มิติใหม่แห่งการเลือกตั้ง!?!? ไม่ใช่แค่ "กกต." แต่ทุกหน่วยงานต้องร่วมบูรณาการ "สมชัย" ลั่นหวั่นปมคุณ สมบัติทำการเมืองติดล็อก(มีคลิป)

       เมื่อวันที่ 17 เมษายน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงปัญหาคุณสมบัติของ กกต.ปัจจุบันหลังประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ว่า สนช.เตรียมที่จะมีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง ที่ กรธ.ได้เสนอมาจะมีประเด็นเรื่องการดำรงตำแหน่งของ กกต. และการสรรหา กกต.เพิ่มเติมให้ครบ 7 คน ตามรัฐธรรมนูญกำหนด ตนเห็นว่าการที่รัฐธรรมนูญกำหนดคุณสมบัติกรรมการองค์กรอิสระเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เป็นประเด็นสาธารณะที่ไม่ได้มีผลเฉพาะ กกต. แต่ยังกระทบองค์กรอิสระอื่นๆ ด้วย แต่ของ กกต.จะให้อยู่ต่อหรือไม่ก็แล้วแต่ สนช. ใครมีคุณสมบัติครบตามที่รัฐธรรมนูญใหม่กำหนดก็อยู่ต่อ ไม่ครบก็ไป คิดว่าทุกคนพร้อมออก พร้อมเก็บของ มีประเด็นที่เห็นว่าน่ากังวลใจในขณะนี้ ไม่ใช่เรื่องคุณสมบัติ แต่เป็นเรื่องบทเฉพาะกาลของร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย กกต.กำหนดไว้ว่า เมื่อกฎหมายมีผลใช้บังคับให้คณะกรรมการสรรหาพิจารณาวินิจฉัยว่า กกต.ปัจจุบันใครขาดคุณสมบัติ ซึ่งเมื่อพบก็ให้พ้นจากตำแหน่ง เป็นการพ้นในทันที เช่น วินิจฉัยวันนี้ก็พ้นจากตำแหน่งในวันต่อไปเลย และคำสั่งถือเป็นที่สุด ตรงนี้จะทำให้เกิดการติดล็อกของระบบการเมืองไทยทั้งประเทศหรือไม่
    
         ส่วนทางด้าน นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์นั้นได้กล่าวถึง พ.ร.ป.กกต.เรื่องการกำหนดให้มีผู้ตรวจการเลือกตั้งว่า เป็นแนวทางการทำงานของ กกต. ตนเองก็สนับสนุน กกต.จังหวัดเป็นจุดอ่อนเพราะการอยู่แบบมีวาระ รู้ตัวกันตั้งแต่ต้น  ผู้เล่นกับกรรมการก็จะมีความคุ้นเคยกัน หากมีการเปลี่ยนมีใช้เป็นแบบผู้ตรวจการเลือกตั้งก็จะสามารถสับเปลี่ยนเอาคนนอกพื้นที่เข้ามาสอดส่องสืบสวนในพื้นที่ ก็จะเป็นแนวทางที่ดีแต่ต้องทำงานสอดคล้องกับในพื้นที่และส่วนกลางได้ด้วย ส่วนรายละเอียดว่าจะใช้วิธีสรรหาหรือเลือกหรืออะไรก็แล้วแต่ก็คงต้องไปว่ากันในชั้นสนช. แต่คิดว่าแนวคิดนี้ใช้ได้ ใน กกต.ชุดแรก มี กกต.ท่านหนึ่งที่ใช้แนวคิดนี้และการทำงานค่อนข้างได้ผลในการไปรวบรวมข้อมูลในพื้นที่ ส่วนการทำงานตนเองก็ไม่แน่ใจว่าหากมีระบบนี้เกิดขึ้นแล้ว กกต.จังหวัดจะไปทำหน้าที่อะไร แต่เท่าที่ดูก็คิดว่ากกต.จังหวัดน่าจะไปทำหน้าที่เฉพาะการรณรงค์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิในการเลือกตั้งและการบริหารจัดการการเลือกตั้ง  แต่ในแง่การพิจารณารวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตการเลือกตั้งก็ให้เป็นหน้าที่ของผู้ตรวจการเลือกตั้ง