- 17 เม.ย. 2560
รายการทีนิวส์สด ลึก จริง วันที่ 17 เม.ย.นำเสนอรายงานจาก สำนักข่าวต่างประเทศกรณีกองทัพสหรัฐฯได้ทิ้งระเบิดลูกใหญ่ถล่มเป้าหมายแหล่งกบดานกลุ่มหัวรุนแรง
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานข่าว กรณีกองทัพสหรัฐฯในอัฟกานิสถานออกแถลงการณ์ระบุว่า กองทัพสหรัฐฯได้ทิ้งระเบิดลูกใหญ่เป็นระเบิดจีบียู-43/บี(GBU-43/B)หรือฉายาเจ้าแม่ของระเบิดทั้งหมด ถล่มเป้าหมายแหล่งกบดานใต้ดินของกลุ่มหัวรุนแรงไอเอสในเขตอาชินจังหวัดนันการ์ฮาร์ประเทศอัฟกานิสถาน เมื่อเวลา 19.32 น.ของวันพฤหัสบดีที่ 13 เมษายน.ตามเวลาท้องถิ่น
น.อ.แพท ไรเดอร์ โฆษกกองทัพอากาศสหรัฐฯ แถลงว่า ระเบิดจีบียู-43/บีถือเป็นระเบิดลูกใหญ่ที่สุดที่ไม่ใช่ระเบิดนิวเคลียร์ที่ถูกนำมาใช้ในปฏิบัติการทางทหารครั้งนี้ โดยนำขึ้นเครื่องบินขนส่งแบบเอ็มซี-130
ด้านพล.อ.จอห์น นิโคลสัน ผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐฯในอัฟกานิสถาน กล่าวว่า เมื่อกองกำลังไอเอสสูญเสีย พวกเขาใช้ทั้งระเบิด บังเกอร์และอุโมงค์เพื่อปกปิดแหล่งหลบซ่อน และนายฌอนสไปเซอร์ โฆษกทำเนียบขาวแถลงว่า นี่คือใช้สรรพาวุธเพื่อทำลายอุปสรรคและสร้างความได้เปรียบในการโจมตีไอเอส
สำหรับระเบิดดังกล่าวคือ ระเบิดจีบียู-43/บี (GBU-43/B) หรือในชื่อเล่น เอ็มโอเอบี (Massive Ordnance Air Blast) และถูกเรียกขานกันว่าเป็น เจ้าแม่แห่งระเบิดทั้งหมด (Mother of all bombs) มีขนาด 21,600 ปอนด์ หรือราว 11ตัน นำวิถีโดยจีพีเอส โดยถือเป็นระเบิดที่ไม่ใช่ระเบิดนิวเคลียร์ที่มีใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ในขณะนี้
สำหรับระเบิดดังกล่าวถูกทิ้งจากเครื่องบินแบบ เอ็มซี-130 ของหน่วยปฏิบัติการพิเศษกองทัพอากาศสหรัฐฯ โดยมีเป้าหมายเพื่อทำลายอุโมงค์ใต้ดินของกลุ่มไอซิส ในเขตอะชิน มณฑลนังการ์ฮาร์ ประเทศอัฟกานิสถาน
ระเบิดจีบียู-43/บี เคยถูกนำมาใช้ในช่วงปี 2545-46 ช่วงกองทัพสหรัฐฯบุกอิรัก ตามรายงานของกองทัพสหรัฐฯระบุว่า ครั้งสุดท้ายที่มีการทดสอบระเบิดจีบียู-43/บีคือปี 2546 สามารถมองเห็นกลุ่มควันคล้ายเห็ดดอกใหญ่ในระยะไกล 32 กม
ระเบิดจีบียู-43/บี (GBU-43/B) หรือในชื่อเล่น เอ็มโอเอบี (Massive Ordnance Air Blast) ถูกเรียกขานกันว่าเป็น เจ้าแม่แห่งระเบิด (Mother of all bombs) ถูกทิ้งจากเครื่องบินแบบ เอ็มซี-130 ของหน่วยปฏิบัติการพิเศษกองทัพอากาศสหรัฐฯเมื่อวันพฤหัสบดีโดยมีเป้าหมายเพื่อทำลายอุโมงค์ใต้ดินของกลุ่มไอเอส ในเขตอะชิน
บีบีซีระบุว่าด้วยมันอยู่ในฐานะที่ไม่ใช่อาวุธนิวเคลียร์ ดังนั้นการใช้ เอ็มโอเอบี จึงไม่จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ การโจมตีครั้งนี้มีขึ้น หลังเกิดเหตุทหารในหน่วยรบพิเศษของกองทัพสหรัฐฯถูกไอเอสสังหารในจังหวัดนานกาฮาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
นาย ฌอนสไปเซอร์ โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐฯแถลงว่า การโจมตีด้วยระเบิดขนาดยักษ์ครั้งนี้มุ่งเป้าทำลายเครือข่ายอุโมงค์ใต้ดินและถ้ำที่เป็นแหล่งหลบซ่อนและเคลื่อนไหวของไอเอส ซึ่งช่องทางใต้ดินเหล่านี้ทำให้ทหารสหรัฐฯและกองกำลังอัฟกานิสถานถูกซุ่มโจมตีได้ง่าย อย่างไรก็ตาม มีการดำเนินมาตรการป้องกันไม่ให้พลเรือนต้องได้รับบาดเจ็บหรือเกิดความเสียหายจากการโจมตีต่อพื้นที่ใกล้เคียงแล้ว
ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำอัฟกานิสถานรายงานว่า พื้นที่ซึ่งสหรัฐฯโจมตีด้วยระเบิดขนาดยักษ์นั้นเป็นแถบภูเขาที่มีประชากรอาศัยอยู่น้อย ส่วนเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรายงานว่า ระเบิดได้สังหารสมาชิกของไอเอสไปจำนวนมาก ซึ่งอาจรวมถึงพี่ชายของผู้นำระดับสูงด้วย แต่ทางกองทัพสหรัฐฯยังไม่ได้ยืนยันผลการโจมตีอย่างเป็นทางการ
ทั้งนี้ ไอเอสประกาศตั้งเขตปกครองของตนในอัฟกานิสถานเมื่อเดือนมกราคม ปี 2015 โดยเป็นครั้งแรกที่มีการขยายเขตปกครองสาขาออกมานอกกลุ่มประเทศอาหรับ และถือเป็นคู่แข่งทางการเมืองสำคัญของกลุ่มตอลิบัน
เอ็มโอเอบี ยาว 9 เมตรและหนัก 9,800 กิโลกรัม(21,600 ปอนด์) นำร่องด้วยระบบจีพีเอส ถูกทิ้งจากประตูของเครื่องบินลำเลียง เอ็มซี-130 และจุดชนวนระเบิดไม่นานก่อนที่มันตกกระทบพื้น
ทั้งนี้หลัง เอ็มโอเอบี ถูกหย่อนลงจากเครื่องบินพร้อมกับแท่น จากนั้นร่มชูชีพจะทำหน้าที่กระตุกแท่นออกไป เปิดทางให้ระเบิดร่อนลงสู่เบื้องล่างอย่างมั่นคงและตรงเป้าหมายโดยครีบ 4 แฉก
ในทางทฤษฎีนั้นมันจะก่อให้เกิดคลื่นระเบิดขนาดใหญ่ ซึ่งว่ากันว่าครอบคลุมรัศมีราว 1 ไมล์(1.6 กิโลเมตร) ในทุกทิศทุกทาง อันเนื่องจากระเบิดทีเอ็นที 18,000 ปอนด์ ขณะที่ปลอกอะลูมีเนียมบางๆของระเบิดถูกออกแบบมาเพื่อให้ระเบิดมีขอบเขตทำลายล้างกว้างที่สุด
ระเบิดชนิดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อทำลายฐานทัพและอุโมงค์ใต้ดินของศัตรู มีราคาตกลูกละ 16 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเบื้องต้นมันถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ในสงครามอิรักและดำเนินการทดสอบครั้งแรกเมื่อปี 2003 ทว่ายังไม่เคยถูกใช้ในปฏิบัติการจริง จนกระทั่งล่าสุด
อย่างไรก็ตามเอ็มโอเอบี ไม่ใช่ระเบิดที่ไม่ใช่ระเบิดนิวเคลียร์หนักที่สุดของกองทัพสหรัฐฯ โดยตำแหน่งดังกล่าวเป็นของเอ็มโอพี (massive ordnance penetrator) ซึ่งมีน้ำหนัก 30,000 ปอนด์
ในส่วนของรัสเซียก็ได้พัฒนาระเบิดขนาดใหญ่ของตนเองเช่นกัน คือ Aviation Thermobaric Bomb of Increased Power (ATBIP) ซึ่งถูกขนานนามว่าเจ้าพ่อแห่งระเบิด(Father Of All Bombs) โดยมันเป็นรูปแบบระเบิดเชื้อเพลิงอากาศ
ทั้งนี้ระเบิดเชื้อเพลิงอากาศเป็นระเบิดที่ใช้ออกซิเจนจากอากาศโดยรอบเพื่อสร้างความรุนแรงของการระเบิดที่อุณหภูมิสูง ส่งผลให้เกิดแรงอัดอากาศและมวลคลื่นที่มีความรุนแรงมหาศาล
ขณะที่กระทรวงกลาโหมของอัฟกานิสถานรายงานเกี่ยวกับผลการโจมตีอุโมงค์ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มไอเอส ในเขตอาชิน ของจังหวัดนานการ์ฮาร์ ทางตะวันออกของอัฟกานิสถาน เมื่อช่วงค่ำของวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น ด้วยการที่กองทัพสหรัฐฯ ทิ้งระเบิดนำวิถีขนาดยักษ์ จีบียู-43/บี หรือ เอ็มโอเอบี ว่าสามารถสังหารผู้ต้องสงสัยเป็นสมาชิกกลุ่มไอเอสได้อย่างน้อย 36 คน และยืนกรานว่าไม่มีพลเรือนเสียชีวิต เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวแทบไม่มีพลเรือนอาศัย
ขณะที่แถลงการณ์ของกองทัพอากาศสหรัฐฯระบุว่าปฏิบัติการดังกล่าวประสบความสำเร็จอย่างงดงาม และได้รับการชื่นชมจากประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ ซึ่งเป็นผู้มอบอำนาจให้พล.อ.จอห์น นิโคลสัน ผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐฯ ประจำอัฟกานิสถาน เป็นผู้เลือกเป้าหมายและวางแผนการโจมตี โดยนายโดนัลด์ทรัมป์หารือในเรื่องนี้กับทหารระดับสูงที่เกี่ยวข้อง เมื่อปลายเดือนม.ค. ที่ผ่านมา
ด้านนายอิสมาอิล ชินวารี นายอำเภออาชิน กล่าวว่าเครื่องบินลำเลียงซี-130 ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ นำระเบิดมาทิ้งลงในบริเวณที่เชื่อว่าเป็นสถานที่กบดานของกลุ่มไอเอส อานุภาพของระเบิดก่อให้เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวและสร้างแรงสั่นสะเทือนไปทั่วบริเวณ ซึ่งมีพรมแดนติดกับแนวเทือกเขาทางตะวันตกของอัฟกานิสถาน โดยถือเป็นพื้นที่มีกลุ่มหัวรุนแรงหลบซ่อนอยู่มาก และก่อนหน้านี้สหรัฐฯมักส่งอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนเข้าไปปฏิบัติการเป็นประจำ
(ชมคลิปตั้งแต่นาทีที่ 0.20- 5.13)