มาไวเคลมไว! "พระพุทธะอิสระ" แซะสกิดต่อมให้เจ็บเล่น "ผู้การคัมภีร์" หัวหน้าม็อบครึ่งแดด มาผิดที่ผิดเวลา เลยโดนต้อนส่งกลับบ้านก่อนเวลาอันควร

"พระพุทธะอิสระ" แซะสกิดต่อมให้เจ็บเล่น "ผู้การคัมภีร์" หัวหน้าม็อบครึ่งแดด มาผิดที่ผิดเวลา เลยโดนต้อนส่งกลับบ้านก่อนเวลาอันควร

ออกมาเคลื่อนไหวอยู่เรื่อยๆ สำหรับพระพุทธะอิสระ ที่ล่าสุด วันที่ 21 เมษายน 2560 ก็ได้ออกมาโพสต์ถึง น.อ.(พิเศษ) คัมภีร์ คัมภีรญาณนนท์ หรือ ผู้การคัมภีร์ โดยระบุว่า  "มาแล้ว “ม็อบคนจน” (เจ้าเก่า) แต่มาผิดที่ผิดเวลา เลยโดนต้อนขึ้นรถตู้ สน.ดุสิต ส่งกลับบ้านเป็นที่เรียบร้อย งานนี้ “ลุงตู่” และ “ลุงป้อม” คงต้องทำการสังคายนา “หน่วยงานการข่าว” เพราะไม่มีใครรู้เลยว่า จะมีม็อบคนจนบุกกรุงเทพฯ หลังสงกรานต์ จู่ๆ เช้าวันที่ 17 เม.ย.2560 ทีมงาน “เปี๊ยก บ้านโป่ง” ผู้ยิ่งใหญ่แห่งซอยบุปผาสวรรค์ ที่ได้รับการติดต่อว่าจ้างจากนายทหารอากาศคนหนึ่งให้มาติดตั้งเวทีบริเวณ ถ.นครปฐม ด้านหน้าวัดเบญจมบพิตรฯ เพื่อรองรับกลุ่มเกษตรกรอีสาน ที่จะมาปักหลักพักค้างเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คืนอำนาจให้ประชาชน และจัดให้มีการเลือกตั้งโดยเร็ว
องค์กรนำม็อบคนจนคราวนี้คือ "กลุ่มคณะปวงชนชาวไทยเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์" (ปชก.) นำโดย นอ.(พิเศษ) คัมภีร์ คัมภีรญาณนนท์ เลขาธิการพรรคอธิปไตยปวงชนชาวไทย โดยผู้การคัมภีร์ จะเปิด "สภาปวงชนชาวไทย" ขึ้น เพื่อนำเสนอปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน
ปรากฏว่า มีขาวบ้านจากภาคอีสาน 50 คน เดินทางมาถึงเป็นกลุ่มแรก พวกเขาเคยมายื่นหนังสือกับศูนย์บริการประชาชน (สำนักงาน ก.พ.) ได้แก่ปัญหาที่ดินทำกิน หนี้สินนอกระบบ และผลกระทบของโครงการสร้างเขื่อนน้ำอูน อ.พังโคน จ.สกลนคร เห็นหน้า “ผู้การคัมภีร์” ก็ไม่ต้องไปค้นหาข้อมูลอะไรให้มากว่า เขาเป็นใครมาจากไหน เนื่องจากช่วงหลัง ผู้การหนุ่มใหญ่ออกมาปกป้อง “วัดพระธรรมกาย” ชัดเจน และล่าสุดก็เปิดศึกฟ้องร้องกับ “พุทธอิสระ” ในช่วงที่รัฐบาลประยุทธ์ กดดันวัดพระธรรมกาย ถึงขั้นใช้มาตรา 44 ผู้การคัมภีร์ ร่วมกับเครือข่ายจัดตั้ง “ศูนย์ประสานงานชาวพุทธ เพื่อความรู้รักสามัคคี” เพื่อเป็นกระบอกเสียงให้วัดพระธรรมกาย 
 

 

 

ศูนย์ประสานงานดังกล่าว มี “ซ้อลดาวัลย์” ลดาวัลย์ ปวีณชัย รองเลขาธิการพรรคฯ ร่วม พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ เภกะนันท์ สาวกธรรมกายคนสำคัญ เป็นผู้ประสานงาน
กล่าวสำหรับ “ซ้อลดาวัลย์” เป็นที่รู้จักกันดีของคนเสื้อแดงละแวกปทุมธานี และชานกรุงเทพฯ ฟากตะวันออก ในบทบาทของแม่ยกเสื้อแดง ที่ดูแลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและถูกจับกุมคุมขัง
ซ้อลดาวัลย์ได้ร่วมกับผู้การคัมภีร์ ก่อตั้งพรรคอธิปปวงชนชาวไทย โดยตัวเธอเองมีตำแหน่งเป็นรองเลขาธิการพรรคฯ
ส่วนประวัติส่วนตัวของ น.อ.(พิเศษ)คัมภีร์ เป็นชาวโคราช และศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 28 (โรงเรียนนายเรืออากาศ รุ่นที่ 35)
ครั้งหนึ่งเคยเป็นนายทหารคนสนิทของ พล.อ.พัฒน์ อัคนิบุตร สมัยที่เป็นประธานคณะกรรมการที่ปรึกษา รมว.กลาโหม (พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ) และเป็นนายทหารคนสนิท ของ พล.อ.กิตติพงษ์ เกษโกวิท ปลัดกระทรวงกลาโหม
นายทหารอากาศคนนี้ บอกว่า วิกฤตศรัทธาของศาสนาที่ผ่านมา หากปล่อยทิ้งไว้จะยากเกินจะแก้ไข และอาจจะกระทบต่อความมั่นคงของชาติ จึงได้ก่อตั่้งพรรคการเมืองของชาวพุทธ
พรรคอธิปไตยปวงชนชาวไทย มีความตั้งมั่นอย่างบริสุทธิ์ใจ ที่จะยกย่องเชิดชูพระพุทธศาสนา ให้เป็นศาสนาประจำชาติ
ยังไม่มีใครทราบเหตุผลลึกๆว่า ผู้การคัมภีร์ จึงหาญกล้ามาตั้งเวทีชุมนุม ท้าทายอำนาจ ม.44 แถมม็อบคนจนเที่ยวนี้ มาไวเคลมไว ไม่ถึงเวลาพระฉันเพล ก็ต้องเลิกรา
เหนืออื่นใด ผู้การคัมภีร์กับพรรคนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เหมือนที่สำนักข่าวบางแห่งพยายาม “ปั้นข่าว” ให้เป็นเรื่องใหญ่โตเมื่อปลายปีที่แล้ว
 

 

 

เหตุที่นำบทความนี้มาให้ท่านอ่าน ก็เพื่อที่จะตอกย้ำยืนยันว่า นปช. ลัทธิธรรมกาย และกลุ่มของนายคนนี้ เขาคืออ้วกเอียวอัน
แม้พวกลัทธิธรรมกายจะพยายามออกมามดเท็จ ว่าไม่เกี่ยวกับการเมือง แต่สุดท้ายพฤติกรรมมันทำให้เห็นสภาพความจริงว่า
พวกลัทธิธรรมกายกับคนเสื้อแดง ล้วนทำงานร่วมกันมาตลอดเวลา ไม่เช่นนั้น หมอเหวงจะออกมาพูดเองหรือว่า ทำลายวัดพระธรรมกายได้ ก็เท่ากับทำลายที่มั่นสุดท้ายของคนเสื้อแดง
แม้แต่ประธาน นปช. ก็ออกมาปกป้องธรรมกายเป็นระยะๆ จวบจนต้องเข้าไปอยู่ในคุก พอได้ประกันตัวออกมา ก็ไม่เห็นท่านประธาน นปช.พูดถึงลัทธิธรรมกายอีกเลย
เมื่อรุ่นเก่าเริ่มล้มเหลว ใช้การไม่ได้แล้ว พวกลัทธิธรรมกายก็ผลิตหัวหมู่ทะลวงฟันรุ่นใหม่ออกมา เพื่อหวังสร้างกระแสคะแนนนิยม ถึงขนาดไปเอาชาวบ้านนอกมาเป็นเครื่องมือตั้งม็อบตั้ง ๕๐ คน เพื่อเรียกร้องเร่งรัดให้มีการเลือกตั้ง พอเริ่มตั้งเวทีก็ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงเตะสกัดขา จนหงายเงิบหน้าแตก ดูไม่จืด นี่แหละหนา คนชอบโกหก ยากนักที่จะทำอะไรสำเร็จในชีวิต ก็ขนาดจะมาพบฉัน เขายังโกหกว่าคุณประวิตรส่งมาเลย เมื่อกล้าที่จะโกหก มีหรือคนพวกนี้จะไม่กล้าทำชั่วอย่างอื่นที่ยิ่งกว่านี้ อันนี้เป็นคำสอนของพระบรมศาสดานะจ๊ะ
พุทธะอิสระอยากตั้งข้อสังเกตว่า ตั้งแต่รัฐบาลเพลี่ยงพล้ำเรื่องการบังคับใช้กฎหมายจราจร ห้ามคนนั่งกระบะหลังรถปิคอัพเพราะมันผิดกฎหมาย และรัฐบาลต้องการจะลดความสูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางจราจรในช่วงเทศกาลสงกรานต์โดยมิได้คำนึงถึงความจำเป็นและวิถีชีวิตคนชนบท แล้วประกาศบังคับใช้กฎหมายทั้งที่กฎหมายจราจรข้อนี้มันเกิดขึ้นมาตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๒๒ แต่ผ่อนผันกันเรื่อยมาจนเกิดความเคยชิน ด้วยความห่วงใยจากรัฐบาลเลยกลายเป็นความไม่สบายใจจากประชาชน

อีกทั้งมีคนฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลพยายามที่จะจับผิดหาช่องทางโจมตี ทำลายล้างรัฐบาลอยู่แล้ว จึงได้ช่องหยิบมาเป็นประเด็นรุมกระหน่ำรัฐบาลจนกลายเป็นกระแสดราม่าจนถึงวันนี้
เมื่อรัฐบาลเปิดช่องฝ่ายตรงข้ามรัฐก็หาประเด็นอื่นๆ มารุมกระหน่ำรัฐบาล คสช.อีก เช่น หมุดคณะราษฎร ตามมาด้วยการขึ้นเบี้ยหวัดเงินเดือนเป็นกรณีพิเศษให้แก่คณะนายทหารผู้ร่วมทำงานในคณะ คสช. แถมมีเหตุระเบิดและซุ่มยิงในภาคใต้อีก ๑๓ เหตุการณ์ แม้แนวร่วมพรรคการเมืองของลัทธิทำจนกลายก็ออกมาผสมโรงอย่างที่เห็น
ดูท่าคนพวกนี้เขาจะไม่ได้ห่วงใยความอยู่รอดของชาติบ้านเมืองที่กำลังอยู่ในสถานการณ์ล่อแหลมว่าโลกจะเกิดสงครามนิวเคลียร์อยู่รอมล่อ แทนที่จะช่วยกันรักษาความสงบภายในบ้านเมือง แล้วให้ความร่วมมือกับภาครัฐ คอยเป็นหูเป็นตาสอดส่องดูแลป้องกันภัยที่จะเกิดขึ้น แต่คนกลุ่มนี้ก็ยังไม่สำนึก ดันมารุมกระหน่ำซ้ำเติมรัฐบาล
ฉันล่ะไม่เข้าใจเลยว่าคนพวกนี้เขาเป็นคนไทยหรือเปล่า"
พุทธะอิสระ

 

มาไวเคลมไว! "พระพุทธะอิสระ" แซะสกิดต่อมให้เจ็บเล่น "ผู้การคัมภีร์" หัวหน้าม็อบครึ่งแดด มาผิดที่ผิดเวลา เลยโดนต้อนส่งกลับบ้านก่อนเวลาอันควร

 

ขอบคุณข้อมูล-รูปภาพ : หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara)