- 03 พ.ค. 2560
ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ในขณะที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง
ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง "พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน " ฉบับที่ 2 ลงวันที่ 03 พฤษภาคม 2560 เวลา 17.00 น. ความว่า
ในช่วงวันที่ 4-7 พฤษภาคม 2560 บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองฟ้าผ่า และลมกระโชกแรงเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่โดยเฉพาะในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และอากาศจะคลายความร้อนลง ซึ่งจะมีผลกระทบตามภาคต่างๆดังนี้
วันที่ 4-5 พฤษภาคม 2560 พายุฤดูร้อนจะเกิดขึ้นบริเวณด้านตะวันออกของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก บริเวณจังหวัดน่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ เลย หนองบัวลำภู ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี และสระแก้ว
วันที่ 5-7 พฤษภาคม 2560 บริเวณที่เกิดพายุฤดูร้อนจะเพิ่มมากขึ้น และครอบคลุมบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ในขณะที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ในช่วงวันและเวลาดังกล่าวไว้ด้วย
ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจากประเทศจีนจะแผ่ลงปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศแปรปรวนและมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น
ประกาศ ณ วันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 17.00 น.
กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไป ใน วันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 เวลา 23.00 น.
(ลงชื่อ) วันชัย ศักดิ์อุดมไชย
(นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย)
อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา
กรมอุตุนิยมวิทยาได้พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 3 พฤษภาคม 2560 โดยพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีอากาศร้อนกับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองได้บางแห่ง ส่วนมากบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง และภาคใต้ รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ในช่วงวันที่ 4-7 พฤษภาคม 2560 ประเทศไทยตอนบนจะเกิดพายุฤดูร้อนขึ้น โดยมีพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า ลมกระโชกแรง กับลูกเห็บตกในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวควรหลีกเลี่ยงที่โล่งแจ้ง การอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ซึ่งจะเกิดขณะที่มีพายุฤดูร้อนไว้ด้วย
บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ปกคลุมประเทศจีนตอนใต้แล้ว คาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนในวันพรุ่งนี้ (4 พ.ค. 60) ในขณะที่ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้
ภาคเหนือ
อากาศร้อนกับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดพะเยา น่าน แพร่ อุตรดิถต์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 37-40 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเลย หนองบัวลำภู ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคกลาง
อากาศร้อนกับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี ลพบุรี และสระบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 38-40 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 26-29 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-39 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ฝั่งตะวันออก
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา
อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม/ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร
ภาคใต้ฝั่งตะวันตก
มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
อากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่
อุณหภูมิต่ำสุด 27-29 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.