ข้าราชการจงฟัง!! "พล.อ.ประยุทธ์" ฝากข้าราชการไทย ต้องยึดมั่นคุณธรรม....ย้ำ จำคำนี้ไว้ คนทำผิดต้องเข้าสู่"กระบวนการยุติธรรม" (รายละเอียด)

ข้าราชการจงฟัง!! "พล.อ.ประยุทธ์" ฝากข้าราชการไทย ต้องยึดมั่นคุณธรรม....ย้ำ จำคำนี้ไว้ คนทำผิดต้องเข้าสู่"กระบวนการยุติธรรม" (รายละเอียด)

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เปิดกล่าวแกลงขอข้าราชการทำให้ทุกคนในองค์กรมีคุณธรรม ย้ำคนทำผิด ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

วันที่ 31 มีนาคม 2560 พล.อ.ประยุทธ์ ได้แถลงว่า วันนี้ข้าราชการต้องทำงานเป็นข้าราชการ 4.0 ตนเชื่อมั่นว่าข้าราชการทุกคนมีคุณธรรมรู้ว่าอะไรดีไม่ดี แต่ท่านที่ได้รับรางวัลวันนี้ ต้องทำให้ทุกคนมีคุณธรรมทั้งองค์กรด้วย จึงจะเรียกว่ามีจริยธรรมทั้งองค์กร ต้องมีส่วนร่วมในการได้เสีย แต่เรื่องเงินทองขออย่าไปคิดถึง หากเรามีรายได้ประเทศเข้ามา เงินเดือนของข้าราชการก็จะดีขึ้น ซึ่งตนก็รู้ดีว่าทุกคนต้องการเช่นนั้น แต่ถ้าเรายังพันอยู่กับปัญหาเดิมๆ ก็จะเดินไปข้างหน้าไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ ข่าววันนี้ทุกหน้ายุ่งแต่เรื่องความขัดแย้ง ในขณะที่หนังสือพิมพ์ต่างประเทศเขาลงอะไรบ้างในแต่ละวัน ลองเปรียบเทียบกันดู เพราะเขารู้ว่าถ้าเขาลงเรื่องอะไรที่เป็นผลลบ ข่าวย่อมไปที่อื่นด้วย แต่ไม่ใช่เราต้องการจะเปิดกั้นอะไรทั้งสิ้น หากต้องคำนึงถึงผลเสีย และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นด้วย จึงขอฝากเรื่องนี้ไว้ด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สิ่งสำคัญคือเรื่องการทุจริตความไม่โปร่งใส จะต้องแก้ไขให้ได้ ถือเป็นวาระของชาติ ใครทำผิดก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ขอให้จำคำพูดของตนไว้ ตนต้องการแค่นั้น ไม่เช่นนั้นกฎหมายที่มีจะไร้ค่า คงไม่ต้องมีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ให้เป็นแบบนั้นไม่ได้ โดยต้องแก้ไขกฎหมายให้ทันสมัย และต้องมุ่งว่าประชาชนจะได้อะไรจากกฎหมายฉบับนั้น อย่าหวังแต่เพียงให้ข้าราชการทำงานได้แต่ประชาชนเดือดร้อน อย่าลืมว่ากฎหมายทุกฉบับมีความสุ่มเสี่ยงไปละเมิดสิทธิมนุษยชน เช่นกรณีการเป็นเจ้าของที่ดินทั้งประเทศ หากเราจะเอาที่ดินมาทำผังเมืองมาใช้ประโยชน์ ก็ต้องสร้างความพึงพอใจให้เขาว่าเขาจะได้อะไร อย่าใช้อำนาจตามที่รัฐบาลสั่งอย่างเดียว เพราะจะสร้างปัญหาตามมาอีกเยอะ แล้วต้องคอยตามแก้กันอีก
 
“วันนี้หลายคนอาจจะคิดว่าผมพูดเยอะ แต่ก็ต้องพูด เพราะอยากให้รู้ว่าผมคิดอะไร ถ้าผมไม่คิดไม่พูด ทุกคนก็จะมองว่าผมมีอำนาจมีผลประโยชน์ ซึ่งผมไม่ต้องการคำเหล่านี้เลย อำนาจนี้เป็นของประชาชนที่ให้กับเรา ไปทำอะไรเพื่อพวกเขา โดยเขามีความคาดหวัง ซึ่งแววตาเขาเป็นเช่นนั้นกับทุกรัฐบาล ผมเชื่อเช่นนั้น เขาคาดหวังว่าคนนี้คนนั้นจะทำอะไรให้ ซึ่งวันนี้เขาอาจคาดหวังมากหน่อย เราจะทำอย่างไรถึงจะไม่กลับไปที่เดิม ประชาธิปไตยจะไม่เป็นแบบเดิม ที่ไม่มีธรรมาภิบาล นั่นคือภารกิจของพวกท่าน ซึ่งผมช่วยอะไรไม่ได้ เพราะเป็นกระบวนการประชาธิปไตย แต่ต้องเป็นประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ท่านรู้ปัญหาดี ทั้งนี้ข้าราชการทำงานต้องมีการสังเกต แต่ไม่ใช่การจับผิด” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นอกจากนี้ เรามีการสร้างสรรค์ และจัดระบบราชการตั้งแต่สมัยร.7 จนถึงปัจจุบัน ทุกคนมีส่วนร่วมในการพัฒนาบ้านเมือง จนทำให้ประเทศมีความสงบเรียบร้อย และวันนี้ตนก็ถือเป็นข้าราชการคนหนึ่งในฐานะข้าราชการการเมือง จึงถือว่าคำว่าข้าราชการมีความสำคัญที่สุดในชีวิต ถือเป็นความภาคภูมิใจ เกียรติยศศักดิ์ศรี ผู้ที่ได้รับรางวัลต้องถือว่าเป็นรางวัลที่ทรงเกียรติ ปัจจุบันประเทศไทยมีความจำเป็นที่ต้องพัฒนา และปฏิรูปเป็นช่วงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลง ซึ่งผู้นำในการเปลี่ยนแปลงนั้น ไม่พ้นคนที่เป็นข้าราชการ ดังนั้นเราต้องเตรียมพร้อมในการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลก ถือเป็นความท้าทายของข้าราชการทุกคน ในการเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ลดความขัดแย้งระหว่างประชาชนกับเจ้าหน้าที่รัฐ ทำอย่างไรประชาชนจะเชื่อมั่นกฎหมาย และไว้ใจกระบวนการยุติธรรม ตนคนเดียวไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ แม้รัฐบาลจะเป็นผู้กำหนดนโยบาย หรือคาบเกี่ยวในการปฏิบัติบ้าง แต่ยืนยันว่าตนไม่ได้ไปจำกัดแนวคิดหรือวิสัยทัศน์ของข้าราชการ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอให้ข้าราชการทุกคนนำกระแสพระราชดำรัสในหลวงรัชกาลที่ 9 มาเป็นแนวปฏิบัติในการขับเคลื่อนประเทศ โดยเฉพาะปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง วันนี้เราต้องลดความขัดแย้งระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับประชาชนให้มากที่สุด เราต้องทำให้ความพยายามบังคับใช้กฎหมายน้อยที่สุด โดยไม่มีใครทำผิดกฎหมาย ไม่เช่นนั้นทุกคนจะเสพติดอำนาจ เสพติดกับกฎหมาย เสพติดกับการฝ่าฝืนกฎหมาย จากนั้นก็เกิดการกระทบกระทั่ง และหวาดระแวงเจ้าหน้าที่รัฐ เราต้องหาวิธีให้ประชาชนรู้ว่าควรอยู่อย่างไร เจ้าหน้าที่ก็จะงานไม่หนัก และไม่นำไปสู่การทุจริตเรียกรับผลประโยชน์ ทุกอย่างคือการทำให้บ้านเมืองสงบสุข จึงขอให้ข้าราชการทุกคนยึดหลักเหล่านี้ในการทำงาน ทำให้ประเทศเดินหน้าอย่างสมบูรณ์ ไม่เช่นนั้นถ้าประชาชนขาดความเข้าใจ ก็จะทำให้เกิดความคิดที่ว่ารัฐบาลนี้มุ่งแต่จะเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจ โดยไม่ดูแลประชาชนผู้มีรายได้น้อย ไม่ต้องลงทุนเพราะมีคนจนมาก เอาเงินมาดูแลคนจนไม่ดีกว่าหรือ ถามว่าถ้าคิดแบบนี้จะเป็นการกินตัวเองไปอีกนานเท่าไร

"ชอบหรือไม่ชอบ ใช่หรือไม่ใช่ ก็วนกันอยู่แค่นี้ปิดตัวเองอยู่ตรงนี้จนขับเคลื่อน หรือทำงานไม่ได้ ติดด้วยกฎหมาย ติดด้วยวัฒนธรรมองค์กรของตัวเอง ที่เป็นปัญหา ของพวกเรา ไม่ใช่ข้อบกพร่อง แต่อยู่ที่การปรับเปลี่ยนตัวเอง อยู่ที่ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนตัวเองหรือไม่ และต้องทำงานในการบูรณการ ขอให้ข้าราชการทุกคนกลับไปคิดว่าทำอย่างไร จะให้สำเร็จตามที่สถาบันพระมหากษัตริย์คาดหวัง ซึ่งท่านทรงคาดหวังอย่างเดียวคือประชาชนมีความสุข ดังนั้นทุกคนจะต้องทำงานตามที่ทรงคาดหวังให้ได้มากที่สุด เพราะทุกคนคือข้าราชการ "นายกฯ กล่าว

นอกจากนี้ยังกล่าวอีกว่า "เข้ามาเป็นนายกฯ จะครบ 3 ปี ในเดือนพ.ค. นี้ ผมไม่เคยที่จะหยุดคิดแม้แต่วันเดียว ไม่เคยหยุดกำกับดูแล จึงนึกทุกเรื่องได้ออกว่าพูดและสั่งอะไรไปบ้างแล้ว จากนั้นก็มาตามในครม. โดยมีรองนายกฯ และครม. ช่วยในการทำงาน แต่คนที่ขับเคลื่อนคือข้าราชการ วันนี้อย่าให้ประชาชนว่าได้ว่านายกฯ รัฐบาลก็พูดไป แต่ไม่เกิดอะไรขึ้นมาดีแต่พูด ผมไม่อยากให้เกิดคำนี้เท่านั้นเอง ทุกคนทำดีอยู่แล้ว แต่ขอให้ทำมากขึ้นกว่าเดิม อย่าให้มีการพูดจาดูหมิ่นเราได้อีกต่อไป ด้วยความไม่ไว้เนื้อเชื้อใจ ยอมรับว่าเห็นใจ มีหลายอย่างที่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมของบางคน เพราะคนไม่ดีมันก็มีทุกที่ เราต้องทำให้คนไม่ดีเหล่านั้นกลับมาเป็นคนดี แม้จะขจัดไม่ได้ทั้งหมด ต้องไม่ปล่อยให้สร้างความเดือดร้อนต่อสังคม สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ รับสั่งกับสังคมว่า ถ้าเราไม่พูดจา ไม่คบกับคนไม่ดีเลย เขาก็จะไม่ดีไปเรื่อย ๆ เราต้องคบและหาเรื่องคุย ปรับทุกข์ให้เขา เติมความดี หาความดีจนเขากลับขึ้นมาดี ถ้าปล่อยทำไม่รู้ไม่ชี้ก็จะทำให้เสียทั้งตัวเขา และองค์กร รวมถึงประเทศ สังคม และวัฒนธรรม สำคัญที่สุด ต้องเปลี่ยนแปลงปรับปรุงไปด้วยกัน ตั้งแต่นาย และลูกน้อง ทุกอย่างจึงจะสำเร็จ"