ภารกิจดิสเครดิต !?!? จี้ ปลดล็อค - เลิก ม.44 ลดความชอบธรรม... เกมการเมืองที่ คสช.ต้องระวังหลังมี รธน.

“บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ย้ำชัดเจนมาโดยตลอด ว่าถึงอย่างไร คสช.จะยังไม่เปิดให้พรรคการเมือง นักการเมือง ทำกิจกรรมทางการเมืองได้ อย่างน้องก็ตอนนี้ ตอนที่ คสช.ยังกังวลเรื่องของความสงบเรียบร้อยในบ้านเมือง จึงไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวายขึ้น
แม้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่มีผลประกาศใช้อย่างเป็นทางเมื่อวันที่ 6 เมษายน ที่ผ่านมา แต่ “บิ๊กตู่” ยังคงย้ำเช่นเดิม ว่ามีหลายขั้นตอนกว่าจะถึงเวลาเดินหน้า เพื่อนำไปสู่การปลดล็อคอนุญาตให้พรรคการเมืองทำกิจกรรมทางการเมืองได้ ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการจัดทำ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 4 ฉบับ ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง ทั้ง พ.ร.บ.พรรคการเมือง ,ส.ส. ,ส.ว. ,กกต. ที่สำคัญคือต้องการให้แล้วเสร็จพระราชพิธีสำคัญ อย่างพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวง ร.9 และพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก เสียก่อน
 

ความเป็นไปของการเมืองหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญวันนี้คือ ฝ่ายการเมืองโดยเฉพาะฝั่งพรรคเพื่อไทย(พท.) ต่างออกมาโหมโรง เรียงร้องให้รัฐบาลและ คสช.เร่งรีบปลดล็อคพรรคการเมือง โดยให้เหตุผลว่า เพื่อที่พรรคการเมืองทั้งน้อยใหญ่จะได้มีเวลาเตรียมตัวต้อนรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น เพื่อสร้างบรรยากาศความเป็นประชาธิปไตย นอกจากนี้ยังเรียกร้องใช้ “บิ๊กตู่” ยกเลิกหรืองดใช้มาตรา 44 ที่ยังคงสามารถใช้ได้แม้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะประกาศใช้แล้วก็ตาม

โดยนักการเมืองจากฝั่งพรรคเพื่อไทย(พท.) ให้เหตุผลว่า การคงอยู่ของอำนาจพิเศษอย่างมาตรา 44 นี้ เป็นปัญหาขัดต่อหลักสิทธิเสรีภาพ ซึ่งหลักสิทธิเสรีภาพนี้มีอยู่ตามรัฐธรรมนูญ และการคงอยู่ของมาตรา 44 ยังทำให้เกิดกรณีรัฐธรรมนูญซ้อนรัฐธรรมนูญ เหมือนใช้รัฐธรรมนูญ 2 ฉบับในคราวเดียวกัน จึงต้องการให้ยกเลิกมาตรา 44 หรือไม่ก็อย่าใช้หากไม่มีความจำเป็นจริงๆ
จะเห็นว่าหลังรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ประกาศใช้ มีไม่กี่สิ่งที่พรรคการเมือง นักการเมือง มองเห็นว่าเป็นประเด็นที่สามารถหยิบยกขึ้นมาเรียกร้อง เพื่อโจมตีและมีผลพลอยได้คือการดิสเครดิตรัฐบาลและคสช. ซึ่ง 2 ประเด็น อย่างการปลดล็อคพรรคการเมืองและยกเลิกมาตรา 44 ก็เป็นเครื่องมือหนึ่งในการดิสเครดิสรัฐบาลและ คสช.ได้
 

ความพยายามลดความชอบธรรมของรัฐบาลและ คสช. ในประเด็นที่ 1 คือเรียกร้องให้เปิดให้พรรคการเมืองสามารถเปิดประชุมพรรคได้ ประเด็นนี้เป็นการชี้ให้แนวร่วมเป็นว่า แม้ประเทศไทยจะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ใช้แล้ว แต่ คสช.ยังคงพยายามใช้อำนาจเผด็จการควบคุมทุกสิ่งเหมือนเช่นเคย
ส่วนประเด็นที่ 2 เรื่องเรียกร้องให้ยกเลิกมาตรา 44 ตรงนี้ชี้ให้เห็นว่า แม้ประเทศไทยจะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ใช้แล้ว กระนั้น คสช.กลับคิดอยากใช้อำนาจพิเศษเหมือนที่เคยได้ใช้ในอดีตที่ผ่านมา  
ดังนั้น หลังจากนี้รัฐบาลและ คสช.จึงต้องระมัดระวังการใช้อำนาจเป็นพิเศษ เพราะเมื่อใดที่พลาด เปิดโอกาสให้ฝั่งตรงข้ามโจมตีเล่นงาน เมื่อนั้นจะถือว่าเข้าทางฝั่งตรงข้ามทันที 
แม้รัฐบาลเองจะประกาศชัด ว่ายังไม่ถึงเวลาเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองทำกิจกรรม แต่การใช้มาตรา 44 .วันข้างหน้าจะต้องควรระวัง เพราะเกมการเมืองนี้ จะมีต่อไปอีกยาวนาน