เดินหน้าฟ้อง อีกระรอก!! เหยื่อรถยนต์ฟอร์ดกว่า 400 คัน ส่งทนายยื่นฟ้องศาล เผยร้องหน่วยงานรัฐคดีไม่คืบหน้า

         วันนี้ (3 เมษายน 2560) เวลา 10.00 น. ที่บริเวณด้านหน้าศาลแพ่งกรุงเทพใต้ นายเกรียงไกร นาควะรี ทนายความ นำกลุ่มเหยื่อรถยนต์ฟอร์ด กว่า 50 คน ซึ่งเป็นตัวแทนผู้เสียหายจากการใช้รถยนต์ฟอร์ด รุ่นเฟียสต้าและรุ่นโฟกัส ทั้งหมด 400 คัน เป็นโจทย์ยื่นฟ้องศาลแพ่ง เพื่อสู้คดีกับ บริษัท ฟอร์ด เซลส์ แอนด์ เซอร์วิส (ประเทศไทย) จำกัด เนื่องจากจำหน่ายรถยนต์ไร้มาตรฐาน ไม่เป็นไปตามคำโฆษณา และทำให้ผู้บริโภคเสี่ยงอันตราย
         ​นายกอร์ปศักดิ์ นุ่มน้อย แกนนำกลุ่มผู้เสียหายจากการใช้รถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด รุ่นเฟียสต้า กล่าวว่า เหตุผลที่ตนเดินทางมาวันนี้ เพื่อขอให้ศาลคุ้มครองและรับฟ้องเป็นคดีแบบกลุ่ม กรณีที่บริษัทฟอร์ดจำหน่ายรถยนต์ไม่ได้มาตรฐาน ไม่เป็นไปตามคำโฆษณา ทำให้ผู้บริโภคเดือดร้อน ประสบปัญหาในการใช้รถยนต์ เช่น ไฟไหม้ห้องเครื่องและตัวรถ ปัญหาระบบเกียร์ รถสั่น กระตุก กระชาก เร่งไม่ขึ้น เครื่องร้อน และมีเสียงดังผิดปกติจากเครื่องยนต์ และปัญหาชิ้นส่วนอื่น ๆ ของรถยนต์เสื่อมสภาพและชำรุดเสียหายเร็วกว่าปกติ   เมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่นทั่วไป เช่น พวงมาลัย เบรก สายพาน หม้อน้ำ โช๊ค หรือแม้แต่ประตูรถเปิดออกเองในขณะขับขี่ ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ใช้รถฟอร์ดทั้งสองรุ่นประสบปัญหารถยนต์ชำรุดบกพร่องในลักษณะเดียวกันเป็นจำนวนมาก ผู้บริโภคที่ประสบปัญหาจึงรวมตัวกันเพื่อฟ้องร้ององค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งหากศาลแพ่งรับฟ้องคดีนี้ให้เป็นการดำเนินคดีแบบกลุ่ม ก็จะถือเป็นคดีแบบกลุ่มคดีแรกของประเทศไทย   “ผู้บริโภคต้องทนทุกข์กับการต่อสู้มากว่า 3 ปี พวกเราเดือดร้อนกันมาก หลายครั้งที่เดินทางไปร้องเรียนตามหน่วยงานต่างๆ ทำให้ต้องเสียงาน เดือดร้อนในการเดินทางหลายรอบ ทั้งที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์สำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุสาหกรรม และกรมการขนส่งทางบก แต่จนถึงขณะนี้ก็ไม่มีความคืบหน้าที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรม เราเกรงว่าความล่าช้าของหน่วยงานราชการอาจเปิดช่องให้ทางบริษัทใช้เป็นเครื่องมือในการประวิงเวลาให้รถพ้นระยะประกัน หรือคดีขาดอายุความ เราจึงต้องหันไปพึ่งทนายความเอกชน การต่อสู้หลังจากนี้ต้องพึ่งอำนาจศาล คงใช้วิธีไกล่เกลี่ยไม่ได้แล้ว เพราะที่ผ่านมา ทางบริษัทไม่เคยยอมเจรจากับพวกเราที่เป็นผู้เดือดร้อนโดยตรงเลย ต่อจากนี้คงต้องให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม เราเชื่อว่ากระบวนการยุติธรรมจะเห็นถึง

       ความเดือนร้อนของประชาชน และศาลจะคุ้มครองโดยรับเป็นคดีแบบกลุ่ม เพื่อความรวดเร็วในการพิจารณา ช่วยให้พวกเราไม่ต้องแบกภาระหนักในการต่อสู้คดีที่พวกเราเป็นผู้เสียหาย และหากศาลมีคำพิพากษาคดีแบบกลุ่ม คำพิพากษานั้นก็จะมีผลคุ้มครองผู้เดือดร้อนจากการใช้สินค้าตัวเดียวกันนี้อย่างทั่วถึงด้วย” นายกอร์ปศักดิ์ กล่าว
​   ส่วนด้าน นางพรภิมล ตั้งชัยสิน  ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ตนได้ทำตามข้อเสนอของบริษัทฟอร์ด โดยยอมเอารถเข้าเปลี่ยนชุดคลัตช์เกียร์มาแล้วถึง 4 รอบ แต่ก็ยังเกิดปัญหาเดิมๆ เช่น เสียงเครื่องยนต์ดัง สั่น กระตุกจนพุ่งไปชนคันอื่น จนไม่กล้าขับรถไปไหน เพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัย โดยล่าสุดทางฟอร์ดแจ้งให้ตนนำรถไปเปลี่ยนชุดคลัตช์เกียร์อีกรอบ แต่ไม่อยากเปลี่ยนแล้ว ด้วยเกรงว่าต่อให้เปลี่ยนไปก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหา อีกทั้งเวลานำรถเข้าศูนย์ แม้จะมีประกันเปลี่ยนคลัตช์ฟรี แต่ลูกค้ามักต้องเสียเงินเพิ่มสำหรับส่วนต่างหรืออุปกรณ์เสริมเอง  ทั้งที่ปกติควรจะใช้งานได้นานกว่านี้  
    “เงื่อนไขการนำรถเข้าซ่อมของฟอร์ด หรือมาตรการคุ้มครองของหน่วยงานต่างๆ ที่ผ่านมาไม่เป็นผลดีต่อผู้บริโภค จึงต้องเลือกการฟ้องศาลในครั้งนี้ ซึ่งผลจะออกมาอย่างไรก็ต้องยอมรับ ในต่างประเทศ เช่น อเมริกา แคนาดา ออสเตรเลีย ผู้ใช้รถฟอร์ดรุ่นเดียวกันนี้ก็ประสบปัญหาแบบเดียวกับในเมืองไทย และใช้วิธีฟ้องศาลตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคจากสินค้าที่ชำรุดบกพร่องจากการผลิต โดยเป็นการฟ้องเดี่ยว ชนะมาแล้วกว่าพันราย ฟอร์ดรับซื้อคืนทั้งหมดและชดใช้ค่าเสียโอกาสด้วย ส่วนในไทย ก็เคยมีการฟ้องเดี่ยวแล้วชนะ จึงมั่นใจว่าหลังจากนี้ ผู้ใช้รถฟอร์ดที่เดือดร้อนจะได้รับความเป็นธรรม” นางพรภิมล กล่าว