สังคมเสื่อม!! ผู้ปกครองหัวหมอยัดข้อหาครูชายกระทำชำเราเด็ก ใช้ลูกตัวเองเป็นเหยื่อใส่ร้ายสารพัด สุดท้ายรอดมาได้ถามสังคม "ฟ้องกลับดีไหม??"

เพจ แหม่มโพธิ์ดำ ได้แชร์เรื่องราวสะเทือนใจสังคมกรณีที่แม่กล่าวหาว่าครูหนุ่มกระทำชำเราเด็กนักเรียน เพื่อเรียกเงินค่าเสียหายสิบล้านบาท โดยกรณีใช้เด็กหรื

เพจ แหม่มโพธิ์ดำ ได้แชร์เรื่องราวสะเทือนใจสังคมกรณีที่แม่กล่าวหาว่าครูหนุ่มกระทำชำเราเด็กนักเรียน เพื่อเรียกเงินค่าเสียหายสิบล้านบาท โดยกรณีใช้เด็กหรือลูกของตัวเองเป็นเหยื่อ โดยผู้โพสต์ได้ระบุว่า...

#ครูชายหวิดหมดอนาคต #เจอผู้ปกครองหัวหมอ #ยัดข้อหากระทำชำเราเด็ก #ทั้งๆที่สอนอยู่อีกคลาส #เรียกเงินสิบล้าน #ประเทศไทยยุคใหม่ใช้เด็กเป็นเครื่องมือ #ทำลายอนาคตคตอื่น สวัสดีควีน เราเป็นแฟนเพจ ชอบตามอ่านหลายคดีที่เกิดขึ้นในสังคม ยิ่งเห็นคดีที่นักฟุตบอลโดนใส่ร้ายนี่ รู้ซึ้งดีเลยควีน เพราะเมื่อปี 54 แฟนเราก็เคยเจอเหตุการณ์แบบนั้นเลย แฟนเราสอนอยู่โรงเรียนดังย่านแหล่งอ่าง อยู่ๆตอนเลิกงานมีตำรวจเอาหมายเรียกมาให้ไปเข้าพบสอบปากคำคดี กระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 13 ปี แม่ของเด็ก (ลูกศิษย์ที่สอน) เข้าไปแจ้งความพร้อมอาม่า (ย่าของเด็ก) แจ้งว่าแฟนเราพาเด็กเข้าห้องน้ำที่ชั้นล่างในโรงเรียน(ตรงนั้นจะมีห้องนั่งพักทานข้าว และนั่งพักผ่อนของครู) อาม่าบอกกับตำรวจว่าเด็กโดนแฟนเราอุ้มเข้าไป แถมเด็กบอกแฟนเราเอาเกลือแท่ง มาจี้ๆที่ตรงนั้นของเด็ก แถวจับเด็กเหวี่ยง เอาน้ำราด (คือแฟนเรามีลูกสองคนกับเรามนฐานะพ่อคนและ ไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนั้น เด็กนักเรียนจะรักเค้าทุกคน)

 

วันที่ไปพบตำรวจดีนะเรารีบหาทนายไปด้วย ไม่งั้นคงโดนจับไปเลยมั้ง เพราะเรายินดีตรวจ DNA เพื่อพิสูจน์ ตอนแรกตำรวจจะพาไป แต่ทนายเราแย้งว่าขอให้ศาลสั่ง พอวันขึ้นศาลสอบพยาน วันที่สอง อาม่าให้การกับศาลว่าเรากับแฟนพากันไปที่โรงเรียนใหม่ของเด็ก และเอาปืนไปพกใส่ในเสื้อให้เด็กดูในขณะเด็กยืนเคารพธงชาติอยู่ที่โรงเรียนใหม่ แต่โชคดีที่วันและเวลาดังกล่าวเราอยู่ที่ศาลและมีภาพจากกล้องวงจรของศาลชี้ชัดว่าเราไม่ได้ไปตามที่อาม่ากล่าวหาเรา (หลังเกิดเหตุแฟนเราลาออกทันทีเพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าไม่ได้ทำและกลัวโรงเรียนเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่เด็กยังคงเรียนอยู่จนจบเทอม ที่สำคัญพี่สาวของเด็กยังคงเรียนอยู่จนถึงปัจจุบัน ควีนว่าถ้าเกิดกรณีนี้กับลูกหลานเรา จะยังคงให้เรียนที่เดิมมั้ย) สารพัดเรื่องที่แม่เด็กและอาม่าใส่ความแฟนเรา ผลจากแพทย์ก็ระบุแค่ว่าเยื่อพรมจรรย์ฉีกขาด แต่อาจเกิดได้หลายสาเหตุเช่นวิ่ง หรือ ขี่จักรยาน หรือถ้าเด็กเอามือไปเกางี้ ส่วนรอบนอกก็บวมแดงปกติ (เด็กอายุ 2.5 ปี ยังใส่แพมเพิสอยู่ มาเรียนก็ใส่)

วันเกิดเหตุฝนตกแถมมีคนอยู่ตรงจุดเกิดเหตุด้วยเยอะ ผู้ปกครองก็มียืน แม่บ้านก็มียืนเอาขนมขายตรงนั้น เราก็ไม่รู้ว่าตำรวจแจ้งมาแบบนั้นได้ยังงัย ผ่านไป 3 ศาลทางเราชนะหมดเพราะมีถาพจากกล้องวงจร และจากการลงบันทึกการสอนไว้ว่าเวลานั้นแฟนเรายังคงสอนอยู่ ตอนนี้เลยสงสัยทำไมเดี๋ยวนี้พ่อแม่เด็กถึงกล้าใช้เด็กเป็นเครื่องมือขนาดนั้นเลยหรอ คนเราไม่เคยผิดใจกัน ควีนว่าเราจะฟ้องกลับดีมั้ย หรือปล่อยอโหสิกรรมดี บางทีคิดก็แอบแค้นใจ คนตั้งใจทำงานกลับต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ วินาทีที่เรากับลูกเห็นแฟนอยู่ในห้องควบคุมใต้ศาลอาญาคือ สุดๆแล้วควีนเอ๋ย

ขอบคุณ :  แหม่มโพธิ์ดำ