ย้อนคำพูด “ทักษิณ” ถึง “บรรหาร” สุพรรณหมูมาก กับกลการเมืองพรรคชาติไทยพัฒนา.... “บิ๊กท็อป” แค่หุ่นเชิด

ย้อนคำพูด “ทักษิณ” ถึง “บรรหาร” สุพรรณหมูมาก กับกลการเมืองพรรคชาติไทยพัฒนา.... “บิ๊กท็อป” แค่หุ่นเชิด

หลังสิ้นชื่อ “มังกรเติ้ง” นายบรรหาร ศิลปอาชา เจ้าของพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ที่สามารถกำหนดทิศทางของพรรคได้เกือบทั้งหมด จนเรียกได้ว่าทุกความเคลื่อนไหวของชทพ.มาจากมันสมองของ “มังกรเติ้ง” แต่เพียงผู้เดียว ฐานเสียงหลักของชทพ.ที่รู้กันทั่วหล้าคือจังหวัดสุพรรณบุรี 

หากชทพ.จะหาใครสักคนมาเป็นตัวแทนก็ต้องเลือกคนที่ชาวสุพรรณไว้วางใจ ชื่อผู้กุมอำนาจในชทพ.คนใหม่จึงจับจ้องไปที่ “บิ๊กท็อป” นายวราวุธ ศิลปอาชา ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ "มังกรเติ้ง" แม้ตัวของ "ท็อป" เองหากว่ากันตามทรงแล้วดีเอ็นเอพ่อไม่แรงเท่าที่ควร เพราะไม่ค่อยชอบเล่นการเมืองตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว 

ศึกครั้งนี้หากออกตัวรับตำแหน่งหัวชาติพรรคชทพ.จริงๆคงเป็นเพราะเงื่อนล็อคเข้าตาจนมากกว่า เพราะหากชทพ.เลือกชูหัวหน้าพรรคที่ไม่ใช่เลือดแท้ของ "บรรหาร" มีหวังฐานเสียงหลักอย่างจังหวัดสุพรรณบุรีจะถูกพรรคคู่แข่งเจาะได้ง่ายจากของตายส.ส.การันตี 5 ที่นั่งอาจจะโดนแย่งไปได้ 

และหากย้อนไปเมื่อการเลือกตั้งปี 2554 เคยโดนพรรคเพื่อไทยเจาะไปได้ 1 ที่นั่ง ว่ากันว่าหลังการเลือกตั้ง 2554 "แม้ว" นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ส่งข้อความเย้อหยัน "บรรหาร" ฝากผ่านนายประภัตร โพธิ์สุทน อดีตเลขาธิการพรรคชาติไทย อดีตลูกน้องคู่คิด "บรรหาร" มายาวนาน "ทักษิณ" บอกกับ "ประภัตร" ในวันที่มีชัยเหนือชทพ.ว่า "ฝากบอกพี่เติ้งหน่อยนะสุพรรณหมูมาก" 

แถมชทพ.ยังต้องเข้าร่วมกับ "ทักษิณ" เพื่อจัดตั้งรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ตามสไตล์ฉายาปลาไหล เข้าร่วมกับทุกพรรคได้หากสมประโยชน์ 

มาวันที่ไร้ "บรรหาร" ข่าวลือ "ทักษิณ" จ้องหุบพรรคชทพ.ยิ่งมีโอกาสสูงขึ้น บวกกับเงื่อนไขที่ต้องเฉลี่ยโควต้าส.ส.บัญชีรายชื่อเกลี่ยไปยังพรรคอื่น เพราะตามรัฐธรรมนูญแล้วส.ส.พรรคเพื่อไทย คงได้ส.ส.เขตจำนวนมาก ฐานคะแนนที่จะถูกนำไปคำนวณส.ส.บัญชีรายชื่อจะน้อยลงทันที 

ความจำเป็นของ "ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย" คือแตกพรรคสาขาให้ได้มากที่สุด เพื่อเพิ่มโอกาสให้ได้ส.ส.บัญชีรายชื่อให้ได้จำนวนมากที่สุดเช่นกัน หากได้คะแนนเสียงน้อย และเสียเปรียบคะแนนเสียงของส.ว.เข้าไปอีก โอกาสจะเชิดหุ่นเข้ามานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคงยากเต็มที

ส่วนตัว “บิ๊กท็อป” แม้เปอร์เซ็นต์ที่นั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรคชทพ.มีสูงลิบ แต่คงเป็นได้แค่ “หุ่นเชิด” ของ “เสี่ยตือ” นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล และนายประภัตร โพธิ์สุทน เท่านั้น ไม่มีทางได้ “ดีลการเมือง” ด้วยตัวเอง เพราะบารมียังห่างชั้น

วันนี้ถ้อยแถลงของ “บิ๊กท็อป” ยังออกอาการแทงกั๊ก เพราะรู้ดีว่า “ดีลการเมือง” จากขั้วสีเขียวยังไม่จางหายไป หากยังจำกันได้ก่อนหน้ายังมีข่าวปล่อยว่า “พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา” องคมนตรี ในขณะที่ดำรงตำแหน่งรมว.ยุติธรรม มีโอกาสจะมากุมบังเหียนชทพ. แต่สูตรนี้ก็ต้องปิดตายไปหลัง “บิ๊กต๊อก” นั่งตำแหน่งองคมนตรี