวจ จ.ปทุมธานี บุกเข้าตรวจค้นบริษัท ไทยแม็กซ์กรุ๊ป จำกัด เลขที่ 1/1 หมู่ 6 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านปูน 2 ชั้น เนื้อที่ประมาณ 100 ตร.ว. และเป็นบ้านพักของนายโกตี๋ แกนนำเสื้อแดงปทุมธานี ตรวจค้นภายในบ้านพบระเบิดหลายชนิดจำนวนมาก, อาวุธปืนสงครามหลายชนิด, เครื่องกระสุนปืนบรรจุใส่กล่องลัง, สมุดบัญชีธนาคาร, พาสปอร์ต และเอกสารสำคัญต่างๆ อีกหลายรายการ และสามารถควบคุมตัวผู้ดูแลบ้านได้ 1 คน เป็นชาย ยังไม่ทราบรายชื่อ ส่วนตัวนายโกตี๋ เจ้าหน้าที่ไม่พบตัวตั้งแต่หลบหนีไปเมื่อหลายปีที่ผ่านมา

สงครามจิตวิทยาบังเกิด!!! "ไพศาล" ชี้ฝั่ง"โกตี๋" ประโคมข่าวรัฐจัดฉาก แนะเคลียร์ให้ชัด รู้ไปเลยใครเป็นต่อใครเป็นรอง (รายละเอียด)

พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา รอง ผบช.ภ.1 เปิดเผยว่า จากการสืบสวนหาข่าวของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง พบมีกลุ่มคนที่เป็นเครือข่ายของนายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ “โกตี๋” ผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับได้ร่วมกันวางแผนสะสมอาวุธสงครามและวัตถุระเบิด เพื่อเตรียมก่อเหตุร้ายและความไม่สงบขึ้น หากเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเข้าปิดล้อมตรวจค้นยึดพื้นที่วัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พล.ต.อ.ศรีวราห์จึงได้สั่งการให้ตรวจสอบข้อมูลจนเป็นที่แน่ชัด และเชื่อว่ามีการวางแผนที่จะลงมือกระทำความผิดจริง จึงรายงานให้กับบังคับบัญชาทราบ และได้รับคำสั่งให้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี

"บุคคลเหล่านี้เคยเข้าร่วมชุมนุมใหญ่ปี 2553 กับมวลชนคนเสื้อแดง ที่ผ่านมาโกตี๋มีความพยายามใช้โซเชียลโจมตีการทำงานของรัฐบาลและ คสช. มีการปลุกระดมให้ศิษย์วัดพระธรรมกายตอบโต้เจ้าหน้าที่ตำรวจในการเข้าค้นวัดพระธรรมกาย โดยการจัดตั้งกลุ่มมวลชนมาปะทะ และยังพบว่าผู้ต้องสงสัย 1 ใน 9 คน ที่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวเคยปรากฏตัวบริเวณวัดพระธรรมกายด้วย 

เจ้าหน้าที่จึงติดตามจนนำไปสู่การควบคุมตัว รวมทั้งยังพบการเตรียมการลอบทำร้ายผู้นำประเทศและบุคคลสำคัญประมาณช่วงเดือน ก.พ.2560 โดยใช้นามแฝง สหายหมาน้อย จัดรายการวิทยุออนไลน์สู้เพื่อสหพันธรัฐไทย เผยแพร่ผ่านยูทูบช่องไฟเย็นชาแนล ซึ่งมีเนื้อหาโจมตีการทำงานของรัฐบาล มีการเตรียมการลอบสังหาร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม และบุคคลสำคัญ" 

 

สำหรับผู้ต้องหา 9 รายที่เจ้าหน้าที่ทหารควบคุมตัวไปสอบสวน ประกอบด้วย 

1.นายธีรชัย อุตรวิเชียร อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/30 หมู่ 7 ต.ท้ายบ้าน อ.เมืองฯ จ.สมุทรปราการ 

2.นายประเทือง อ่อนละมูล อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18/2 หมู่ 8 ต.บางซ้าย อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง 

3.นางปาลิดา เรืองสุวรรณ อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 278 หมู่ 6 ถ.วิเศษศิลป์ ต.ท่าแร่ อ.เมืองฯ จ.สกลนคร 

4.นายวันไชยชนะ ครุฑไชยันต์ อายุ 56 ปี อยู่บ้านเลขที่ 209/401 หมู่ 3 ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

5.นางสาวเอมอร วัดแก้ว อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/16 หมู่ 6 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี 

6.นายทศพล เกษโกศล อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/8 หมู่ 6 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี 

7.นายอุดมชัย นพสวัสดิ์ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/33 หมู่ 1 ต.โพธิ์แตง อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา 

8.จ.ส.อ.ธนโชติ วงศ์จันทร์ชมพู อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 211/1 หมู่ 8 ต.บ้านผือ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี 

9.ว่าที่ ร.ต.สุริยศักดิ์ ฉัตรพิทักษ์กุล อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 273/275 ถ.เทศบาล ต.ในเมือง อ.เมืองฯ จ.สุรินทร์

ด้าน พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ ผกก.ตม.จว.พระนครศรีอยุธยา ในฐานะ รองโฆษก ตร. กล่าวถึงความคืบหน้าในวันนี้ (20มี.ค.60) การปฏิบัติการตรวจค้นแหล่งสะสมอาวุธสงคราม 9 จุด ในพื้นที่ 7 จังหวัด เครือข่าย นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือ “โกตี๋” แกนนำเสื้อแดงปทุมธานี ว่า ตำรวจมีพยานหลักฐานชัดเจนจึงได้ดำเนินการ ตรวจค้นและควบคุมตัวเครือข่ายนายโกตี๋ทั้ง 9 คน ซึ่งการตรวจค้นยังไม่ได้สิ้นสุด  หากการข่าวพบความเชื่อมโยงไปถึงใคร กลุ่มใด หรือพื้นที่ต้องสงสัยใด ก็ต้องดำเนินการตรวจค้นอีกครั้ง ส่วนที่มาของอาวุธปืนอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าอาวุธยุทโธปกรณ์มาจากที่ใด ใครเป็นท่อน้ำเลี้ยง ตอนนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ถ้าหากพยานหลักฐานไปโทษใครก็ต้องดำเนินการ  พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวต่อว่า อาวุธจำนวนมากที่เจ้าหน้าที่ยึดได้ ทราบว่าเป็นการสะสมมาก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่พบพิรุธแต่ต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ส่วนจะมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มเสื้อแดงบางกลุ่มหรือไม่นั้น ต้องตรวจสอบอีกครั้ง แต่ปกติโกตี๋มีความชัดเจนเรื่องจุดยืนอยู่แล้ว พร้อมกันนี้ต้องมีการตรวจสอบว่ามีกลุ่มนักการเมือง เข้ามาเกี่ยวข้องกับการขู่ลอบสังหารผู้นำประเทศ การขัดขวางการตรวจค้นวัดพระธรรมกาย หรือการสะสมอาวุธด้วยหรือไม่ ส่วนกรณีที่มีข้อสงสัยว่ากลุ่มคนดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับเหตุวินาศกรรมก่อนหน้านี้หลายครั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบแต่ส่วนตัวเชื่อว่าเจ้าหน้าที่มีการสอบสวนขยายผลอยู่แล้ว ซึ่งทั้ง 9 ราย จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการขู่สังหารผู้นำประเทศด้วยหรือไม่นั้น ขณะนี้กำลังซักถามอยู่ แต่ไม่ขอลงรายละเอียด โดยปกติเจ้าหน้าที่จะมีการซักถามทุกประเด็นอยู่แล้ว โดยทั้ง 9 คน ก็ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อทางการ เพื่อนำไปขยายผลต่อ สำหรับนายโกตี๋ เจ้าหน้าที่มีหลักฐานที่ชัดเจนอย่างหนึ่ง คือ การโพสต์ข้อความผ่านโลกโซเชี่ยลข่มขู่ว่าจะสังหารผู้นำประเทศ ซึ่งการกระทำในลักษณะนี้ ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการกระทำความผิด  ทั้งนี้พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้รายงานเรื่องดังกล่าวไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไปก่อนหน้านี้แล้ว

 

ขณะที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า พื้นที่จังหวัดปทุมธานีเป็นพื้นที่ของโกตี๋และพวกอยู่แล้ว มีการจัดตั้งกลุ่มคนและสะสมอาวุธ ซึ่งคนเหล่านี้นิยมความรุนแรง จากอาวุธปืนสงครามที่ยึดได้ โดยเฉพาะปืนติดกล้องและที่เก็บเสียงก็ชี้ชัดอยู่แล้วว่าไม่ได้ใช้ไปยิงนกแน่นอน แต่เป็นการนำไปใช้สำหรับยิงคนหรือลอบสังหารผู้นำ ซึ่งปืนบางกระบอกหายไปช่วงที่มีการชุมนุมและการปะทะเมื่อปี 2553 ตรงนี้สอดคล้องกับข้อมูลด้านการข่าวที่เจ้าหน้าที่ทำมาโดยตลอด
ผบ.ตร.ลั่นภัยความมั่นคง

"โกตี๋พยายามเคลื่อนไหวและประกาศผ่านโลกโซเชียลตลอดว่า จะมีการลอบทำร้ายผู้นำประเทศ และเป็นปรปักษ์อยู่ฝั่งตรงข้ามกับรัฐบาล ขณะเดียวกันจากการข่าวยังพบว่าโกตี๋และพวกให้การสนับสนุนวัดพระธรรมกาย กลุ่มคนเหล่านี้เป็นภัยต่อความมั่นคงทั้งนั้น ซึ่งถ้ามีการสืบสวนขยายผลไปถึงใครก็ต้องดำเนินการโดยไม่มีข้อยกเว้น" พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าว