- 19 พ.ค. 2560
รายการทีนิวส์ สด ลึก จริงวันนี้ (19พ.ค.60)นำเสนอรายงานกรณีพล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์ ประธานคณะอนุกรรมการ แถลงรายงานการปฏิรูปตำรวจ
เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 18 พฤษภาคม ที่รัฐสภา คณะอนุกรรมการเฉพาะกิจเพื่อศึกษาแผนการปฏิรูปกิจการตำรวจ ในคณะกรรมการประสานงานระหว่างสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)และสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) โดยพล.ต.ท.บุญเรือง ผลพานิชย์ ประธานคณะอนุกรรมการ แถลงรายงานการปฏิรูปตำรวจว่า รายงานผลการศึกษาดังกล่าวจะนำเสนอเข้าที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย เพื่อให้ความเห็นชอบก่อนที่เสนอต่อที่ประชุม ครม.พิจารณาต่อไป โดยคณะอนุกรรมการฯเห็นว่าองค์กรตำรวจควรปฏิรูปและเปลี่ยนแปลง โดย ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมทางอาญามารวมอยู่ภายใต้รัฐมนตรีคนเดียวกัน และให้การบริหารจัดการกระบวนการยุติธรรมทางอาญาสอดคล้องเป็นระบบเดียวกัน ทั้งตำรวจ อัยการ ศาล จะได้ประสานงานอย่างใกล้ชิด รวมทั้งมีการบูรณาการกับหน่วยงานที่บังคับใช้กฎหมายอื่นๆในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจส่วนใหญ่เห็นด้วยที่จะไปสังกัดกระทรวงยุติธรรม (ยธ.)
พล.ต.ท.บุญเรือง กล่าวว่า ส่วนการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) จะมีการปฏิรูป โดยใช้หลักเกณฑ์ต้องผ่านงานสอบสวนอย่างน้อย 2 ปี และร่วมรับผิดชอบสำนวนสอบสวนไม่น้อยกว่า 70 คดี
ขณะเดียวกันจะปรับปรุงเงินเดือนตำรวจให้เพียงพอต่อดำรงชีพ เพื่อให้เลี้ยงครอบครัวได้โดยไม่เดือดร้อน สามารถปฏิบัติหน้าที่ปราบปรามคนร้าย และอำนวยความยุติธรรมได้อย่างไม่มีความกังวลและห่วงใย
ทั้งนี้สิ่งที่เป็นปัญหาสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่คือการขาดแคลนงบประมาณ เช่น เมื่อเกิดคดีที่ต้องติดตามคนร้ายหรือคดีที่ต้องมีค่าใช้จ่าย แต่กลับไม่มีงบประมาณส่วนนี้ หลายครั้งตำรวจต้องออกเงินกันเอง เป็นการผลักตำรวจไปอยู่ในพื้นที่สีเทา
นอกจากนี้ จะให้มีการติดตั้งซีซีทีวีช่วยติดตามคนร้ายอีกทางหนึ่งเหมือนต่างประเทศที่ติดตั้งซีซีทีวีเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย แต่ของไทยมีความซ้ำซ้อน เพราะเป็นการติดตั้งโดยหลายหน่วยงาน จึงอยากให้โอนให้ทางตำรวจรับผิดชอบเพราะเป็นหน่วยงานที่ดูแลความสงบเรียบร้อยอยู่แล้