- 03 พ.ค. 2560
รายการทีนิวส์สด ลึก จริง วันนี้ (3 พ.ค.60) นำเสนอ ความคืบหน้าคดีค้ากามแม่ฮ่องสอน ศาลอาญา รัชดาภิเษก อนุมัติหมายจับผู้ต้องหา จำนวนอีก 5 ราย
วานนี้ (2 พ.ค.) ศาลอาญา รัชดาภิเษก อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน จำนวน 5 ราย ประกอบด้วย นายมงคล เกียรติภักดีพงศ์ น.ส.กัลยา วุฒิคุณ น.ส.ขวัญหทัย ฤกษ์อุดม น.ส.ปัทมพร อิ่นแก้ว และ น.ส.กนกวรรณ รัตนภักดี ตามคำร้องขอพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.) ในข้อหาค้าประเวณี และเป็นธุระจัดหา ซึ่งผู้เสียหายให้การซัดทอดว่า ทั้งหมดเป็นแม่เล้า และผู้จัดหาในเด็กไปค้าประเวณีให้กับบุคคลต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน
พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ กล่าวว่า ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับไม่ได้เป็นข้าราชการ แต่เกี่ยวข้องกับขบวนการเป็นระดับธุระจัดหาเด็กค้าประเวณี ในระดับเดียวกับผู้ต้องหาหญิง 2 รายที่เจ้าหน้าที่จับกุมก่อนหน้านี้
จากการสืบสวนขณะนี้พบว่า มีบุคคลที่เกี่ยวข้องในความผิดการค้ามนุษย์เพียงเท่านี้ ซึ่งในส่วนของกลุ่มแม่เล้าที่ทำหน้าที่เป็นธุระจัดหาเด็กที่มารดาผู้เสียหายระบุว่ามีอยู่ 11 กลุ่ม แต่จากการสืบสวนพบมีอยู่เพียง 7-8 กลุ่ม ซึ่งเป็น กลุ่มของผู้ต้องหาที่ถูกจับ และที่เจ้าหน้าที่กำลังติดตามจับกุมอยู่ ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีบุคคลอื่น ไม่ว่าจะเป็นข้าราชการหรือพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้องในประเด็นนี้ แต่ต่อไปหากมีหลักฐานพยานเพิ่มเติมที่ระบุว่าบุคคลใดเข้ามาเกี่ยวข้องทาง ปคม.จะดำเนินการรวบรวมหลักฐานเพื่อขอให้ศาลอนุมัติหมายจับและติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี ส่วนการออกหมายจับนายตำรวจอีก 3 คน ระดับรองผู้กำกับการ สารวัตร และสิบเวร ที่ตั้งคณะกรรมการสอบไว้ก่อนหน้า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับเพิ่มเติม
ขณะที่ ในส่วนของตำรวจภูธรภาค 5 ทาง พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 ได้ส่ง พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า รอง ผบช.ภ.5 พร้อมชุดทำงานสืบสวนสอบสวนลงพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ทำการสอบสวนในทุกคดีทุกประเด็นที่มีการร้องเรียนให้กระจ่าง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานให้สมบูรณ์ และดำเนินการกับผู้ที่เข้ามาเกี่ยวข้องในคดีนี้อย่างถึงที่สุด
และในส่วนนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ อดีต ผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน ก็ได้กล่าวภายหลังเข้ารายงานตัวว่า ปลัดกระทรวงมหาดไทยมอบหมายให้ตนทำแผนพัฒนาจังหวัดแบบบูรณาการ ส่วนเรื่องคำสั่งย้ายนั้น ตนได้ระบุกับปลัดกระทรวงมหาดไทยว่า "ผมยอมเจ็บปวดเพื่อให้ระบบอยู่ได้" ซึ่งการที่ตนออกมาจากพื้นที่จะทำให้เกิดอิสระในการสอบสวน และตนก็ยินดีที่จะออกมาเพื่อให้ทุกอย่างอิสระ เกิดความโปร่งใส
"ผมยืนยัน ไม่เคยประพฤติชั่วเช่นนั้น ขณะนี้กระบวนการตรวจสอบของกระทรวงมหาดไทยก็ยังไม่เสร็จสิ้น หรือมีข้อสรุปว่าผม ทำผิด ไม่ว่าผลสอบจะออกมาอย่างไร ก็พร้อมยอมรับทุกอย่างเสมอ ความจริงก็คือความจริง ขอให้ความจริงได้ปรากฏก่อนแล้วค่อยบอกว่าใครถูกใครผิด ตอนนี้ขอให้สื่อมวลชนไปหาความจริงก่อน ผมยอมเจ็บปวดเพื่อให้สังคมอยู่ได้ ซึ่งนี่จะเป็นบทเรียนของสังคมที่จะเรียนรู้ต่อไป" นายสืบศักดิ์กล่าว
ขณะเดียวกัน มีข้อมูลด้วยว่านาย บุญญฤทธิ์ นิปวณิช ปลัดอำเภอ จ.แม่ฮ่องสอน ได้แจ้งต่อชุดสอบสวนว่าเมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่ผ่านมาระหว่างงานเลี้ยงรับตำแหน่ง ผวจ.คนใหม่ มีผู้เสนอของหวานให้กับเจ้านาย โดยมีแม่เล้านำเด็กสาวมาให้เลือกตัวมากถึง 10-15 คน และสถานที่เสพสุขกันคือโรงแรมธนโชติรีสอร์ท อยู่ห่างจากที่จะงานประมาณ 1 กม. และการที่มีกระแสข่าวออกมาว่าทีมสอบสวนของรอง ผบ.ตร.เตรียมออกหมายจับ "บิ๊กข้าราชการ" ของ จ.แม่ฮ่องสอน จะเป็นข้าราชการระดับสูงที่สังคมจับตาหรือไม่
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึง ความคืบหน้าการสอบสวนผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่ถูกระบุเป็นผู้ซื้อบริการนั้น ขณะนี้คณะกรรมการที่ลงไปสอบสวนคนในพื้นที่แล้ว แต่ได้รับข้อมูลเพียงบางส่วนเท่านั้น เพราะมหาดไทยไม่สามารถเข้าไปพูดคุยกับผู้เสียหายหรือพยานได้เพราะอยู่ในการคุ้มครองพยาน ขณะที่คำสั่งย้ายผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอนเข้ามาทำงานที่กระทรวงมหาดไทย นั้นเพื่อเป็นการลดข้อคลางแคลงใจในการสอบสวน.