รายการทีนิวส์สด ลึก จริงวันนี้(30พ.ค.)นำเสนอรายงานข่าว

       เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม เวลา 09.00 น. ที่โรงแรมเซ็นทรัลทาราแกรนด์ แอทเซ็นทรัลเวิล์ด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “การค้าข้าวไทยและทิศทางในอนาค” ถึงกรณีที่ได้ฝากคำถาม 4 ข้อ โดยขอให้ประชาชนคิดก่อนตัดสินใจเลือกตั้ง ว่า “ด้วยความห่วงใยจากผมในฐานะนายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ซึ่งวันนี้ทุกคนยังไม่ได้ตอบคำถามที่ผมถามไป แต่ที่ถามไปนั้นไม่ได้ถามว่าผมจะไม่ไปหรืออะไร แต่ถามไปว่าวันหน้าจะทำอย่างไรเท่านั้นเอง โดยไม่ได้จะเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งสิ้น ก็เป็นไปตามที่พ่อแม่พี่น้องต้องการ”

    พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า จุดประสงค์ที่ถามคือต้องการให้ประชาชนได้คิดในสิ่งที่ตนได้ถาม เพราะวันนี้มีการพูดในระดับท้องถิ่น ชุมชน และหมู่บ้าน ซึ่งเดินสายพูดอยู่ข้างล่าง และบิดเบือนทุกอย่าง โจมตีตนทางสื่อ จึงได้ถามกลับไป ว่าสิ่งที่พวกเขาพูดมาทั้งหมดนั้นจะเป็นจริงหรือไม่ เช่นที่บอกว่าหากได้กลับมาเป็นรัฐบาล ก็จะให้มีโครงการรับจำนำข้าวอีก กลับมาแล้วจะทำหลายอย่างที่ประชาชนได้รับผลประโยชน์โดยตรง ตนจึงได้ถามว่าถ้าปัญหาเหล่านี้กลับมาประชาชนจะทำอย่างไร

    “เมื่อเขาเล่นงานผม ผมก็ต้องถามกลับไปบ้าง แล้วทำไมจะต้องฟังแต่เขาข้างเดียวหรือ ผมไม่มีโอกาสจะพูดอะไรเลยเหรอ ช่วยผมสิ ผมต้องการสร้างความคิด เลือกตั้งผมไม่ได้ขัดแย้ง ยังไงก็ต้องมี โรดแมปว่าเมื่อไรก็ต้องเมื่อนั้น แต่วันนี้แค่เลือกตั้งยังไม่ยอมกันเลย ต่างเร่งให้เร็วแค่นี้แค่นั้น มีความไม่สงบเกิดขึ้น แล้วบอกว่าจะต้องเลือกตั้งให้เร็วขึ้น จะต้องขยายความให้เขาทำไม ประเทศไหนก็ไม่มีหรอก ถ้าไม่สงบเรียบร้อยก็ทำอย่างอื่นไม่ได้ ผมไม่เคยพูดสักคำว่าจะไม่เลือกตั้ง แล้วนักการเมืองตีความอย่างนั้นทำไม หลายคนที่ออกมาพูดวันนี้สร้างความเสียหาย วันหน้าถ้าเกิดปัญหาขึ้นอีกจะเรียกใคร ประยุทธ์ไม่อยู่แล้วจะเรียกใคร แล้วบอกทหารไม่ต้องรัฐประหารซึ่งไม่มีใครอยากจะทำอยู่แล้ว ถ้าพวกคุณไม่สร้างความเสียหายไว้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
    
    “เมื่อเขาเล่นงานผม ผมก็ต้องถามกลับไปบ้าง แล้วทำไมจะต้องฟังแต่เขาข้างเดียวหรือ ผมไม่มีโอกาสจะพูดอะไรเลยเหรอ ช่วยผมสิ ผมต้องการสร้างความคิด เลือกตั้งผมไม่ได้ขัดแย้ง ยังไงก็ต้องมี โรดแมปว่าเมื่อไรก็ต้องเมื่อนั้น แต่วันนี้แค่เลือกตั้งยังไม่ยอมกันเลย ต่างเร่งให้เร็วแค่นี้แค่นั้น มีความไม่สงบเกิดขึ้น แล้วบอกว่าจะต้องเลือกตั้งให้เร็วขึ้น จะต้องขยายความให้เขาทำไม ประเทศไหนก็ไม่มีหรอก ถ้าไม่สงบเรียบร้อยก็ทำอย่างอื่นไม่ได้ ผมไม่เคยพูดสักคำว่าจะไม่เลือกตั้ง แล้วนักการเมืองตีความอย่างนั้นทำไม หลายคนที่ออกมาพูดวันนี้สร้างความเสียหาย วันหน้าถ้าเกิดปัญหาขึ้นอีกจะเรียกใคร ประยุทธ์ไม่อยู่แล้วจะเรียกใคร แล้วบอกทหารไม่ต้องรัฐประหารซึ่งไม่มีใครอยากจะทำอยู่แล้ว ถ้าพวกคุณไม่สร้างความเสียหายไว้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

    “เมื่อเขาเล่นงานผม ผมก็ต้องถามกลับไปบ้าง แล้วทำไมจะต้องฟังแต่เขาข้างเดียวหรือ ผมไม่มีโอกาสจะพูดอะไรเลยเหรอ ช่วยผมสิ ผมต้องการสร้างความคิด เลือกตั้งผมไม่ได้ขัดแย้ง ยังไงก็ต้องมี โรดแมปว่าเมื่อไรก็ต้องเมื่อนั้น แต่วันนี้แค่เลือกตั้งยังไม่ยอมกันเลย ต่างเร่งให้เร็วแค่นี้แค่นั้น มีความไม่สงบเกิดขึ้น แล้วบอกว่าจะต้องเลือกตั้งให้เร็วขึ้น จะต้องขยายความให้เขาทำไม ประเทศไหนก็ไม่มีหรอก ถ้าไม่สงบเรียบร้อยก็ทำอย่างอื่นไม่ได้ ผมไม่เคยพูดสักคำว่าจะไม่เลือกตั้ง แล้วนักการเมืองตีความอย่างนั้นทำไม หลายคนที่ออกมาพูดวันนี้สร้างความเสียหาย วันหน้าถ้าเกิดปัญหาขึ้นอีกจะเรียกใคร ประยุทธ์ไม่อยู่แล้วจะเรียกใคร แล้วบอกทหารไม่ต้องรัฐประหารซึ่งไม่มีใครอยากจะทำอยู่แล้ว ถ้าพวกคุณไม่สร้างความเสียหายไว้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า สื่อมวลชนเองก็รู้ว่ามีความเคลื่อนไหวของนักการเมือง เพื่อเตรียมการเลือกตั้ง โดยต้องการให้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม มีการเคลื่อนไหวมานานแล้ว เป็นการเดินสายเพื่อดิสเครดิตรัฐบาลทุกเรื่อง เพราะไม่ต้องการให้สิ่งใหม่ๆเกิดขึ้น แต่ต้องการให้ทุกอย่างกลับไปที่เดิม มีรัฐธรรมนูญและกฎหมายแบบเดิม แล้วประเทศไทยจะแก้ปัญหาอะไรได้ จึงขอถามคนไทยว่าต้องการความเปลี่ยนแปลงหรือไม่ หากต้องการก็ต้องคิดในสิ่งที่ถามไป และไม่ได้ถามเพื่อตัวเอง

    ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อได้คำตอบแล้วจะมีแนวทางดำเนินการอย่างไรต่อ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมจะเอามาคิดว่าจะดำเนินการอย่างไร โดยอาจจะเร่งรัดกระบวนการปฏิรูปให้เร็วขึ้น และสอดคล้องกับสิ่งที่จะเดินหน้า ไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่น แต่ที่ผมโดนโจมตีมาตลอดนั้นเป็นธรรมกับผมหรือไม่ เมื่อจะถามสักหน่อยก็ไม่ได้เลย แตะต้องไม่ได้ เขาเป็นใครถึงแตะไม่ได้ เป็นเจ้าของประเทศนี้หรือ เพราะเจ้าของประเทศนี้คือประชาชน ผมถามว่าประชาชนจะเอาอย่างไร ไม่ได้ถามว่าจะเลือกตั้งหรือไม่เลือกตั้ง ผมไม่ถามอะไรโง่ๆแบบนั้นอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อผมได้รับคำตอบจากประชาชนแล้ว จะส่งคำตอบให้สื่อมวลชนได้ดูด้วย เพราะสื่อเป็นส่วนหนึ่งในวงจรความขัดแย้ง จึงต้องสร้างความเข้าใจกับประชาชน และสร้างจิตสำนึก ซึ่งไม่ใช่หน้าที่นายกฯเพียงคนเดียว แต่เป็นหน้าที่ของทุกคน”