รู้หรือไม่?? ครั้งหนึ่ง “แม่ทัพแดง” ถูกนปช.ปิดล้อมสั่งคลานลอดหว่างขา-แลกชีวิต แต่ไม่ทำขอตายด้วยศักดิ์ศรี

วันสองวันนี้คนที่ให้สัมภาษณ์ดุเดือดตอบโต้มือลอบวางระเบิดบริเวณโรงละครแห่งชาติมากที่สุดไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น “แม่ทัพแดง” พล.ท.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะที่เป็นคนควบคุมดูแลพื้นที่ท้องสนามหลวง พื้นที่เตรียมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

โดยล่าสุด “บิ๊กแดง” ปรับรูปแบบการรักษาความปลอดภัยบริเวณท้องสนามหลวง โดยมอบให้ “บิ๊กติ่ง” พล.ต.สันติพงศ์ ธรรมปิยะ รองแม่ทัพภาค1 มาดูแลงานสนามหลวง แทน “บิ๊กโอ” พล.ต.พงษ์สวัสดิ์ พรรณจิตต์ พร้อมสั่งเพิ่มกำลังเสริม เพิ่มลาดตระเวณ เพิ่มงานการข่าว และเพิ่มกล้องวงจรปิด เพื่อปิดจุดตายทุกจุดไม่ให้เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ขึ้นอีก

หากยังจำกัดได้ “บิ๊กแดง” รบกับกองกำลัง “ขั้วตรงข้าม” อยู่ตลอดเวลาทั้งต่อสู้ในรูปแบบใต้ดินและบนดิน เผชิญหน้ากันจังๆก็หลายครั้งแล้ว ฉะนั้น “บิ๊กแดง” จึงรู้ดีว่ากลุ่มคนที่ยังไม่หวังดีกับประเทศจะมาไม้ไหน

งานนี้ “บิ๊กแดง” เอาจริงถึงขั้นประกาศทำศึกว่า "ไอ้พวกที่จ้องจะทำอะไรไม่ดี มันก็จ้องอยู่อย่างนั้น ผมก็ไม่รู้มันเอาหัวใจอะไร ที่ไม่เป็นคนไทยหรือยังไง ที่จะมาจ้องทำลายสัญลักษณ์ ทำลายสิ่งที่คนไทยในประเทศแทบทั้งหมดมีความจงรักภักดี แต่ก็ยังมีคน ที่ผมบอกได้เลย มีจิตใจชั่ว ยังคิดอะไรเลวๆ อย่างนี้อยู่ ไม่รู้คิดได้ยังไง ผมมั่นใจอยู่แล้วในความปลอดภัย แต่ไอ้คนทำก็หาเรื่องทำได้ตลอด ไม่รู้จะพูดยังไง"

ย้อนกลับไปในช่วงสู้ศึกการชุมนุมกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) เมื่อปี 2552 “สุเทพ เทือกสุบรรณ” เลขาธิการมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อนการปฏิรูปประเทศไทย เคยระบุไว้ในช่วงการชุมนุมกปปส.ว่า ก่อนวันที่ 10 เมษายน 2553 เกิดเหตุที่สถานีดาวเทียมไทยคม ลาดหลุมแก้ว ตนเป็นคนสั่งให้ตัดสัญญาณโทรทัศน์ช่องเสื้อแดง ต้องทำที่สถานีไทยคม ส่งเจ้าหน้าที่ทหารไปรักษาไม่ให้มวลชนเสื้อแดงพังสถานีไทยคม ปรากฏว่าทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่งตน

“ผมสั่งไม่ให้ถืออาวุธ เลยถูกคนเสื้อแดงที่มีจตุพร พรหมพันธุ์ นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ แกนนำนปช. หลายหมื่นคน ไปล้อมทุบตีทหารแตกพ่ายไม่เป็นขบวน เพราะมือเปล่า ประชาชนที่เห็นภาพก็ต้องสลดใจ เพราะเห็นมวลชนทุบตีทหารบาดเจ็บ ทหารส่วนใหญ่ถอนหมด เหลือ 20 คนติดในอาคารไทยคม ออกมาไม่ได้ ขึ้นไปอยู่บนดาดฟ้า”

นายสุเทพ เล่าต่อว่า มีนายตำรวจขึ้นไปเกลี้ยกล่อม บอกให้วางอาวุธแล้วเดินลอดขาคนเสื้อแดงออกมาจะปล่อยให้มีชีวิตรอด บังเอิญหัวหน้าทหารที่ติดข้างบนนั้นคือ พ.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ตำแหน่งขณะนั้น) เพื่อนพล.อ.ร่มเกล้า

“พล.อ.ร่มเกล้าเดินมาบอกผมว่า พี่เป็นผู้บังคับบัญชาที่นี่ พี่โปรดสั่งว่าอย่าให้เพื่อนผมวางอาวุธ พวกผมเป็นทหารมีศักดิ์ศรี ให้เดินลอดหว่างขาคนเสื้อแดงกลับบ้าน ให้พวกผมตายดีกว่า ขอตายด้วยศักดิ์ศรี แล้วผมขอให้ พ.อ.ร่มเกล้า ต่อโทรศัพท์ถึง พ.อ.อภิรัชต์ ผมบอกว่าแดงไหวไหม ไม่มีคนเข้าไปช่วยได้นะ มันกลางคืนแล้ว เขาตอบว่าพี่ครับ พี่ทำตามที่ร่มเกล้าเขาแนะพี่เถอะบอก ให้ผมอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีดีกว่าเดินลอดขาคนเสื้อแดงออกมา โชคดีที่ทั้งหมดนั้นรอด เพราะเขาไม่ยอม และไม่มีใครกล้าปลดอาวุธพวกเขา”

สุเทพ เล่าปิดท้ายว่า คนเหล่านั้นเป็นผู้ตัดสัญญาณไทยคม ทำให้ฝ่ายรัฐบาลไม่เสียเปรียบ แต่ พ.อ.ร่มเกล้า กลายเป็นที่เกลียดชังถูกหมายหัวของจอมบงการแกนนำเสื้อแดงทั้งหลาย เมื่อ พ.อ.ร่มเกล้า กับเจ้าหน้าที่ผู้บังคับบัญชาทั้งทีมเข้ามาปฏิบัติการตรงนี้ (แยกคอกวัว) เข้ามาติดในพื้นที่สังหาร เพราะไม่คิดว่าคนไทยด้วยกันจะทำกับคนไทยด้วยกันกลางกรุงเทพมหานคร เขาจึงเสียชีวิต

โดย “บิ๊กแดง” เปิดเผยภายหลังว่า “ผมไม่อยากพูดอะไรมาก ช่วงนี้ก็รู้อยู่ว่าทหารถูกจับจ้อง แต่เหตุการณ์ที่ไทยคมเราจะเดินไปยอมแพ้กับพวกมันคงไม่ได้ เราเป็นทหารถ้าเดินไปยอมแพ้คงไม่ใช่ทหาร”

นี่คือนาทีชีวิตที่ “บิ๊กแดง” ต้องเผชิญหน้ากับ “กลุ่มนปช.” แม้จะเหลือลูกน้องเพียงไม่กี่คน แต่ “บิ๊กแดง” ไม่ยอมเอาศักดิ์ศรีความเป็นทหารไปแลกกับชีวิต แม้จะเสี่ยงแค่ไหน แม้จะไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่ขอ “ตาย” ดีกว่าหากต้องทำสิ่งที่ขัดกับตัวตนของความเป็นทหาร