- 21 มี.ค. 2560
จีนโกรธหลังถูกสั่งให้ห้ามปรามเกาหลีเหนือในกรณีดำเนินการทดสอบขีปนาวุธ
วันนี้ (21 มี.ค.60 ) ทางรายการทีนิวส์ สด ลึก จริง ได้รายงานข่าวจากสำนักข่าวรอยเตอร์ กรณีที่จีนมีแนวโน้มที่จะแสดงความโกรธที่ถูกสั่ง ให้ห้ามปรามเกาหลีเหนือในกรณีดำเนินการทดสอบขีปนาวุธ และทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ทางด้าน เร็กซ์ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้เดินทางเยือนกรุงปักกิ่ง ในวันนี้ เป็นครั้งแรกหลังจากเข้ารับตำแหน่ง โดยทางด้านจีนเรียกร้องให้สหรัฐฯนั้น ลดความตึงเครียดในภูมิภาคเกาหลี และ จีนยังได้แสดงออกอย่างชัดเจนในการต่อต้าน การติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธในชั้นบรรยากาศระดับสูง หรือที่เรียกกันว่า THAAD ในเกาหลีใต้
เร็กซ์ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวที่เกาหลีใต้ว่า การใช้กำลังทหารจัดการเกาหลีเหนือ ประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์ เป็นทางเลือกหนึ่งที่อยู่บนโต๊ะ หากภัยคุกคามยังเกิดขึ้นต่อเนื่อง ดูเหมือนจะเป็นการส่งสัญญาณจากสหรัฐฯ ไปยังเกาหลีเหนือ หลังจากเกาหลีเหนือทดสอบยิงขีปนาวุธเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยระบุว่าเป็นฝึกซ้อมโจมตีฐานทัพสหรัฐฯในประเทศญี่ปุ่น
โดยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยังได้กล่าวย้ำว่า นโยบายความอดทนทางยุทธศาสตร์ ของสหรัฐต่อเกาหลีเหนือ ซึ่งเป็นจุดยืนของรัฐบาลชุดเก่าภายใต้การนำของประธานาธิบดีบารัค โอบามา สิ้นสุดลงแล้วภายใต้นโยบายดังกล่าว สหรัฐฯ จะไม่ใช้กำลังทหารกับเกาหลีเหนือ จนกว่าเกาหลีเหนือจะแสดงให้เห็นชัดถึงการปลดอาวุธนิวเคลียร์ และหวังว่าความกดดันภายในประเทศที่ถูกโดดเดี่ยวจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง
ปัจจุบันกองทัพสหรัฐฯ มีทหาร 28,000 นาย ประจำการอยู่ในเกาหลีใต้ เพื่อช่วยป้องกันภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ แต่กรุงโซล เมืองหลวงเกาหลีใต้ อยู่ในระยะยิงถึงของกระสุนปืนใหญ่ของเกาหลีเหนือ และบรรดานักวิเคราะห์เชื่อว่า ความขัดแย้งใดๆ เสี่ยงต่อการลุกลามรวดเร็วและเกิดความสูญเสียมหาศาล ขณะที่ทางด้าน ประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ ได้กล่าวว่า พฤติกรรมของเกาหลีเหนือเลวร้ายอย่างยิ่งและจีนแทบไม่ช่วยอะไรเลย ซึ่งการให้ข้อมูลดังกล่าวนั้น เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจาก เร็กซ์ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศประกาศว่านโยบายอดทนกับเกาหลีเหนือสิ้นสุดลงแล้วและบ่งชี้ว่าอาจตัดสินใจใช้ปฏิบัติการทางทหารชิงลงมือก่อน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยังเรียกร้องจีน บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรกับเกาหลีเหนือ และบอกว่าไม่มีความจำเป็นที่จีนจะลงโทษเกาหลีใต้ต่อกรณีประจำการระบบต่อต้านขีปนาวุธล้ำสมัยของสหรัฐฯ เนื่องจากมันมีเป้าหมายปกป้องตนเองจากเกาหลีเหนือ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวว่าการเจรจาเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาของคาบสมุทรเกาหลี เกาหลีเหนือจึงได้ดำเนินการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์สองครั้งและมีการเปิดตัวขีปนาวุธชุดหนึ่งนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา และเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นทางด้านเกาหลีเหนือยังได้ทดลองยิงขีปนาวุธอีก 4 ลูก และยอมรับว่ากำลังซ้อมเพื่อถล่มเป้าหมายคือฐานทัพสหรัฐฯ ในประเทศญี่ปุ่น
ทางด้านสหรัฐฯ ก็ได้กดดันจีน เพื่อทำอะไรมากขึ้นเพื่อยุติโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือจีนได้เรียกร้องให้ใช้แนวทางแบบคู่ขนานเพื่อกระตุ้นให้เกาหลีเหนือระงับการทดสอบและสหรัฐฯและเกาหลีใต้ระงับการฝึกซ้อมรบทางทหารเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสามารถกลับไปเจรจาได้
ขณะที่หนังสือพิมพ์ โกลบอลไทม์ ได้เขียนบทบรรณาธิการว่าประเด็นปัญหานิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเกิดจากการเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐฯ กับ เกาหลีเหนือ ประเทศจีนไม่มีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องนี้ จีนมองว่าระบบป้องกันขีปนาวุธในบรรยากาศชั้นสูง (Terminal High Altitude Area Defense - THAAD) เป็นภัยคุกคามความมั่นคงของพวกเขา
เร็กซ์ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้เดินทางเยือนกรุงปักกิ่ง ของประเทศจีน ระหว่างวันเสาร์ถึงวันอาทิตย์นี้ ซึ่งเป็นจุดหมายสุดท้ายของการเดินสายเยือนกลุ่มประเทศในเอเชียตะวันออกตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ โดยเริ่มจากการเยือนญี่ปุ่นเป็นประเทศแรก ตามด้วยเกาหลีใต้ การเยือนจีนของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ครั้งนี้ ถูกจับตามองเป็นอย่างยิ่งเป็นบททดสอบสำคัญที่สุดของ เร็กซ์ทิลเลอร์สัน ซึ่งไม่มีประสบการณ์ด้านการทูตมาก่อน จากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ ส่งสัญญาณมาระยะหนึ่งแล้วว่า สหรัฐฯจะไม่อดทนต่อเกาหลีเหนือ อีกต่อไป ซึ่งเกาหลีเหนือนั้นได้รับการปกป้องจากจีนมาโดยตลอด
ก่อนหน้านี้เร็กซ์ทิลเลอร์สัน ได้กล่าวที่เกาหลีใต้ว่า นโยบายทางทหาร เป็นส่วนหนึ่งที่สหรัฐฯ จะใช้ปกป้องเกาหลีใต้ ที่เป็นพันธมิตร มายาวนาน หากว่าสถานการณ์คาบสมุทรเกาหลีมีความรุนแรงมากขึ้นจากการกระทำของเกาเหลีเหนือ จีนเป็นประเทศผู้อุปถัมภ์รายสำคัญที่สุดของเกาหลีเหนือ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากจีนจะอยู่คนล่ะฝั่งกับสหรัฐฯ ต่อสถานการณ์บนคาบสมุทรเกาหลี แม้การแสดงออกของเกาหลีเหนือในยุคของนายคิม จอง อึน จะสร้างความความไม่พอใจให้กับจีนบ้าง จากที่ล่าสุดคือการทดสอบขีปนาวุธพิสัยใกล้ 4 ลูก เปิดโอกาสให้สหรัฐเริ่มการติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ THAAD ในเกาหลีใต้ทันที ทำให้จีนนั้นไม่พอใจอย่างยิ่ง และเป็นประเด็นสำคัญที่หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน หยิบยกขึ้นมาหารือกับทางเร็กซ์ทิลเลอร์สัน สองฝ่ายมีมุมมองและความรู้สึกร่วมกันว่าขณะนี้ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีค่อนข้างสูง สหรัฐฯและจีนจะทำงานร่วมกันเพื่อดูว่าจะทำอย่างไรที่จะให้รัฐบาลเกาหลีเหนือเปลี่ยนมาคิดให้ถูกต้อง และละทิ้งโครงการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ของตน ด้านนายหวัง อี้ แสดงความคาดหวังว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะสหรัฐฯ จะสามารถประเมินสถานการณ์ได้อย่างครอบคลุมและมีสติเพื่อที่จะตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด ท่าทีของรัฐมนตรีต่างประเทศจีนและสหรัฐฯ ล่าสุดนี้ถือว่าเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น เมื่อพิจารณาจากความตึงเครียดที่มีก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดีทั้งรัฐมนตรีต่างประเทศทั้งสองไม่ได้ระบุว่าขั้นตอนความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมระหว่างกันหลังจากนี้คืออะไร และ เร็กซ์ทิลเลอร์สัน ก็ไม่ได้สนับสนุนข้อเสนอของจีนที่จะให้กลับสู่โต๊ะเจรจากับเกาหลีเหนือ
กรณีเกาหลีเหนือได้ทำการทดสอบเครื่องยนต์แรงขับแบบใหม่ที่สถานีปล่อยจรวด ตงจาง-รี โดยผู้นำ คิมจองอึน กล่าวว่าการทดสอบที่ประสบความสำเร็จคือ "การเกิดใหม่" ของอุตสาหกรรมจรวดของเกาหลีเหนือ เครื่องยนต์จะช่วยให้เกาหลีเหนือสามารถบรรลุความสามารถในการเปิดตัวดาวเทียมระดับโลกได้ สื่อKCNA กล่าวว่าการทดสอบนี้เป็นการทดสอบจรวดชนิดใหม่สำหรับขีปนาวุธระยะไกล
สหรัฐฯและจีนให้คำมั่นว่าจะทำงานร่วมกันเพื่อทำให้ "ทางเลือกที่แตกต่างออกไป" โดยจะให้ทางเกาหลีเหนือ นั้นยุติโครงการอาวุธหลังจากที่ เร็กซ์ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้พบหารือกับทางด้าน นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน เมื่อวันเสาร์เกาหลีเหนือได้ดำเนินการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ 5 ครั้งและมีการเปิดตัวขีปนาวุธจำนวนหนึ่งเพื่อต่อต้านการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ โดยผู้เชี่ยวชาญ เชื่อว่าเกาหลีเหนือเองปัจจุบันนี้สามารถพัฒนาจรวดขีปนาวุธนิวเคลียร์ซึ่งสามารถเข้ายิงถึงประเทศสหรัฐอเมริกาได้ ทางด้านนายคิมจอง อึนได้กล่าวว่าเกาหลีเหนือใกล้กับการเปิดตัวขีปนาวุธนำวิถีพิสัยไกลระหว่างทวีป ขณะที่ทางด้านกองทัพเกาหลีใต้ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว
ขณะที่มีรายงานข่าวว่า ทางด้านสหรัฐฯ นั้นได้เปิดเผยภาพถ่ายจากดาวเทียมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ให้เห็นว่า ทางด้านเกาหลีเหนือได้เตรียม รถถังจำนวน 38 คัน ติดตั้งเครื่องยนต์ขนามดใหญ่ในแนวตั้งซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าเป็นการเตรียมสำหรับการทดสอบเครื่องยนต์จรวดดังกล่าว