ไม่ใช่เรื่องเล่นๆอีกต่อไป!!! ควรทำอย่างไรเมื่อเห็นคนไลฟ์สดฆ่าตัวตายผ่านเฟซบุ๊ก...พวกเขาต้องการความช่วยเหลือ ไม่ใช่เรื่องให้คุยกันสนุกปาก!!!

ไม่ใช่เรื่องเล่นๆอีกต่อไป!!! ควรทำอย่างไรเมื่อเห็นคนไลฟ์สดฆ่าตัวตายผ่านเฟซบุ๊ก...พวกเขาต้องการความช่วยเหลือ ไม่ใช่เรื่องให้คุยกันสนุกปาก!!!

วันที่ 17 พ.ค. 60 เพจเฟซบุ๊ก "Drama-addict" ได้โพสต์ข้อความโดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องที่กำลังเป็นกระแสสังคมอยู่ทกวันนี้คือ โรคซึมเศร้า / การไลฟ์สดฆ่าตัวตาย โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการแนะนำว่าควรทำอย่างไรเมื่อเราเจอเหตุการณ์แบบนี้

ตอนนี้การไลฟ์ฆ่าตัวตายในเฟซ อย่าว่าแต่ต่างประเทศเลย
กระทั่งในไทยก็มีแทบไว้เว้นวัน แต่เรายังไม่มีแนวทางปฎิบัติชัดเจน
ว่าถ้าเจองี้ควรทำไง กับระบบของเฟซบุ๊คที่ให้แจ้งเวลาคนโพสสเตตัสเสี่ยงฆ่าตัวตายหรือไลฟ์ฆ่าตัวตายก็ยังไม่ครอบคลุมถึงบ้านเรา

จ่าจึงขอเสนอแนวทางปฎิบัติเมื่อพบเห็นดังนี้

1. ไม่แชร์ต่อ เพราะการแชร์ไลฟ์ที่ว่าไป จะเสี่ยงมากต่อการเกิดการลอกเลียนแบบตามมาในภายหลัง อันนี้หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ในหัวข้อ suicidal copycat , suicidal contagion

2. แต่ถ้าเราเห็นแล้วไม่แชร์ แต่เงียบเฉยไม่ทำอะไรต่อ อันนี้ก็อันตราย เพราะคนที่ไลฟ์จะฆ่าตัวตายอยู่ก็จะไม่ได้รับความช่วยเหลือ และเสี่ยงที่จะฆ่าตัวตายได้ 

ดังนั้นให้บอกต่อ

 

ซึ่งอันนี้มันเป็นเรื่องยากนะ คือการที่จะบอกต่อให้เขาได้รับความช่วยเหลือ โดยไม่เกิดผลกระทบแบบในข้อแรกหรือเกิดให้น้อยที่สุด 

จะบอกต่อไปทางไหน ก็มีตั้งแต่มองหาว่า คนๆนั้นมี mutal friend ร่วมกับเรามั้ย ถ้ามีให้รีบทักไปสอบถามว่า สามารถติดต่อเจ้าตัวหรือครอบครัวของเขาได้มั้ยจะได้รีบเข้าไปช่วยเหลือ หรือลองโทรไปที่ฮอทไลนสุขภาพจิต 1323 แจ้งเรื่องนี้ หรือแจ้งไปที่สื่อมวลชนหรือเพจต่างๆก็ได้เพราะหลายที่มีช่องทางในการติดต่อสื่อสารกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าไปดูอีกที

ที่สำคัญอย่ามองว่า การไลฟ์จะฆ่าตัวตายในเฟซนั้นเป็นการเรียกร้องความสนใจ ไม่กล้าทำจริงหรอก เพราะการกระทำในลักษณะนั้น เป็นการส่งสัญญาณในรูปแบบนึง ประมาณว่าคนที่เป็นโรคซึมเศร้านี่ ตรรกะในสมองเขาต่างจากคนทั่วไป ซึ่งการที่เขามาทำลงเฟซนี่ไม่ได้แปลว่าเรียกร้องความสนใจ แต่อย่างที่บอก มันคือการส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือชนิดนึง

ซึ่งบางครั้งคนก็อาจจะลังเลว่า แล้วเราจะแยกพวกที่เรียกร้องความสนใจกับคนที่จะฆ่าตัวตายจริงๆออกจากกันยังไง

ไม่ต้องแยก เพราะอันนั้นเป็นหน้าที่หมอ และไม่ว่าเขาจะทำไปด้วยวัตถุประสงค์ใด นั่นก็แปลว่าเขาต้องการความช่วยเหลือจากจิตแพทย์และคนรอบๆเหมือนกัน ดังนั้นบอกต่อเพื่อให้ความช่วยเหลือไปถึงเขาให้ไวที่สุดก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง

เด๋วว่างๆจ่ามีนัดคุยกับหน่วยงานที่ดูแลด้านนี้ อาจจะลองเสนอให้เขาทำไกด์ไลน์แนวทางปฎิบัติเรื่องพวกนี้ให้ชัดเจนดู

ไม่ใช่เรื่องเล่นๆอีกต่อไป!!! ควรทำอย่างไรเมื่อเห็นคนไลฟ์สดฆ่าตัวตายผ่านเฟซบุ๊ก...พวกเขาต้องการความช่วยเหลือ ไม่ใช่เรื่องให้คุยกันสนุกปาก!!!

Cr.Drama-addict